‘สี-ทองลุน’ กระชับสัมพันธ์ สองผู้นำร่วมถกครบรอบ 1 ปีรถไฟจีน-ลาว

01 ธ.ค. 2565 | 06:00 น.

ทองลุน สีสุลิด ปธน.ลาว นำคณะเยือนจีนอย่างเป็นทางการ กระชับสัมพันธ์สองประเทศสังคมนิยม พร้อมหารือปธน.สี จิ้นผิง  ถกความร่วมมือและฉลองครบรอบ 1 ปีทางรถไฟจีน-ลาว

 

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า  ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ผู้นำจีน และเลขาธิการใหญ่คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน (CPC) ได้พบปะและประชุมร่วมกับ ประธานาธิบดี ทองลุน สีสุลิด เลขาธิการใหญ่คณะกรรมการกลางพรรคประชาชนปฏิวัติลาว (LPRP) เมื่อวันพุธ (30 พ.ย.) ณ อาคารมหาศาลาประชาชน กรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีน ในโอกาสที่ผู้นำลาวเดินทางเยือนจีนอย่างเป็นทางการเป็นเวลา 3 วัน ระหว่างวันที่ 29 พ.ย. ถึง 1 ธ.ค.นี้

 

ทั้งจีนและลาว เป็นไม่กี่ประเทศในโลกที่ปกครองด้วยระบอบสังคมนิยม มีพรรคคอมมิวนิสต์ (ในลาวเรียกพรรคประชาชนปฏิวัติลาว) ปกครองประเทศ การเดินทางเยือนจีนอย่างเป็นทางการของนายทองลุน สีสุลิด ครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่เขาได้รับตำแหน่งเลขาธิการใหญ่คณะกรรมการกลางพรรคประชาชนปฏิวัติลาวเมื่อเดือน ม.ค.ปีที่แล้ว (2564) และตำแหน่งประธานาธิบดีลาวในเดือนมี.ค. ปีเดียวกัน

 

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ให้การต้อนรับประธานาธิบดี ทองลุน สีสุลิด

 

การเดินทางเยือนจีนครั้งนี้ นอกจากจะสะท้อนความสัมพันธ์เชิงบวกระหว่างประเทศที่เป็นสังคมนิยมทั้งคู่ซึ่งมีอยู่เพียงไม่กี่ประเทศในโลก ( 5 ประเทศได้แก่ จีน เกาหลีเหนือ ลาว คิวบา และเวียดนาม) ยังเป็นโอกาสในการพบปะหารือระดับผู้นำเกี่ยวกับการสานต่อโครงการความร่วมมือด้านต่าง ๆ และเพิ่มมูลค่าการค้า-การลงทุนระหว่างกัน นอกจากนี้ ยังเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 1 ปีการเปิดให้บริการรถไฟจีน-ลาว ที่เปิดให้บริการเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 2564

 

โกลบัล ไทม์ส สื่อใหญ่ของจีน เปิดเผยว่า จีนและลาวเป็นเพื่อนบ้านใกล้ชิดกัน มีการเพิ่มพูนความสัมพันธ์ผ่านโครงการความร่วมมือและโครงการร่วมทุนหลากหลายโครงการในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จากสถิติล่าสุดของทางการจีนพบว่า ปัจจุบัน จีนเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่เป็นอันดับสองของลาว และยังเป็นผู้ลงทุนโดยตรง (FDI) รายใหญ่ที่สุดในลาวด้วย

 

ปธน.สีเองเคยเยือนลาวในปี 2017 (พ.ศ.2560) ความร่วมมือของทั้งสองประเทศสะท้อนความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างประเทศสังคมนิยม และยังเปิดโอกาสใหม่ๆ ทางเศรษฐกิจให้กับทั้งสองฝ่าย โดยย้อนกลับไปในปี 2019 ทั้งจีนและลาวได้ร่วมลงนามในแผนปฏิบัติการ (action plan) เพื่อร่วมกันสร้างความเป็นหุ้นส่วนจีน-ลาวที่มุ่งไปสู่อนาคตที่มั่งคั่งร่วมกัน หลังจากนั้นโลกก็ได้เห็นหลายโครงการที่ผุดขึ้นตามแนวระเบียงเศรษฐกิจจีน-ลาว (China-Laos Economic Corridor)

 

วันที่ 3 ธ.ค.ที่จะถึงนี้ จะเป็นวันครบรอบ 1 ปีการเปิดใช้เส้นทางรถไฟจีน-ลาว (China-Laos Railway) ที่มีระยะทาง 1,035 กิโลเมตรเชื่อมโยงจีน-ลาว จากเมืองคุนหมิงในมณฑลยูนนานของจีนสู่เมืองหลวงเวียงจันทน์ของลาว นับเป็นโครงการใหญ่ที่สุดของจีนในลาวที่เป็นส่วนหนึ่งของความริเริ่ม “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” หรือ BRI (Belt and Road Initiative) ของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง

 

โครงการรถไฟจีน-ลาวจะครบรอบ 1 ปีการเปิดให้บริการในวันที่ 3 ธ.ค.นี้

 

ข้อมูลของการรถไฟจีนสำนักงานคุนหมิง ระบุว่า สินค้าที่ขนส่งด้วยรถไฟจีน-ลาวนับตั้งแต่เปิดให้บริการมา จนถึงวันที่ 7 พ.ย.ปีนี้ (2565) มีปริมาณมากกว่า 10 ล้านตัน ซึ่งในจำนวนนี้ เป็นสินค้าข้ามชายแดน 1.8 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 12,000 ล้านหยวน หรือราว 1,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

คณะหารือจีน-ลาว ณ อาคารมหาศาลาประชาชน กรุงปักกิ่ง วันที่ 30 พ.ย.2565

 

โครงการใหญ่ที่เป็นสัญลักษณ์ความสัมพันธ์จีน-ลาวโครงการนี้ จึงเป็นหนึ่งในตัวอย่างความสำเร็จของโครงการที่อยู่ภายใต้ความริเริ่ม BRI และเปิดโอกาสให้ลาวที่เคยได้ชื่อว่า ประเทศแลนด์ล็อก (land-locked) เนื่องจากหไม่มีทางออกทะเล เปลี่ยนสถานะกลายเป็นประเทศแลนด์ลิ้งค์ (land-linked) ที่สามารถเชื่อมโยงนานาประเทศด้วยระบบรางที่ทันสมัย

 

ปธน.ทองลุน ผู้นำลาวกล่าวกับ CCTV News สื่อท้องถิ่นของจีนว่า ที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือ โครงการรถไฟจีน-ลาว ได้สร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนและนักท่องเที่ยวมากขึ้น นั่นหมายความว่า นี่คือโครงการที่จะดึงดูดให้ทั้งนักลงทุนและนักท่องเที่ยวต่างชาติหลั่งไหลเข้าสู่ประเทศลาวมากขึ้น