จีนเปิดประเทศเต็มสูบ ยกเลิกกักตัวผู้เดินทางขาเข้า เริ่ม 8 ม.ค.66

26 ธ.ค. 2565 | 22:47 น.

จีนเตรียมเปิดประเทศเต็มรูปแบบ โดยล่าสุดวานนี้ (26 ธ.ค.) ประกาศยกเลิกมาตรการกักตัวผู้เดินทางขาเข้า มีผลตั้งแต่ 8 ม.ค.66 คาดกระตุ้นการท่องเที่ยวคึกคักทั่วโลก

 

คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน (NHC) แถลงวานนี้ (26 ธ.ค.) ว่า จีน จะ ยกเลิกมาตรการกักตัว ผู้ที่เดินทางจากต่างประเทศเข้าจีน เริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค.2566 เป็นต้นไป หลังจากที่บังคับใช้เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของ โควิด-19 มานานกว่า 3 ปี โดยเงื่อนไขเดียวที่ยังคงมีอยู่คือ ผู้ที่จะเดินทางเข้าจีนยังคงต้องได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 แบบ PCR ก่อนขึ้นเครื่องบินจากประเทศต้นทางมายังจีนเป็นเวลา 48 ชั่วโมง

 

นอกจากนี้ จีนจะปรับลดระดับมาตรการจัดการเกี่ยวกับโควิด-19 จากปัจจุบันที่อยู่ในระดับ Category A ซึ่งเป็นมาตรการป้องกันขั้นสูงสุด สู่ระดับ Category B ที่ผ่อนคลายลงมากด้วย

 

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ความเคลื่อนไหวล่าสุดของจีนเท่ากับเป็นการยกเลิกนโยบายคุมเข้มโควิดที่เรียกว่า นโยบาย “โควิดเป็นศูนย์” (Covid Zero) ซึ่งส่งผลกระทบทางลบต่อเศรษฐกิจจีน และเป็นตัวจุดชนวนให้ประชาชนต้องลุกฮือขึ้นประท้วงใหญ่ทั่วประเทศช่วงปลายเดือนที่ผ่านมา

 

จีนเตรียมเปิดประเทศเต็มรูปแบบ ยกเลิกมาตรการกักตัวผู้เดินทางขาเข้า เริ่ม 8 ม.ค.66

 

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค. 2566 ผู้ที่เดินทางเข้าประเทศจีนไม่ต้องกักตัวหลังเดินทางถึงจีนอีกต่อไป จากเดิมที่ต้องกักตัวเป็นเวลาถึง 8 วัน (แบ่งเป็น 5 วันในโรงแรมที่ทางการจีนกำหนดไว้ให้หรือที่ศูนย์กักตัวกลาง และอีก 3 วันที่เหลือ ณ ที่บ้านหรือที่พัก) โดยผู้เดินทางที่ประสงค์เดินทางเข้าประเทศจีนเพียงแต่ต้องแสดงหลักฐานการตรวจหาเชื้อโควิด(แบบ PCR) เป็นลบก่อนขึ้นเครื่องบินจากประเทศต้นทางมายังจีนภายในเวลา 48 ชั่วโมง

 

มาตรการดังกล่าวมีผลครอบคลุมถึงชาวจีนที่จะเดินทางกลับจากต่างประเทศเข้าจีนด้วย ซึ่งหมายความว่าชาวจีนที่ออกเดินทางท่องเที่ยวในต่างประเทศจะสามารถเดินทางกลับเข้าประเทศได้สะดวกมากขึ้น นับเป็นการกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวของชาวจีนมากขึ้นอีกระดับหนึ่ง    

 

อัพเดตสถานการณ์โควิดในจีน

คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน (NHC) ระบุด้วยว่า ถึงแม้จีนจะผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิดลงบ้างแล้วก็ตาม แต่ทางการจะยังคงติดตามสอดส่องสถานการณ์การแพร่ระบาดเพื่อออกมาตรการที่เหมาะในการควบคุมโควิด-19 ที่กำลังมีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นในหลายพื้นที่ของประเทศจีน

 

สำนักข่าวบลูมเบิร์กเปิดเผยโดยอ้างอิงรายงานการประชุมของคณะกรรมาธิการสุขภาพแห่งชาติของจีนระบุว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในจีนอาจพุ่งขึ้นเกือบ 37 ล้านคนภายในวันเดียวในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ จำนวนผู้ติดเชื้อโควิดสะสมของจีนอาจมีจำนวนสูงถึง 248 ล้านคน หรือเกือบ 18% ของประชากรทั้งประเทศ ในช่วง 20 วันแรกของเดือนธ.ค.นี้

 

ในส่วนของยอดผู้เสียชีวิต ผลศึกษาระบุว่า ชาวจีนราว 1 ล้านคนอาจเสียชีวิตจากโรคโควิดภายในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า ท่ามกลางสถานการณ์การขาดแคลนยา และระบบสาธารณสุขที่ตึงตัว จากการที่จำนวนผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยจากโควิดเพิ่มสูงขึ้นมาก

จีนเริ่มเปิดประเทศมากขึ้น ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อโควิดยังพุ่งสูง

 

"สี จิ้นผิง" เรียกร้องเจ้าหน้าที่เร่งรักษาชีวิตผู้ป่วย

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ออกแถลงการณ์เมื่อวันจันทร์ (26 ธ.ค.) เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่เร่งดำเนินมาตรการต่างๆเพื่อรักษาชีวิตของผู้ป่วยโควิด-19 โดยย้ำว่า การป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 ในจีนกำลังเผชิญสถานการณ์ใหม่และภารกิจใหม่หลังจากที่ยกเลิกการใช้นโยบายโควิดเป็นศูนย์ โดยควรจะมีโครงการรณรงค์ด้านสาธารณสุขที่เน้นกลุ่มเป้าหมายมากขึ้นเพื่อสร้างแนวป้องกันและควบคุมโรคระบาดดังกล่าวในชุมชน รวมทั้งปกป้องชีวิตและสุขภาพของประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

 

แถลงการณ์ดังกล่าวนับเป็นการแถลงต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรกของปธน.สี จิ้นผิง นับตั้งแต่ที่จีนประกาศผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 เมื่อต้นเดือนนี้ (7 ธ.ค.)