ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ระเบิดมัสยิดในปากีสถานเพิ่มขึ้นเป็น 61 ราย

31 ม.ค. 2566 | 04:11 น.

อัพเดตเหตุการณ์ระเบิดมัสยิดในปากีสถานวานนี้ (30 ม.ค.) พบผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 61 ราย บาดเจ็บไม่ต่ำกว่า 150 คน ตาลีบันปากีฯ ปฏิเสธ ไม่เกี่ยวข้อง

 

อัพเดต เหตุการณ์ระเบิดมัสยิด ใน ปากีสถาน วานนี้ (30 ม.ค.) พบ ผู้เสียชีวิต เพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 61 ราย บาดเจ็บไม่ต่ำกว่า 150 คน และยังไม่มีกลุ่มก่อการร้ายใดออกมาแสดงความรับผิดชอบ

ตำรวจปากีสถานระบุว่า เหตุระเบิดรุนเเรงในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของปากีสถานในช่วงบ่ายวันจันทร์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมากถึง 61 รายเป็นอย่างน้อยในขณะนี้ โดยคาดว่ายอดผู้เสียชีวิตที่แท้จริงอาจมีมากกว่านี้ เนื่องจากยังคงมีผู้สูญหายที่ทางเจ้าหน้าที่ยังหาตัวไม่พบ และมีร่างผู้เสียชีวิตจำนวนหนึ่งที่ยังไม่มีการระบุตัวด้วย

ส่วนจำนวนผู้บาดเจ็บนั้น จนถึงขณะนี้มีไม่น้อยกว่า 150 ราย เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่เมืองเปชวาร์ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่าเป็นฝีมือของมือระเบิดพลีชีพ

ผู้เสียชีวิตจำนวนมากเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ

นายชาฟิอูลลา คาน เจ้าหน้าที่ระดับสูงฝ่ายความมั่นคงปากีสถาน เปิดเผยว่า พบผู้รอดชีวิต 2 คนจากซากปรักหักพังในที่เกิดเหตุ โดยหนึ่งในผู้รอดชีวิต ซึ่งเป็นนายตำรวจที่ชื่อ มีนา กูล ให้ปากคำว่า เขาอยู่ในมัสยิดขณะที่ร่วมสวดมนต์กับคนอื่นๆ เมื่อเกิดการระเบิด และเขาไม่ทราบว่า เหตุใดตนเองรอดชีวิตออกมาได้โดยไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่ได้ยินผู้คนร้องเสียงดังหลังเกิดการระเบิดขึ้น

เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลในเมืองยืนยันว่า มีการส่งผู้บาดเจ็บนับสิบคนมารับการรักษา โดยอาการของหลายคนนั้นจัดว่าอยู่ในขั้นรุนแรง

ทั้งนี้ รายงานข่าวระบุว่า เหยื่อส่วนใหญ่นั้นเป็นสมาชิกในกองกำลังตำรวจของแคว้นไคเบอร์ ปัคตุนควา และมัสยิดที่เกิดเหตุนี้ก็เป็นสถานที่ซึ่งเจ้าหน้าที่รัฐบาลและผู้ที่ทำงานฝ่ายความมั่นคงเดินทางมาบ่อยครั้ง

ชาห์บาส ชารีฟ นายกรัฐมนตรีปากีสถาน

แถลงการณ์ของรัฐบาลปากีสถานระบุว่า นายชาห์บาส ชารีฟ นายกรัฐมนตรี ขอประณามการก่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตายที่มัสยิดเมืองเปชวาร์ในครั้งนี้ ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่า กำลังสืบสวนเหตุการณ์อยู่ว่าเป็นฝีมือของกลุ่มใด และจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีกลุ่มใดอ้างความรับผิดชอบต่อเหตุระเบิดดังกล่าว

ขณะเดียวกัน นายอิมราน ข่าน อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้นำพรรคฝ่ายค้านหลักของปากีสถาน กล่าวผ่านทวิตเตอร์ว่า เขาขอประณามเหตุการณ์​ก่อการร้ายแบบฆ่าตัวตายในครั้งนี้เช่นกัน และว่า 

“เป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่งที่เราต้องพัฒนางานด้านการหาข้อมูลข่าวกรอง และการทำให้กองกำลังตำรวจของเรามีความพร้อมในการรับมือกับภัยคุกคามจากการก่อการร้ายที่เพิ่มมากขึ้น”

สำนักข่าววีโอเอของสหรัฐรายงานว่า แคว้นไคเบอร์ ปัคตุนควา ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุ ตั้งอยู่ที่ชายเเดนระหว่างปากีสถานและอัฟกานิสถาน และเคยประสบเหตุก่อการร้ายหลายครั้งในช่วงไม่นานนี้ โดยความรุนเเรงที่เกิดขึ้นในอดีตมักมีกลุ่ม "ตาลีบันแห่งปากีสถาน" หรือ Tehrik-i-Taliban Pakistan เป็นผู้อ้างความรับผิดชอบ

แต่ในแถลงการณ์ที่กลุ่มตาลีบันแห่งปากีสถานส่งให้กับสื่อต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงวีโอเอด้วยนั้น ทางกลุ่มระบุว่า ไม่ได้เป็นผู้ก่อเหตุโจมตีมัสยิดเมืองเปชวาร์ในครั้งล่าสุดนี้