ทำไม "Everything Everywhere All at Once" คว้าออสการ์ถล่มทลาย

13 มี.ค. 2566 | 07:01 น.

"Everything Everywhere All at Once" ภาพยนตร์ที่ถูกยกเป็น "Asian Representation" คว้าออสการ์ไปได้มากที่สุดถึง 7 สาขา และรางวัลใหญ่"ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม" ทำให้กระแสเกี่ยวกับคนเอเชียพลัดถิ่นถูกพูดถึงอีกครั้ง

งานประกาศผลรางวัล Academy Awards ครั้งที่ 95 หรือ "ออสการ์ 2023" ที่ปีนี้กลับมาจัดขึ้นอย่างยิ่งขึ้น ณ ดอลบี้ เธียเตอร์ นครลอสแองเจลิส เมื่อช่วงค่ำวันที่ 12 มีนาคม 2023 หรือตรงกับเช้าวันจันทร์ที่ 13 มีนาคม ตามเวลาในประเทศไทย 

 "Everything Everywhere All at Once" จากค่ายหนังอิสระ "A24" หนังที่ได้เข้าชิงรางวัลเยอะที่สุดในปีนี้ สามารถกวาดรางวัลไปได้มากที่สุดถึง 7 สาขา ได้แก่

1.รางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Best Picture)

2.รางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยม (Best Director) คือ แดเนียล ควอน กับ แดเนียล ไชเนิร์ต

3.รางวัลนักแสดงหญิงยอดเยี่ยม (Best Actress) คือ มิเชล โหย่ว (ชาวมาเลเซียเชื้อสายจีน)

4.รางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม (Best Supporting Actor) คือ โจนาธาน คี ควาน (ชาวอเมริกันเชื้อสายเวียดนาม)

5.รางวัลนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม (Best Supporting Actress) คือ เจมี ลี เคอร์ติส

6.รางวัลบทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม (Best Original Screenplay) คือ เดอะแดเนียลส์

7.รางวัลตัดต่อภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Best Film Editing)

 

Everything Everywhere All at Once หรือชื่อเรื่องภาษาไทยว่า ‘ซือเจ๊ทะลุมัลติเวิร์ส’ เป็นเรื่องราวที่กล่าวถึงความวุ่นวายจากการเดินทางข้ามพหุจักรวาลตัวละครหลักคือ “เอเวอลีน” รับบทโดย มิเชล โหย่ว หญิงชาวจีนที่หนีพ่อมาตั้งรกรากตั้งแต่เด็ก และเปิดร้านซักรีดอยู่ที่อเมริกา ซึ่งชีวิตครอบครัวของเธอเต็มไปด้วยความวุ่นวาย ก่อนจะพบเจอกับชะตากรรมที่เกี่ยวพันกับมัลติเวิร์สซึ่งเปลี่ยนแปลงชีวิตเธอและครอบครัวไปตลอดกาล

เหตุผลที่ภาพยนตร์เรื่องนี้กวาดไปถึง 7 รางวัลออสการ์

หลังออกฉาย Everything Everywhere All at Once ได้รับเสียงตอบรับจากคอหนังทั่วโลก  บรรดานักวิเคราะห์ และคอหนัง ต่างให้ความคิดเห็นในแง่บวกเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า มีหลากอารมณ์ ทั้งความสนุกสนาน, ลึกซึ้ง, บ้าระห่ำ และแปลกประหลาด แตกต่างจากภาพยนตร์เรื่องอื่นๆในตลาดอเมริกาอย่างสิ้นเชิงในช่วงเกือบ 10 ปีที่ผ่านมา และยังนำเสนอเรื่องมัลติเวิร์สได้คุ้มค่า สร้างสรรค์ และแปลกใหม่กว่าภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโรอื่นๆ

นอกจากเนื้อเรื่องและไอเดียที่โดดเด่น บรรดานักแสดงก็ล้วนมากฝีมือ โดยเฉพาะ “มิเชล โหย่ว” นักแสดงสาวชาวมาเลเซียเชื้อสายจีน ก็ทำผลงานได้ดีจนคว้ารางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ถือเป็นนักแสดงผิวสีคนที่ 2 ในรอบ 95 ปีของออสการ์ที่คว้ารางวัลสาขานี้  ต่อจาก ฮัลลี เบอร์ลี  จากเรือง "Monster's Ball" (2001) 

เบื้องหลังความสำเร็จทั้งหมดของ Everything Everywhere All at Once  ยังต้องยกเครดิตให้  2 ผู้กำกับเพื่อนซี้ อย่าง “แดเนียล ควอน กับ แดเนียล ไชเนิร์ต” ฝีมือการกำกับของพวกเขา เป็นที่เลื่องลือว่า นอกจากนำเสนอเรื่องราวที่แฝงความกวนอย่างเจ็บแสบแล้ว  ยังแปลกและแตกต่างจากผู้กำกับคนอื่นๆโดยสิ้นเชิง 

การถ่ายทอดชีวิตชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชีย

"Everything Everywhere All at Once" สะท้อนเรื่องราวของอเมริกันเชื้อสายเอเชียที่แสดงโดยชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชีย  ที่ชีวิตต้องต่อสู้กับความท้าทายต่างๆ ทั้งการทำงานในสหรัฐ การถูกเหยียดเชื้อชาติ และบทบาทของผู้หญิงเอเชียถูกมองข้าม  แต่พวกเขายังต้องหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวเพื่อยืนหยัดอยู่ให้ได้ โดยไม่ละทิ้งรากเหง้าของตัวเอง  ซึ่งนี่ไม่ใช่ภาพยนตร์สะท้อนชีวิตาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียเรื่องแรก ก่อนหน้านี้ยังมีภาพยนตร์จากเอเชีย ที่ประสบความสำเร็จบนเวทีออสการ์หลายเรื่อง เช่น Minari ในปี 2020 หรือ The Farewell ในปี 2019 

ภาพยนตร์เรื่องนี้ทำรายได้ไปมากแค่ไหน

 Box Office รายงานว่า ตั้งแต่ "Everything Everywhere All at Once" ออกฉายเมื่อปลายปีที่แล้ว ล่าสุด ณ วันที่ 12 มีนาคม 2023 ทำรายได้ไปแล้ว 73.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา และทำรายได้ในภูมิภาคอื่นอีก 34.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมเป็น 108 ล้านดอลลาร์สหรัฐทั่วโลก ทั้งที่ใช้ทุนสร้างไปแค่ประมาณ 25 ล้านดอลลาร์เท่านั้น

"Everything Everywhere All at Once"  อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ผู้คนในสังคมทั่วโลกให้เข้าใจ-เห็นใจ-ให้เกียรติ คนเชื้อสายเอเชียที่อยู่ต่างแดนมากขึ้น อย่างน้อยยิ่งเวลานี้ชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียกำลังได้รับการยอมรับมากขึ้นจากสถาบันที่มีชื่อเสียงที่สุดในวงการฮอลลีวูดอย่างออสการ์แล้ว 

 

ที่มา : CBC, Insider