เปิดปมสังหาร"ชินโซ อาเบะ"แม่ผู้ก่อเหตุบริจาคเงิน 100 ล้านเยนแก่ลัทธิมูน

15 ก.ค. 2565 | 07:31 น.

ลุงของมือสังหารนายชินโซ อาเบะ เผยกับผู้สื่อข่าวถึงมูลเหตุจูงใจว่า แม่ของผู้ก่อเหตุได้บริจาคเงินประมาณ 100 ล้านเยน หรือร่วม 26 ล้านบาท ให้แก่ "โบสถ์แห่งความสามัคคี"

ลุงของนายเท็ตสึยะ ยามากามิ ผู้ต้องหาในคดีลอบยิงอดีตนายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่นเปิดเผยกับนักข่าวในวันนี้ (15 ก.ค.) ว่า แม่ของผู้ก่อเหตุได้บริจาคเงินประมาณ 100 ล้านเยน (720,000 ดอลลาร์) ให้แก่ "โบสถ์แห่งความสามัคคี" หรือที่รู้จักกันในชื่อ "ลัทธิมูน"
          

ก่อนหน้านี้ นายยามากามิ ผู้ต้องหาเปิดเผยต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เขาเชื่อว่านายอาเบะ มีความเกี่ยวพันกับลัทธิดังกล่าวซึ่งเป็นลัทธิที่เขามีความแค้น เนื่องจากแม่ของเขาได้บริจาคเงินเป็นจำนวนมากจนทำให้ครอบครัวต้องล้มละลาย
         

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ลุงของผู้ก่อเหตุเล่าว่า แม่ของ"นายยามากามิ" ได้เข้าร่วมลัทธินี้เมื่อประมาณปี 2534 หลังจากที่พ่อของเขาฆ่าตัวตายในปี 2527 และระบุเสริมว่า ครอบครัวของเขาต้องยากจนลงเพราะลัทธิดังกล่าว
          
อย่างไรก็ตาม ทางด้านลัทธิมูนอ้างว่าได้คืนเงินให้กับแม่ของนายยามากามิจำนวน 50 ล้านเยนแล้ว พร้อมทั้งระบุว่า ไม่มีบันทึกจำนวนเงินที่แม่ของนายยามากามิบริจาคให้กับทางลัทธิแต่อย่างใด

ขณะที่ รศ.ดร.สุวินัย ภรณวลัย อดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “Suvinai Pornavalai” เรื่อง "ครอบครัวที่ล่มสลาย หัวใจที่พังทลายของฆาตกรที่สังหารอดีตนายกฯอาเบะ " เนื้อหาว่า

 

ปมทางจิตที่แม่สร้างไว้ให้ลูก  ประวัติความล่มสลายของครอบครัวคนร้าย นายเท็ตสึยะ ยามากามิ (อายุ 41 ปี) ที่ฆ่าอดีตนายกฯอาเบะ เพราะมีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มลัทธิที่ตัวเขาชิงชัง

 

ความจริงในวัยเยาว์ เขาเป็นเด็กที่เพียบพร้อม บ้านมีฐานะ เรียนก็เก่ง เล่นกีฬาก็ดี แต่แล้วชีวิตต้องมาพลิกผันจากหน้ามือเป็นหลังมือ เมื่อมารดาเขาคลั่งลัทธินิกายใหม่

 

เท็ตสึยะเกิดในครอบครัวที่มีฐานะ มีพี่ชาย1 คน น้องสาว 1คน เพื่อนโรงเรียนประถมและ มัธยมต้น เล่าให้ฟังว่า ...

 

เท็ตสึยะเรียนเก่ง กีฬาก็เยี่ยม ใจดี นิสัยดี ไม่มีที่ติเลย ครูประจำห้องมักชมเท็ตสึยะเสมอๆ เพื่อนร่วมชมรมบาสเก็ตบอลเล่าให้ฟังว่า ...

 

เท็ตสึยะหัวดีมากๆ เป็นคนขยัน ไม่แสดงทีท่าว่าชอบหรือไม่ชอบอะไรเป็นพิเศษ เขาเก่งกว่าคนอื่นในทุกๆด้าน ทั้งกีฬาและการเรียน แต่เขาเป็นคนที่พูดน้อย สงบเงียบๆ สอนการบ้านเพื่อนประจำ ไม่เคยมีศัตรู และไม่มีพิษภัยกับใคร 

 

ผมยังไม่เชื่อเลยว่าฆาตกรเป็นเพื่อนตัวเอง เคยเห็นเค้าสอนการบ้านเพื่อน แต่ไม่ค่อยเห็นเค้าคบเพื่อนคนไหนเป็นพิเศษ

 

คนที่รู้จักเท็ตสึยะช่วงมัธยมปลาย เล่าว่าเท็ตสึยะอยู่ชมรมเชียร์ ได้ไปเชียร์การแข่งขันเบสบอลที่สนามโคชิเอ็งด้วย

 

เพื่อนอีกคนเล่าว่าเท็ตสึยะชอบอยู่คนเดียว ไม่สุงสิงกับใคร เวลาพักกลางวันหรือพักกินข้าวก็ไปคนเดียวตลอด

ผู้มีศักด์เป็นลุง (พี่ชายของพ่อเท็ตสึยะ) เล่าให้ฟังอย่างละเอียดว่า
"พ่อเท็ตสึยะฆ่าตัวตาย ตั้งแต่เท็ตสึยะอายุได้ 4 ขวบ ตอนนั้นแม่เท็ตสึยะกำลังท้องน้องสาวเท็ตสึยะได้ 8 เดือน  ลูกชายคนโตเป็นมะเร็งตั้งแต่เล็ก หลังจากผ่าตัด สูญเสียการมองเห็นไปข้างนึง ผมให้เงินช่วยเหลือเดือนละ 5 หมื่นเยนมาตลอด

 

หลังจากพ่อเท็ตสึยะเสียได้สักพัก แม่เท็ตสึยะก็เข้ากับกลุ่มลัทธิโบสถ์เอกภาพ หลายครั้งที่ปล่อยให้ลูกๆอยู่ลำพัง ส่วนตัวเองบินไปสาขาแม่ที่เกาหลี พี่ชายเท็ตสึยะต้องโทรมาขอเงินไปซื้อข้าวกิน

 

ผมพบบันทึกของภรรยาผม ที่โน้ตไว้ว่าเงินที่ช่วยเหลือครอบครัวเท็ตสึยะ ถูกถ่ายโอนไปที่โบสถ์เอกภาพมาตลอด 9 ปี รวมๆแล้ว หลายล้านเยน  นั่นทำให้ผมรู้ว่าน้องสะใภ้ได้เข้าไปในกลุ่มลัทธินี้อย่างถอนตัวไม่ขึ้นแล้ว 

 

หลังจากที่น้องชายผมเสียชีวิต แม่เท็ตสึยะได้โอนเงินค่าสินไหมจากการเสียชีวิต เป็นจำนวนเงิน 50 ล้านเยน (13 ล้านบาท) ให้กับโบสถ์เอกภาพ นอกจากนี้ ยังมีค่าปลอบวิญญาณผู้ล่วงลับอีก เกือบ 3 ล้านเยน (8 แสนบาท) "

โบสถ์เอกภาพคงเป็นทางออกจากความทุกข์ทางเดียวสำหรับแม่เท็ตสึยะ  เดือนสิงหาคม ปี 1998 แม่เท็ตสึยะขายที่ดินที่ตาให้ไว้ ตั้งแต่นั้นมาความสัมพันธ์พ่อลูกก็สั่นคลอน และสองเดือนให้หลัง ตาก็จากไป 

 

แม่เท็ตสึยะได้เป็นเจ้าของบริษัทก่อสร้างต่อจากตา  

 

เดือนมีนาคม ปี 1999 แม่เท็ตสึยะขายบ้านและอาคารอื่นๆที่เป็นสมบัติของตา โดยโอนเงินทั้งหมดให้โบสถ์เอกภาพ 

 

ลุงเท็ตสึยะลำบากใจมาก แต่ก็ต้องตัดใจเลิกให้เงินช่วยเหลืออีก เพราะรู้ว่าเงินที่ให้แม่เท็ตสึยะ นางจะเอาไปทุ่มให้โบสถ์เอกภาพทั้งหมด

 

เท่าที่ลุงเท็ตสึยะรู้ แม่เท็ตสึยะได้บริจาคให้กับโบสถ์เอกภาพไปมากกว่า 100 ล้านเยน (26 ล้านบาท) 

 

หลังจากเท็ตสึยะจบมัธยมปลาย เขาไม่มีเงินเรียนต่อ ลุงเท็ตสึยะให้ความช่วยเหลือ แต่เท็ตสึยะตัดสินใจเลิกเรียนมหาวิทยาลัยกลางคัน 

 

เท็ตสึยะสมัครเข้าเป็นทหารในกองกำลังป้องกันตนเอง ระยะเวลา 3 ปี ระหว่างนั้น เขามีเรื่องกับคนในกองทัพ เจ้าตัวถึงกับจะฆ่าตัวตายด้วยการกรอกน้ำมันเบนซินผสมเหล้า  แต่แล้วเขากลับเรียกรถพยาบาลมาเอง เขาก็เลยไม่ตาย 

 

หลังจากออกจากกองกำลังป้องกันตนเอง เขาได้ไปทำงานบริษัทที่บริษัทๆหนึ่งทำงานอยู่ที่นั่นสิบกว่าปี จนถึงเดือนเมษายนที่ผ่านมา 

 

เท็ตสึยะขอลาออกเพราะสุขภาพไม่อำนวย คนในบริษัทเล่าให้ฟังว่า แรกๆที่เข้ามาทำงานก็เรียบร้อยดี แต่พอผ่านไปครึ่งปี เริ่มเข้ากับคนอื่นไม่ได้ 
หลังจากออกจากงาน เท็ตสึยะก็ตกงาน จนถึงวันก่อเหตุฆาตกรรมอดีตนายกฯอาเบะ


ครอบครัวเท็ตสึยะถูกประกาศเป็นผู้ล้มละลาย หลังจากที่เท็ตสึยะไปประจำกองกำลังตนเองได้ไม่นาน

 

ปี 2015 พี่ชายของเท็ตสึยะฆ่าตัวตาย ลุงเท็ตสึยะซึ่งมีอาชีพทนายได้ทำหนังสือไปถึงโบสถ์เอกภาพ ให้ชี้แจงเงินบริจาคของแม่เท็ตสึยะ ทางโบสถ์เอกภาพ  ตัดปัญหาด้วยการคืนเงิมา 50ล้านเยน

 

แต่สุดท้ายแล้ว แม่เท็ตสึยะก็เอาไปเงินทั้งหมดให้โบสถ์เอกภาพต่ออีก

 

น้า (น้องสาวแม่) ของเท็ตสึยะกล่าวว่า

 

"พ่อฉันช่วยเหลือครอบครัวพี่สาวมาตลอด เพราะเห็นว่าพี่เขยมาด่วนเสียชีวิต และทิ้งภาระให้พี่สาวเลี้ยงดู จนหลังๆพี่สาวก็มาขอเงินจากฉัน แต่ฉันปฏิเสธไป จนเดี๋ยวนี้ก็ยังไม่มองหน้ากัน 

 

ฉันสงสารเท็ตสึยะจริงๆ จะมีลูกคนไหนที่กล้าฆ่าแม่ตัวเองล่ะ ..."

 

สุดท้าย เท็ตสึยะจึงระบายความโกรธแค้นแม่ตัวเองที่ตัวเขาเก็บกดมาทั้งชีวิต มาที่อดีตนายกฯอาเบะแทน

 


ข้อมูลอ้างอิง :
FNN
デイリー新潮
文春オンライン
กลุ่มตะลอนเที่ยวญี่ปุ่น