"โทนี แบลร์" อดีตนายกฯ อังกฤษ ชี้ยุคสหรัฐและพันธมิตรครองโลก...ใกล้ถึงจุดจบ

18 ก.ค. 2565 | 08:30 น.

โทนี แบลร์ อดีตนายกฯอังกฤษ กล่าวบรรยายแสดงความเห็นว่า ยุคสมัยที่สหรัฐและพันธมิตรครองโลกนั้นใกล้ถึงจุดจบแล้ว ท่ามกลางบริบทที่ผู้คนจำนวนมากของโลกตะวันตกกำลังประสบมาตรฐานการครองชีพที่เสื่อมทรามลง อันเป็นผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และสงครามรัสเซีย-ยูเครน

นายโทนี แบลร์ อดีตนายกรัฐมนตรีของอังกฤษ วัย 69 ปี ที่ดำรงตำแหน่งระหว่างปี 2540-2550 แสดงความคิดเห็นระหว่างร่วมบรรยายประจำปีที่มูลนิธิ Ditchley Foundation เมื่อวันเสาร์ (16 ก.ค.) ระบุว่า นับเป็นครั้งแรกใน ประวัติศาสตร์สมัยใหม่ ที่โลกตะวันออกสามารถสร้างเงื่อนไขต่างๆ ได้ทัดเทียมกับชาติตะวันตก เขาพยากรณ์ว่า ยุคสมัยที่ สหรัฐ และชาติพันธมิตร ครองโลกนั้น ใกล้ถึงจุดจบแล้ว 

 

"การเมืองในโลกตะวันตก ตกอยู่ในความยุ่งเหยิง และแบ่งพรรคแบ่งพวกมากขึ้น น่าเกลียดยิ่งขึ้น ไม่ผลิดอกออกผลใดๆ ซ้ำยังถูกเติมเชื้อไฟโดยสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งส่งผลกระทบกับกิจการทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ" นายแบลร์ยังกล่าวด้วยว่า "เรากำลังมาถึงจุดจบของการครอบงำทางการเมืองและเศรษฐกิจโดยชาติตะวันตก โลกกำลังกลายเป็น 2 ขั้ว (bi-polar) เป็นอย่างน้อย และมีความเป็นไปได้ที่จะกลายเป็นโลกหลายขั้ว (multi-polar) " อดีตนายกฯอังกฤษคาดการณ์

โทนี แบลร์ อดีตนายกรัฐมนตรีของอังกฤษ ในวัย 69 ปี 
เขากล่าวว่า ปฏิบัติการทางทหารรุกรานยูเครนของรัสเซีย ควรจะเป็นจุดปักหมุดสำหรับการกอบกู้สำนึกแห่งพันธกิจของชาติตะวันตก อย่างไรก็ตาม เขาเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงทางภูมิรัฐศาสตร์ครั้งใหญ่ที่สุดของศตวรรษนี้จะมาจากจีน ไม่ใช่รัสเซีย

แบลร์ขยายความต่อไปว่า "จีน" ซึ่งก้าวขึ้นมาเป็นมหาอำนาจอันดับ 2 ของโลกแล้ว จะแข่งขันกับตะวันตกไม่ใช่แค่เพื่ออำนาจ แต่จีนจะต่อต้านระบบของตะวันตก รวมทั้งแนวทางบริหารและวิถีชีวิตแบบตะวันตก "ปักกิ่งจะไม่ก้าวขึ้นมาเพียงลำพัง พวกเขาจะมีพันธมิตร แน่นอนว่าพันธมิตรตอนนี้ของจีนคือรัสเซีย และมีความเป็นไปได้ว่าอิหร่านก็จะร่วมด้วย" 


แบลร์มองว่า เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ที่โลกตะวันออกสามารถมีเงื่อนไขต่างๆ ที่ทัดเทียมกับโลกตะวันตก ขณะเดียวกัน สืบเนื่องจากผลกระทบของโรคระบาดใหญ่โควิด-19 และความขัดแย้งในยูเครน ทำให้ผู้คนจำนวนมากของประเทศตะวันตกประสบมาตรฐานการครองชีพที่เสื่อมทรามลง 

 

"เหตุการณ์ต่างๆ ในยูเครน แสดงให้ตะวันตกเห็นอย่างชัดเจนว่าไม่สามารถพึ่งพาผู้นำจีน ให้มีพฤติกรรรมในแนวทางที่ตะวันตกมองว่ามีเหตุผลมีผล" อดีตผู้นำอังกฤษกล่าวว่า เขาไม่ได้บอกว่าในระยะอันใกล้นี้ จีนจะพยายามใช้กำลังเข้ายึดไต้หวัน แต่ท่าทีของจีนก็ทำให้โลกตะวันตกไม่สามารถวางนโยบายบนพื้นฐานที่แน่ใจได้ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวมันจะไม่เกิดขึ้น

กล่าวโดยสรุปคือแบลร์มองว่า เพื่อคงความเกี่ยวข้องในสภาพแวดล้อมใหม่ของโลกยุคปัจจุบัน โลกตะวันตกจำเป็นต้องพัฒนายุทธศาสตร์ร่วมอย่างหนึ่งขึ้นมาใหม่ "เราต้องเสาะหาสิ่งนั้นด้วยความร่วมมือ ความมุ่งมั่น และความสามารถ พร้อมกับเพิ่มการใช้จ่ายด้านกลาโหม เพื่อธำรงไว้ซึ่งความเหนือกว่าด้านการทหาร ขณะเดียวกัน เราต้องขยายขอบเขตสิ่งที่เรียกว่า ซอฟต์เพาเวอร์ (Soft Power) ด้วยการเสริมสร้างความสัมพันธ์กับบรรดาประเทศกำลังพัฒนาทั่วโลก"

 

ข้อมูลอ้างอิง

World is on its way to multipolarity, Western dominance about to end — former UK PM