ส่องประวัติ "โกตัม อดานี" หลังข่าวฉาวสอยร่วงจากเศรษฐีอันดับ 3 โลก

28 ม.ค. 2566 | 12:09 น.

ส่องประวัติ "โกตัม อดานี" หลังข่าวฉาวสอยร่วงจากเศรษฐีอันดับ 3 โลก เมื่อฮินเดนเบิร์ก รีเสิร์ช ออกรายงานว่าทางบริษัทได้ทำการฟอกเงิน ปั่นหุ้น และฉ้อโกงด้วยการตกแต่งบัญชี

"โกตัม อดานี" ชื่อนี้กำลังได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก หลังจากที่ "อดานี กรุ๊ป" เครือธุรกิจยักษ์ใหญ่ของอินเดียของนายโกตัม อดานี ซึ่งเป็นมหาเศรษฐีชาวอินเดีย และมีความร่ำรวยอันดับ 3 ของโลก และอันดับ 1 ของเอเชีย ถูกฮินเดนเบิร์ก รีเสิร์ช ซึ่งเป็นบริษัทด้านการลงทุนของสหรัฐ ออกรายงานว่าทางบริษัทได้ทำการฟอกเงิน ปั่นหุ้น และฉ้อโกงด้วยการตกแต่งบัญชี ผ่านรายงานชื่อ "Adani Group: How the World's 3rd Richest Man is Pulling the Largest Con in Corporate History" โดยระบุว่า นายโกตัม อดานี ได้ทำการฉ้อโกงครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์แวดวงธุรกิจโลก

ทั้งนี้ จากการเปิดเผยรายงานฉบับดังกล่าว ทำให้นักลงทุนแห่เทขายหุ้นในอาณาจักรธุรกิจของนายอดานี จนส่งผลให้มูลค่าตลาดหายไปราว 5 หมื่นล้านดอลลาร์ในการซื้อขายไม่ถึง 2 วัน และทำให้อันดับความร่ำรวยล่าสุดของนายอดานีตกสู่อันดับ 7 ของโลก จากเดิมอยู่ในอันดับ 3

สำหรับประวัติของ "โกตัม อดานี" นั้น สามารถสร้างความฮือฮา ขึ้นแท่นมหาเศรษฐีรวยที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลก เป็นรองจากอีลอน มัสก์ และเจฟฟ์ เบซอส เท่านั้น อีกทั้งยังสร้างประวัติศาสตร์เป็นเศรษฐีชาวเอเชียคนแรกที่ได้ครองตำแหน่งนี้
 

โกตัม อดานี เกิดวันที่ 24 มิถุนายน 1962 ในครอบครัวชนชั้นกลาง ที่รัฐคุชราต ทางภาคตะวันตกของอินเดีย มีพี่น้องด้วยกัน 7 คน ต่อมา พ่อได้พาครอบครัวย้ายจากเมืองธารัด ทางเหนือของรัฐคุชราต มาอยู่ที่เมืองอาห์เมดาบัด โดยพ่อทำธุรกิจเล็กๆ ค้าขายผ้า เพื่อหาเงินเลี้ยงดูครอบครัว

สามารถสอบเข้าเรียนระดับปริญญาตรีได้ที่มหาวิทยาลัยคุชราต คณะพาณิชยศาสตร์ และได้ตัดสินใจดรอป หรือหยุดพักการเรียนมหาวิทยาลัย หลังจากเรียนมหาวิทยาลัยคุชราตชั้นปี 2 

โกตัม อดานี เป็นคนที่มีนิสัยชื่นชอบการทำธุรกิจ และต้องการมีธุรกิจเป็นของตนเอง แต่ไม่ต้องการที่จะรับช่วงธุรกิจค้าขายผ้าของพ่อ ทำให้ อดานี มุ่งหน้าไปหางานทำในนครมุมไบ รัฐมหาราษฎระ ในปี 1978 โดยได้ทำงานเป็นพนักงานคัดแยกเพชรของบริษัท Mahendra Brothers และทำงานอยู่ประมาณ 2-3 ปี ก่อนจะตั้งบริษัทนายหน้าซื้อขายเพชร ที่ Zaveri Bazaar ในเมืองมุมไบ

อย่างไรก็ดี ในเวลานั้นที่เมืองอาห์เมดาบัด พี่ชายคนรอง ‘Mansukhbhai Adani’ ได้ซื้อกิจการโรงงานพลาสติกแห่งหนึ่งในปี 1981 และได้ชักชวนให้ โกตัม อดานี กลับมาช่วยเป็นผู้จัดการโรงงาน จึงเปรียบเสมือนเป็นการเปิดประตูที่นำ โกตัม อดานี ไปสู่การค้าขายกับต่างประเทศ ผ่านการนำเข้า โพลีไวนิล คลอไรด์ (PVC)
 

จากความเป็นคนขยันทำงาน และมีวิสัยทัศน์ก้าวหน้า ทำให้ในช่วงทศวรรษ 1990 โกตัม อดานี ได้ขยายธุรกิจเพิ่มมาก และเริ่มเข้าสู่การเป็นนักธุรกิจเทรดดิ้งเสริมสร้างความมั่งคั่ง ด้วยการลงทุนในอุตสาหกรรมเหล็ก สิ่งทอ ไปจนถึงการเกษตร

ต่อมา โกตัม อดานี ได้ขยายอาณาจักรธุรกิจกลุ่มบริษัทในเครือ "อดานี กรุ๊ป" ให้เติบโตกว้างขวางมากขึ้น ทั้งทำธุรกิจ ดำเนินกิจการท่าเรือ สนามบิน บริษัทสื่อ ขนส่งโลจิสติกส์ ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานความร้อน น้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ ไปจนถึงเทคโนโลยีอวกาศ รวมทั้งพลังงานสะอาด 

โดย อดานิ กรุ๊ป มีบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อินเดียมากถึง 7 บริษัท อย่างเช่น Adani Power บริษัทโรงไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ที่สุดในอินเดีย และตามรายงานของฟอร์บส์ ระบุว่า ในช่วงโควิด-19 ระบาดทั่วโลก ความร่ำรวยมั่งคั่งของ โกตัม อดานี พุ่งเร็วอย่างมาก หลังจากที่ตัดสินใจซื้อหุ้นจำนวนมากของบริษัทท่าอากาศยานระหว่างประเทศมุมไบ

จนกระทั่งในที่สุด จากการเติบโตก้าวหน้าของบริษัทในเครือ "อดานี กรุ๊ป" ที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้ โกตัม อดานี มีมูลค่าทรัพย์สินพุ่งทะยานขึ้นไปถึง 137,000 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 4.9 ล้านล้านบาท (คิดในอัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์ เท่ากับ 36 บาท) ขึ้นแท่นมหาเศรษฐีอันดับ 3 ของโลก เมื่อ 30 ส.ค. 2565 จากการจัดอันดับของบลูมเบิร์ก มิลลิแนร์ส อินเดกซ์

โกตัม อดานี แต่งงานกับ ปริติ อดานี ซึ่งเป็นทันตแพทย์ และมีลูกด้วยกัน 2 คน มีชีวิตส่วนตัวที่เงียบสงบ ไม่ค่อยมีคนภายนอกรู้เรื่องราวส่วนตัวของเขาและครอบครัวมากเท่าไรนัก รวมทั้งการใช้เงินในฐานะมหาเศรษฐีรวยสุดของอินเดีย

หลังจากสามารถสร้างฐานะทางการเงินได้อย่างมั่งคั่งแล้ว โกตัม อดานี ได้ก่อตั้งมูลนิธิ อดานิ (Adani Foundation) และปริติ ภรรยาทำหน้าที่เป็นผู้บริหารดูแล โดยมูลนิธิอดานิ ซึ่งมี โกตัม อดานี เป็นประธาน ไม่ใช่แค่เพียงให้ความช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนในด้านต่างๆ ในรัฐคุชราต ซึ่งเป็นรัฐบ้านเกิดเท่านั้น แต่ยังช่วยเหลือแก่รัฐหลายรัฐ อย่างเช่นในมหาราษฎระ และราชาสถาน