แฉจีนหยุดรายงานยอดผู้ติดโควิดเพราะตัวเลขรายวันพุ่งแตะหลักล้านแล้ว

26 ธ.ค. 2565 | 01:11 น.

นับตั้งแต่ที่จีนได้ผ่อนปรนการคุมเข้มโควิดเมื่อวันที่ 7 ธ.ค.ที่ผ่านมา พร้อมทั้งไม่เปิดเผยจำนวนผู้ป่วยที่ไม่แสดงอาการ ทำให้เกิดคำถามว่า นี่คือการปกปิดข้อเท็จจริงใช่หรือไม่

 

หน่วยงานด้านสาธารณสุขของจีน ได้ยุติ การเผยแพร่จำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 แบบรายวัน เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.ที่ผ่านมา หลังจากที่มีการ ประกาศผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาด แบบเข้มข้นภายใต้นโยบาย "โควิดเป็นศูนย์" ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ที่ว่า ข้อมูลทางการที่เผยแพร่นั้น ไม่ได้สะท้อนถึงความเป็นจริงของการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของไวรัสโควิดสายพันธุ์ใหม่

 

คณะกรรมการด้านสาธารณสุขแห่งชาติของจีนไม่ได้อธิบายถึงเหตุผลสำหรับความเคลื่อนไหวดังกล่าว โดยระบุแต่เพียงว่า ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของจีนจะเผยแพร่ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับโควิด เฉพาะเพื่อการศึกษาและเพื่อการอ้างอิงเท่านั้น

         

อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา (23 ธ.ค.) ทางการจีนได้ยืนยันยอดผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่เพียงประมาณ 4,100 ราย ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 7 รายตั้งแต่วันที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่สำนักข่าวเกียวโด สื่อใหญ่ของญี่ปุ่นรายงานเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า จำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อแบบรายวันในประเทศจีนที่แท้จริงอาจจะอยู่ที่ระดับ 1 ล้านรายเป็นอย่างน้อย เมื่อพิจารณาจากข้อมูลที่ได้มีการเผยแพร่โดยหน่วยงานระดับภูมิภาคบางภูมิภาคของจีน

 

จีนกำลังเข้าสู่ช่วงสัปดาห์อันตรายที่สุดของการระบาดใหญ่

นอกจากนี้ ยังตั้งข้อสังเกตว่า ประชาชนที่เสียชีวิตจากอาการป่วยเรื้อรังและมีอาการย่ำแย่ลงหลังจากที่ติดโควิด-19 นั้น อาจจะไม่ถูกนับรวมในยอดผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการของทางรัฐบาลจีนด้วย

 

ด้านสำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า จีนพบผู้ติดโควิดวันละ 1 ล้านรายในมณฑลเจ้อเจียงซึ่งเป็นพื้นที่อุตสาหกรรมขนาดใหญ่ใกล้กับนครเซี่ยงไฮ้ และคาดว่าในอีกไม่กี่วันก็น่าจะพุ่งเป็น 2 ล้านราย

 

ทั้งนี้ รอยเตอร์รายงานอ้างอิงการเปิดเผยของรัฐบาลท้องถิ่นมณฑลเจ้อเจียงเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (25 ธ.ค.) ระบุ มณฑลดังกล่าว ซึ่งเป็นพื้นที่อุตสาหกรรมขนาดใหญ่ กำลังเผชิญกับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 วันละประมาณ 1 ล้านคน ซึ่งเป็นตัวเลขที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในอีกไม่กี่วันข้างหน้า อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของจีนระบุว่า ไม่มีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เป็นวันที่ 5 ติดต่อกันจนถึงวันเสาร์ที่ผ่านมา (24 ธ.ค.)

 

ทางการจีนเริ่มผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดภายใต้นโยบาย "โควิดเป็นศูนย์" เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาท่ามกลางสถานการณ์ที่มีรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นมาก กระทั่งเกิดเสียงเรียกร้องให้ทางการเปิดเผยข้อมูลที่ถูกต้องแม่นยำมากกว่าเดิม แต่รัฐบาลจีนใช้วิธีรายงานเฉพาะตัวเลขผู้เสียชีวิตจากโควิดที่มีอาการปอดบวมหรือทางเดินหายใจล้มเหลวเท่านั้น ซึ่งขัดกับการรายงานตัวเลขของประเทศอื่นๆและของบรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขทั่วโลก

 

พื้นที่ที่ยังไม่มีการระบาดใหญ่อาจจะเริ่มตรวจพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในเร็ว ๆ นี้

 

คาดยอดผู้ติดเชื้ออาจทะยานแตะ 37 ล้านคนต่อวัน

มณฑลเจ้อเจียง ซึ่งมีประชากรราว 65.4 ล้านคน คือหนึ่งในเขตปกครองที่ใช้วิธีประมาณการณ์ตัวเลขผู้ติดเชื้อซึ่งรวมถึงผู้ติดเชื้อซึ่งไม่แสดงอาการ แม้ว่าที่ผ่านมารัฐบาลจีนไม่ได้เปิดเผยข้อมูลผู้ติดเชื้อโควิดที่ไม่แสดงอาการแต่อย่างใด

 

แถลงการณ์ของรัฐบาลส่วนท้องถิ่นเจ้อเจียงระบุว่า จำนวนผู้ติดเชื้อในเจ้อเจียงจะเพิ่มขึ้นถึงจุดสูงสุดเร็ว ๆ นี้ และประเมินว่าในช่วงวันปีใหม่อาจจะมีผู้ติดเชื้อถึงวันละ 2 ล้านคน โดยขณะนี้มีผู้ติดเชื้อที่ต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลราว 13,500 คน และมี 1 คนที่มีอาการป่วยหนักจากโควิด ส่วนอีก 242 คนมีอาการป่วยสืบเนื่องจากโรคประจำตัวหลังจากติดโควิด

 

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีประชาชนไปใช้บริการคลินิกวัดไข้ทั่วเจ้อเจียงวันละมากกว่า 400,000 คน ซึ่งมากกว่าระดับปกติถึง 14 เท่า ส่งผลให้ระบบสาธารณสุขในมณฑลนี้และอีกหลายพื้นที่ทั่วประเทศกำลังต้องแบกรับแรงกดดันมหาศาลจากผู้ที่มาขอใช้บริการ สื่อท้องถิ่นของจีนรายงานว่า บุคลากรทางการแพทย์จำนวนมากต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำ และมีการเรียกตัวผู้ที่เกษียณไปแล้วให้กลับมาช่วยทำงานในช่วงนี้จนถึงช่วงก่อนเทศกาลตรุษจีนที่กำลังจะมาถึง

 

รายงานการวิจัยของแคปปิตอล อิโคโนมิคส์ (Capital Economics) ชี้ว่า จีนกำลังเข้าสู่ช่วงสัปดาห์อันตรายที่สุดของการระบาดใหญ่ ทางการจีนแทบมิได้ใช้ความพยายามในการชะลอการระบาด ในขณะที่การแห่เดินทางกลับบ้านทั่วประเทศในช่วงเทศกาลตรุษจีนกำลังจะเริ่มขึ้น ซึ่งหมายความว่าพื้นที่ที่ยังไม่มีการระบาดใหญ่อาจจะเริ่มตรวจพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในเร็ว ๆ นี้