อัพเดทวิกฤตยูเครน เจรจาคืบหน้า รัสเซียเปิดช่องจัดซัมมิต "ปูติน-เซเลนสกี"
เริ่มมีแสงสว่างเป็นทางออกสำหรับวิกฤตยูเครน เมื่อรัสเซียเปิดช่องจัดซัมมิต "ปูติน-เซเลนสกี" หากทั้งสองฝ่ายพร้อมลงนามข้อตกลงสันติภาพ
จากการเปิดเผยของนายวลาดิเมียร์ เมดินสกี หัวหน้าคณะเจรจาของรัสเซีย เปิดเผยวานนี้ (29 มี.ค.) หลังการเจรจาระดับคณะทำงานที่เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี ซึ่งใช้เวลาราว 3 ชั่วโมง และมีเป้าหมายที่จะบรรลุข้อตกลงหยุดยิง นับว่ามีความคืบหน้ามากที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยเขากล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่ ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย และ ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน จะพบปะกัน หาก รัสเซีย และ ยูเครน สามารถจัดทำ ข้อตกลงสันติภาพ ที่พร้อมให้ผู้นำทั้งสองฝ่ายลงนาม
นายเมดินสกีขยายความว่า ก่อนที่จะมีการหารือเกี่ยวกับการจัดการประชุมสุดยอดของผู้นำรัสเซียและยูเครน ทั้งสองฝ่ายจะต้องจัดเตรียมสนธิสัญญาที่ได้รับการอนุมัติจากคณะเจรจา รวมทั้งได้รับการรับรองจากรัฐมนตรีต่างประเทศของทั้งสองฝ่าย
ขณะที่นายเมฟลุต คาวูโซกลู รัฐมนตรีต่างประเทศตุรกี ซึ่งทำหน้าที่เป็นประเทศตัวกลางและเป็นเจ้าภาพสถานที่จัดการพบปะเจรจา กล่าวว่า การเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนที่กรุงอิสตันบูลเมื่อวันอังคาร (29 มี.ค.) ถือว่า “มีความคืบหน้ามากที่สุด” นับตั้งแต่ที่ทั้งสองฝ่ายได้เริ่มการเจรจาเป็นต้นมา
“ตุรกีมีความยินดีที่รัสเซียและยูเครนสามารถบรรลุข้อตกลงประนีประนอมในบางประเด็น และสงครามจะต้องสิ้นสุดลงโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้” นายคาวูโซกลูกล่าว ทั้งยังเปิดเผยว่า รัฐมนตรีต่างประเทศของรัสเซียและยูเครนจะหารือกันในโอกาสต่อไปเกี่ยวกับประเด็นที่มีความซับซ้อนมากขึ้น ก่อนที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย และประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน จะพบปะกันในที่สุด
ข่าวเชิงบวกจากรัสเซีย : ลดปฏิบัติการทางทหาร
กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุวานนี้ (29 มี.ค.) ว่า รัสเซียจะลดปฏิบัติการทางทหาร "ลงอย่างมาก" รอบกรุงเคียฟ ซึ่งเป็นเมืองหลวงของยูเครน รวมทั้งเมืองเชอร์นิฮิฟ
นายอเล็กซานเดอร์ โฟมิน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมของรัสเซีย เปิดเผยว่า รัสเซียประกาศลดปฏิบัติการทางทหารครั้งนี้เพื่อเพิ่ม “ความไว้วางใจ” ระหว่างรัสเซียและยูเครน และเพื่อเอื้ออำนวยต่อการเจรจาสันติภาพในครั้งต่อไปของทั้งสองฝ่าย
นอกจากนี้ การเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนที่กรุงอิสตันบูลครั้งล่าสุด (29 มี.ค.) นับว่ามีความคืบหน้าอย่างมาก ซึ่งจะปูทางไปสู่การจัดทำสนธิสัญญาเกี่ยวกับสถานะเป็นกลางและปลอดอาวุธนิวเคลียร์ของยูเครน รวมทั้งการรับประกันความมั่นคงสำหรับยูเครนด้วย