ชาวฝรั่งเศสเรือนแสนเข้าร่วม การเดินขบวนประท้วง รอบใหม่เมื่อวันพฤหัสบดี (13 เม.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น เพื่อคัดค้าน ร่างกฎหมายปฏิรูประบบบำนาญ ที่เสนอ การขยายอายุเกษียณการทำงาน จาก 62 ปี เป็น 64 ปี ซึ่งในวันนี้ (14 เม.ย.) ศาลรัฐธรรมนูญ จะมีคำตัดสินว่ากฎหมายฉบับนี้มีความชอบธรรมด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่ หากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยเห็นสมควร ประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส จะลงนามรับรองเป็นกฎหมายและบังคับใช้ภายในสิ้นปีนี้
อย่างไรก็ตาม ในการเดินขบวนประท้วงครั้งนี้ เหตุการณ์บานปลายโดยมีผู้ประท้วงในกรุงปารีสจำนวนหนึ่งได้บุกรุกเข้าไปในสำนักงานใหญ่ของบริษัท แอลวีเอ็มเอช โมเอต์ เฮนเนสซี่ หลุยส์ วิตตอง (LVMH Moët Hennessy – Louis Vuitton SE) หรือที่รู้จักกันในชื่อ แอลวีเอ็มเอช (LVMH) ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่สินค้าหรู เจ้าของแบรนด์หลุยส์ วิตตอง (Louis Vuitton) และอื่นๆอีกกว่า 70 แบรนด์ รวมทั้งทิฟฟานีแอนด์โค (Tiffany & Co.) คริสเตียน ดิออร์’ (Dior) เซโฟรา (Sephora) จิวองชี่ (Givenchy) มาร์ก เจค็อบ (Marc Jacobs) และเซลีน (Celine)
แกนนำกลุ่มผู้ประท้วงกล่าวว่า หากประธานาธิบดีต้องการหาเงินเพื่อเป็นทุนในระบบบำเหน็จบำนาญ ก็ควรมาที่นี่ (ที่บริษัท LVMH) นอกจากนี้ ยังเกิดเหตุรุนแรงเกิดขึ้นที่หน้าห้างสรรพสินค้า BHV เมื่อผู้ประท้วงพยายามบุกรุกเข้าไปภายในห้าง
ส่วนที่บริเวณหน้าศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งตำรวจประกาศให้เป็นพื้นที่ห้ามการชุมนุม ได้มีการปะทะกันระหว่างผู้ประท้วงกับตำรวจปราบจลาจลซึ่งใช้ระเบิดควัน กระสุนยาง และแก๊สน้ำตา ขณะที่ผู้ประท้วงบางส่วนขว้างปาพลุเพลิง และวัตถุสิ่งของใส่ตำรวจ โฆษกตำรวจปารีส กล่าวว่า มีกลุ่มหัวรุนแรงอย่างน้อยหนึ่งพันคนซึ่งอยู่แนวหน้าของพื้นที่ประท้วง พยายามก่อความรุนแรงตลอดเส้นทาง และขัดขวางการประท้วงอย่างสงบ
ยังมีรายงานเกี่ยวกับเหตุปะทะกันระหว่างผู้ประท้วงกับตำรวจปราบจลาจลในหลายเมือง ทั้งที่แรนส์และน็องต์ โดยที่กรุงปารีส มีผู้ประท้วงถูกจับกุม 47 คน และตำรวจบาดเจ็บมากกว่า 10 นาย
ทั้งนี้ กระทรวงกิจการภายในของฝรั่งเศส รายงานว่า มีประชาชนราว 380,000 คนเข้าร่วมการประท้วงทั่วฝรั่งเศสเมื่อวันพฤหัสบดี โดยอยู่ในกรุงปารีส 42,000 คน ลดลงจากการเดินขบวนประท้วงในรอบที่ 11 ในสัปดาห์ที่แล้วซึ่งมีประมาณ 570,000 คน ขณะที่ตำรวจเพิ่มการเฝ้าระวังการเคลื่อนไหวของกลุ่มที่ถูกเรียกว่า "กลุ่มสีดำ" ซึ่งมักก่อเหตุรุนแรง
อ่านเพิ่มเติม : ผ่าระบบบำนาญของฝรั่งเศส ในมุมมอง "วรวรรณ ธาราภูมิ"
อย่างไรก็ตาม นายเอมมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ยังคงยืนยันเดินหน้าการปฏิรูประบบบำนาญ เพื่อควบคุมงบประมาณรายจ่าย และนาย บรูโน เลอร์แมร์ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของฝรั่งเศส ได้ออกมาปกป้องแผนการปฏิรูปเงินบำนาญว่าเป็นเรื่องสำคัญที่จำเป็นต้องทำ เพื่อให้พลเมืองฝรั่งเศสมีความมั่นใจว่าจะมีความสมดุลทางการเงินภายในปี 2573
ข้อมูลอ้างอิง