ล่าตัว "โด ควอน" เจ้าพ่อเหรียญ LUNA-UST เกาหลีใต้ประสานตำรวจสากลไล่ตะครุบ

20 ก.ย. 2565 | 04:52 น.

เกาหลีใต้ขอความร่วมมือจากตำรวจสากล (อินเตอร์โพล) ออกหมายแดง ไล่ล่าจับกุมนาย "โด ควอน" เจ้าพ่อเหรียญสเตเบิลคอยน์ LUNA และ TerraUSD (หรือ UST) ตัวการทำตลาดคริปโตเสียหายหนัก

อัยการเกาหลีใต้ ได้ร้องขอให้ องค์การตำรวจสากล หรือ อินเตอร์โพล ช่วยตามจับกุมตัว นายโด ควอน ผู้ก่อตั้งบริษัทเทอร์ราฟอร์ม แลบส์ (Terraform Labs) ผู้ให้กำเนิดสเตเบิลคอยน์เทอร์รายูเอสดี (TerraUSD) และเหรียญลูนา (Luna) ที่ล่มสลายไปแล้ว ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวการสำคัญที่ทำให้มูลค่าตลาดคริปโทเคอร์เรนซีเสียหายกว่า 60,000 ล้านดอลลาร์ โดยทางการเกาหลีใต้ต้องการจับกุมตัวนายควอนในข้อหาก่ออาชญากรรม รวมถึงการละเมิดกฎหมายตลาดทุนของเกาหลีใต้ด้วย

 

โด ควอน


"คณะอัยการเกาหลีใต้ได้ส่งหนังสือถึงอินเตอร์โพลเพื่อขอความช่วยเหลือในการระบุตำแหน่งที่อยู่ของนายควอน ซึ่งขณะนี้ไม่มีใครทราบว่ากบดานอยู่ที่ไหน และขอให้มีการส่งตัวนายควอนให้กับเกาหลีใต้ด้วย" เจ้าหน้าที่อัยการเกาหลีใต้กล่าว


ในทางปฏิบัตินั้น อินเตอร์โพลจะออกหมายแดง (Red Notice) เพื่อขอความร่วมมือจากหน่วยงานด้านกฎหมายของทั่วโลกในการจับกุมตัวคนร้าย หลังจากได้รับคำร้องขออย่างเป็นทางการ และอินเตอร์โพลจะใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ก่อนที่จะออกหมายแดง

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 13 ก.ย.ที่ผ่านมา ศาลกรุงโซลได้ออกหมายจับนายควอน และบุคคลอื่น ๆ อีก 5 คนในหลายข้อหา ซึ่งต่อมา มีข่าวระบุว่านายควอนและอีก 5 คนนั้น ได้หลบหนีไปยังประเทศสิงคโปร์ แต่นายควอนก็ออกมาโพสต์ทวิตเตอร์ปฏิเสธว่า เขาไม่ได้หนีไปไหน และยินดีให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับหน่วยงานภาครัฐ แต่ก็ไม่ได้เปิดเผยว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ที่ไหน ขณะที่ตำรวจสิงคโปร์ออกมาระบุว่า นายควอนไม่ได้อยู่ในสิงคโปร์แล้ว

นายควอนทวีตเมื่อวันอาทิตย์ (18 ก.ย.) ว่าไม่ได้หนีไปไหน และยินดีให้ความร่วมมือกับหน่วยงานตรวจสอบ


วิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นกับแพลตฟอร์มเทอร์รา (Terra) ในเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา รวมทั้งการล่มสลายของสเตเบิลคอยน์เทอร์รายูเอสดี (TerraUSD) ได้สั่นคลอนความเชื่อมั่นในอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล และจนถึงขณะนี้อุตสาหกรรมดังกล่าว ก็ยังฟื้นตัวขึ้นได้ไม่มากนัก

ตัวควอนเองยอมรับว่า พวกเขากำลังพยายามต่อสู้คดีในหลายประเทศ และจะให้ข้อมูลเพื่อล้างมลทินของตัวเองในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

 

ข่าวระบุว่า สำนักอัยการเกาหลีใต้กำลังอยู่ระหว่างการเพิกถอนพาสปอร์ตของควอน ซึ่งถ้าถอนสำเร็จ ก็จะทำให้เขาต้องเดินทางกลับประเทศภายใน 14 วัน

 

ด้านตำรวจสิงคโปร์ก็ให้ข้อมูลกับสำนักข่าวบลูมเบิร์กว่า ยินดีให้ความร่วมมือกับตำรวจของเกาหลีใต้ เนื่องจากควอนมีใบอนุญาตทำงานในสิงคโปร์ที่จะหมดอายุวันที่ 7 ธันวาคม และก่อนหน้านี้เขาเคยยื่นขอ EntrePass หรือใบอนุญาตทำธุรกิจในสิงคโปร์ แต่ถูกปฏิเสธ

 

อ่านเพิ่มเติม: งานเข้า! ผู้ก่อตั้งเหรียญ LUNA-UST ถูกคุกคามถึงบ้านหลังเหรียญราคาดิ่งหนัก