“เชลซี” เลือดไหลไม่หยุด สปอนเซอร์หลักปลิวหลุดอีกราย

13 มี.ค. 2565 | 04:56 น.

หลังอ้ำอึ้งขอเวลาชั่งใจ สุดท้าย “ฮุนได” ผู้ผลิตรถยนต์ของเกาหลีใต้ สปอนเซอร์หลักบนเสื้อของนักเตะสโมสร “เชลซี” ก็ตัดสินใจประกาศระงับการสนับสนุนเชลซีเป็นการชั่วคราวแล้ว เป็นผลจากการที่นายโรมัน อับราโมวิช เจ้าของทีม โดนอังกฤษคว่ำบาตร ฐานใกล้ชิดปธน.ปูติน แห่งรัสเซีย

ฮุนได สปอนเซอร์หลักอีกราย ได้ประกาศถอนการสนับสนุน สโมสรฟุตบอลเชลซี เป็นการชั่วคราวแล้ววานนี้ (12 มี.ค.) หลังจากที่ นายโรมัน อับราโมวิช มหาเศรษฐีชาวรัสเซีย เจ้าของสโมสรเชลซี ใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ถูก รัฐบาลอังกฤษประกาศคว่ำบาตรในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเขาถูกสั่งอายัดทรัพย์สินและห้ามทำธุรกรรมทางการเงินทุกประเภท นอกจากนี้ยังจะสามารถขายสโมสรได้ก็ต่อเมื่ออยู่ในการควบคุมของรัฐบาลเท่านั้น

นายโรมัน อับราโมวิช มหาเศรษฐีชาวรัสเซีย เจ้าของสโมสรเชลซี

ทั้งหมดทั้งมวลนี้ เนื่องจากนายอับราโมวิชเป็นผู้ใกล้ชิดสนิทสนมกับ นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ที่สั่งกองทัพเข้าบุกโจมตียูเครนมาเป็นเวลามากกว่าสองสัปดาห์แล้ว และยังคงระดมโจมตีเมืองหลวง “เคียฟ” ของยูเครนอยู่ในขณะนี้ ทำให้หลังมาตรการคว่ำบาตรดังกล่าวซึ่งมีผลในทันที บรรดาสปอนเซอร์และพันธมิตรของสโมสรเชลซีได้ทยอยถอนตัวออกห่าง

 

อ่านเพิ่มเติมคว่ำบาตรรัสเซีย พลิกบัญชีดำ-เปิดขุมทรัพย์ “VIPหมีขาว” คนใกล้ชิดปูติน

 

ล่าสุด “ฮุนได”  บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ของเกาหลีใต้ ที่เป็นสปอนเซอร์ติดแขนเสื้อชุดแข่งของเชลซีมาตั้งแต่ปีค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561) ด้วยการจ่ายเงินให้เชลซีถึง 10 ล้านปอนด์ต่อปี ได้ออกมาแถลงระงับความสัมพันธ์กับเชลซีเป็นการชั่วคราววานนี้

 

ก่อนหน้านั้น สปอนเซอร์หลักของเชลซีที่ถอนการสนับสนุนออกไปก่อนแล้ว ได้แก่  "ธรี" (Three) บริษัทด้านโทรคมนาคมชื่อดังของประเทศอังกฤษ โดยช่วงปลายสัปดาห์ เดอะการ์เดียน สื่อใหญ่ของอังกฤษ รายงานว่า ธรี ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโทรคมนาคมและอินเตอร์เน็ตรายใหญ่ และเป็นสปอนเซอร์หลักของสโมสรเชลซี ได้ออกแถลงการณ์ขอระงับการสนับสนุนเชลซี และขอให้สโมสรถอดโลโก้ออกจากเสื้อนักบอลโดยมีผลทันที

ขณะที่ฮุนไดเอง เป็นพาร์ทเนอร์รายหนึ่งที่แข็งแกร่งของวงการฟุตบอลอังกฤษมานานหลายปี แถลงการณ์ของบริษัทระบุว่า “ตลอดระยะเวลาการเป็นพาร์ทเนอร์กับสโมสรฟุตบอลเชลซี เราภูมิใจที่ได้สนับสนุนนักเตะ แฟนบอล และรากฐานของฟุตบอล อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์ในปัจจุบัน เราตัดสินใจระงับกิจกรรมทางการตลาด และการสื่อสารของเรากับสโมสร (เชลซี) จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง"