รัสเซียโชว์ยิงขีปนาวุธนำวิถี “เซอร์คอน” อาวุธใหม่ความเร็วเหนือเสียง

28 พ.ค. 2565 | 22:59 น.

กลาโหมรัสเซียเผยแพร่ภาพการทดสอบขีปนาวุธนำวิถีรุ่นใหม่ "เซอร์คอน" ที่มีความเร็วเหนือเสียง สามารถยิงจากเรือรบหรือเรือดำน้ำโจมตีเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ หลังจากเมื่อเดือนเม.ย.เพิ่งทดสอบยิงขีปนาวุธข้ามทวีป"ซาร์มัต" ที่สามารถติดหัวรบนิวเคลียร์

กระทรวงกลาโหมรัสเซีย เปิดเผยเมื่อวันเสาร์ (28 พ.ค.) ว่า รัสเซีย ประสบความสำเร็จในการทดสอบยิงขีปนาวุธนำวิถี "เซอร์คอน" (Zircon) ที่มี ความเร็วเหนือเสียง ในระยะทางประมาณ 1,000 กม. (625 ไมล์)

 

ขีปนาวุธดังกล่าวถูกยิงจากทะเลบาเรนท์และเข้าโจมตีเป้าหมายในทะเลขาว โดยวิดีโอที่เผยแพร่โดยกระทรวงกลาโหมรัสเซียแสดงให้เห็นว่า ขีปนาวุธดังกล่าวถูกยิงจากเรือลำหนึ่งและพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าบนวิถีที่สูงชัน

 

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ได้กล่าวถึงขีปนาวุธนำวิถีเซอร์คอนว่า เป็นส่วนหนึ่งของระบบอาวุธรุ่นใหม่ที่ไม่มีใครเทียบได้ โดยอาวุธที่มีความเร็วเหนือเสียงสามารถเดินทางได้เร็วกว่าเสียงถึง 9 เท่า และรัสเซียได้ดำเนินการทดสอบการยิงขีปนาวุธนำวิถีเซอร์คอนจากเรือรบและเรือดำน้ำมาเป็นระยะในช่วงปีที่ผ่านมา

กลาโหมรัสเซียเผยแพร่ภาพการทดสอบยิงขีปนาวุธใหม่ "เซอร์คอน" จากเรือรบ

ทั้งนี้ กองทัพของรัสเซียเผชิญกับการสูญเสียกำลังคนและอุปกรณ์จำนวนมากในระหว่างการบุกโจมตียูเครนเป็นเวลา 3 เดือนซึ่งรัสเซียเรียกว่าเป็นปฏิบัติการพิเศษ แต่รัสเซียก็ยังคงทำการทดสอบอาวุธระดับสูงอย่างต่อเนื่อง เพื่อแสดงให้โลกเห็นถึงศักยภาพในด้านเทคโนโลยีขีปนาวุธของรัสเซีย

 

โดยเมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา รัสเซียได้ทดสอบยิงขีปนาวุธข้ามทวีป"ซาร์มัต" (Sarmat) ที่มีความสามารถติดหัวรบนิวเคลียร์ชนิดใหม่ได้มากกว่า 10 ลูกขึ้นไป ทั้งยังสามารถโจมตีสหรัฐได้จากระยะทางไกล

ขีปนาวุธข้ามทวีป "ซาร์มัต" (Sarmat) สามารถติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์

การแสดงแสนยานุภาพทางการทหารของรัสเซียเกิดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์การสู้รบระหว่างกองทัพรัสเซียและยูเครนที่ดำเนินมายาวนานกว่า 3 เดือนแล้วและยังไม่มีแนวโน้มที่จะสิ้นสุด ทั้งยังเกิดขึ้นท่ามกลางแรงกดดันของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) และชาติตะวันตกนำโดยสหรัฐอเมริกา ที่พยายามสกัดกั้นการพัฒนาอาวุธอำนาจการทำลายล้างสูงของประเทศอย่างเกาหลีเหนือและอิหร่าน โดยล่าสุด ยูเอ็นได้มีมติที่จะดำเนินมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมกับเกาหลีเหนือ (แต่จีนและรัสเซียได้ใช้สิทธิวีโต้หรือยับยั้งมติดังกล่าว) และสหรัฐเองเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (27 พ.ค.) ก็ได้กำหนดมาตรการคว่ำบาตรธนาคารของรัสเซียอีก 2 แห่ง บริษัทของเกาหลีเหนือ 1 แห่ง และบุคคล 1 รายในข้อหาสนับสนุนโครงการพัฒนาอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูงของเกาหลีเหนือ ซึ่งเป็นการเพิ่มแรงกดดันต่อเกาหลีเหนือหลังจากที่เพิ่งทำการยิงขีปนาวุธครั้งใหม่ไปเมื่อเร็ว ๆนี้