มะเร็งคร่าชีวิต "เมเดลีน อัลไบรท์" อดีตรมว.ต่างประเทศหญิงคนแรกของสหรัฐ

24 มี.ค. 2565 | 04:03 น.

"เมเดลีน อัลไบรท์" อดีตรมว.ต่างประเทศหญิงคนแรกของสหรัฐในสมัยประธานาธิบดีบิล คลินตัน ถึงแก่อนิจกรรมด้วยโรคมะเร็งในวัย 84 ปี

นางเมเดลีน อัลไบรท์ อดีต รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศหญิงคนแรกของสหรัฐอเมริกา ได้ถึงแก่อนิจกรรมแล้วในวันพุธ (23 มี.ค.) ด้วยวัย 84 ปี โดยนางอัลไบรท์ดำรงตำแหน่งดังกล่าวในยุคของอดีตประธานาธิบดีบิล คลินตันระหว่างปี 1997-2001

 

ครอบครัวของนางอัลไบรท์แถลงว่า นางอัลไบรท์ได้ถึงแก่อนิจกรรมด้วยโรคมะเร็ง และในวาระสุดท้ายของชีวิตนั้น เธออยู่ในโอบล้อมของสมาชิกในครอบครัวและเพื่อน ๆ อันเป็นที่รัก

เมเดลีน อัลไบรท์ ในสมัยดำรงตำแหน่งรมว.ต่างประเทศสหรัฐ

นายเน็ด ไพรซ์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐได้ออกแถลงการณ์แสดงความอาลัยต่อการจากไปของนางอัลไบรท์ โดยเขากล่าวว่า "คุณความดีที่ท่านได้สร้างไว้ที่กระทรวงการต่างประเทศแห่งนี้ พวกเราสามารถรับรู้ได้ในทุก ๆ วัน ท่านเป็นผู้บุกเบิกในฐานะรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศหญิงคนแรกของประเทศ และท่านเป็นผู้ที่เปิดประตูสู่การทำงานที่เต็มไปด้วยองค์ประกอบอันยิ่งใหญ่ให้กับพวกเรา"

สำหรับประวัติของนางอัลไบรท์นั้น เธอเกิดเมื่อวันที่ 15 พ.ค. 1937 ที่กรุงปราก เมืองหลวงของเชโกสโลวาเกียในสมัยนั้น ต่อมาครอบครัวของเธอได้อพยพไปยังสหรัฐอเมริกาในปี 1948 โดยตั้งรกรากที่เมืองเดนเวอร์ รัฐโคโลราโด ขณะนั้นอัลไบรท์อยู่ในฐานะผู้อพยพด้วยวัยเพียง 11 ปี เธอได้รับสถานะพลเมืองอเมริกันในปี 1957

 

อัลไบรท์จบการศึกษาระดับปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยโคลัมเบียในปี 1975 โดยทำวิทยานิพนธ์จบการศึกษาเกี่ยวกับเรื่องการปฏิวัติที่นำมาสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในกรุงปราก จากนั้นก็เริ่มการทำงานด้วยการเป็นที่ปรึกษาวุฒิสมาชิก จากนั้นเข้าทำงานในสภาความมั่นคงแห่งชาติก่อนจะกลับไปทำงานด้านวิชาการที่จอร์จทาวน์ ควบคู่ไปกับการเป็นที่ปรึกษาด้านนโยบายต่างประเทศแก่สมาชิกพรรคเดโมแครต

 

เมื่อบิล คลินตันชนะการเลือกตั้งได้ขึ้นเป็นประธานาธิบดีในปี 1992 อัลไบรท์ช่วยเขาตั้งทีมงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ก่อนที่จะได้รับการแต่งตั้งเป็นทูตสหรัฐประจำองค์การสหประชาชาติในปี 1993 จนถึงปี 1997 จากนั้น เธอขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุดทางการเมืองได้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศหญิงคนแรกของสหรัฐอเมริการะหว่างปี 1997-2001

ในระหว่างที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศนั้น นางอัลไบรท์มีส่วนสำคัญในการขยายอิทธิพลขององค์กรสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ให้ครอบคลุมไปยังฝั่งตะวันออก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแทรกแซงทางทหารของนาโตในความขัดแย้งระหว่างชาวเซิร์บและกลุ่มชาติพันธุ์แอลเบเนียในโคโซโว

 

ก่อนที่เธอจะถึงแก่อนิจกรรม เธอเป็นอาจารย์ในภาควิชาการบริการด้านต่างประเทศแห่งมหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์