แพทย์สหรัฐชี้ 2 กลยุทธ์สำคัญสกัดโควิด “ระดมตรวจหาเชื้อ-เร่งฉีดวัคซีน”

23 ธ.ค. 2564 | 07:45 น.

แพทย์ในสหรัฐย้ำ 2 กลยุทธ์สำคัญที่จะช่วยสกัดกั้นโควิดสายพันธุ์ใหม่ คือการระดมปูพรมตรวจหาเชื้อให้ครอบคลุมให้ได้มากที่สุด และขณะเดียวกัน ก็ต้องเร่งฉีดวัคซีนป้องกันโดยเฉพาะวัคซีนเข็มกระตุ้น (บูสเตอร์) เพราะเพียง 2 เข็มนั้นไม่เพียงพอที่จะฉุดรั้ง “โอมิครอน”  

สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า แม้ การตรวจหาเชื้อโควิด-19 จะไม่ได้เป็นนโยบายที่สหรัฐอเมริกาให้ความสำคัญในการบริหารจัดการสถานการณ์การแพร่ระบาด แต่คาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงในเร็ว ๆ นี้

 

ทั้งนี้ เมื่อต้นสัปดาห์ (21 ธ.ค.) ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้อนุมัติการแจก ชุดตรวจโควิด-19 แบบ rapid test ฟรีจำนวน 500 ล้านชุดให้แก่ประชาชน ผ่านการจองทางเว็บไซต์ที่รัฐบาลจัดทำขึ้นเป็นกรณีพิเศษ โดยจะเริ่มแจกตั้งแต่เดือนม.ค. 2565 พร้อมกันนี้ จะจัดส่งบุคลากรทางการแพทย์ของรัฐบาลกลางจำนวน 1,000 คนไปยังโรงพยาบาลต่าง ๆ ที่เผชิญปัญหาในการรับมือกับผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโอมิครอนในช่วงเดือนม.ค.-ก.พ.2565

แพทย์สหรัฐชี้ 2 กลยุทธ์สำคัญสกัดโควิด “ระดมตรวจหาเชื้อ-เร่งฉีดวัคซีน”

นายแพทย์วิลเลียม แชฟเนอร์ ศาสตราจารย์ด้านเวชศาสตร์ป้องกันและโรคติดเชื้อ วิทยาลัยแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยแวนเดอร์บิลท์ ให้สัมภาษณ์ว่า การตรวจหาเชื้อโควิดจะแพร่หลายมากขึ้นและมีราคาถูกลง ก่อนจะฟรีในที่สุด ซึ่งเรื่องนี้สำคัญมากในการสร้างความเท่าเทียมกัน หากสหรัฐจะใช้วิธีนี้ ทางรัฐบาลก็จะต้องส่งชุดตรวจไปให้ทั่วถึงประชาชนทุกคน

นายแพทย์แชฟเนอร์ให้ความเห็นว่า ประเทศต่าง ๆ ในเอเชียและยุโรปใช้วิธีนี้กันแพร่หลาย อย่างสหราชอาณาจักรก็แจกชุดตรวจหาเชื้อโควิด-19 เองที่บ้านให้ประชาชนที่ต้องการ นอกจากนี้ ยังแนะนำว่า "หากคุณได้รับวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าหรือวัคซีนของจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (J&J) มาก่อน ขอให้ฉีดวัคซีนไฟเซอร์หรือโมเดอร์นาเป็นเข็มบูสเตอร์ ซึ่งจะส่งผลดีเพราะช่วยเพิ่มระดับแอนติบอดีได้มาก"

 

นายแพทย์แชฟเนอร์ยังย้ำว่า การฉีดวัคซีนเข็มพื้นฐานและบูสเตอร์เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการป้องกันอาการป่วยขั้นรุนแรง

 

ก่อนหน้านี้ แพทย์หญิงโรเชลล์ วาเลนสกี ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ (CDC) เปิดเผยว่า ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนมีการกลายพันธุ์มากกว่า 50 ตำแหน่ง ข้อเท็จจริงดังกล่าวทำให้การฉีดวัคซีนเพียง 2 โดสจะไม่เพียงพอต่อการป้องกัน

แพทย์หญิงวาเลนสกีกล่าวว่า ด้วยเหตุนี้ CDC กำลังพิจารณาเปลี่ยนนิยามของคำว่า "การฉีดวัคซีนครบโดส" ซึ่งแต่เดิมมาจนถึงขณะนี้ CDC ให้นิยามว่า “ครบโดส”หมายถึง การได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 ของไฟเซอร์หรือโมเดอร์นาแล้วเป็นเวลา 2 สัปดาห์ หรือการได้รับวัคซีน 1 เข็มของจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสันแล้วเป็นเวลา 2 สัปดาห์

แพทย์สหรัฐชี้ 2 กลยุทธ์สำคัญสกัดโควิด “ระดมตรวจหาเชื้อ-เร่งฉีดวัคซีน”

แต่จากข้อมูลที่ได้รับมาบ่งชี้ว่า การได้รับวัคซีนดังกล่าวอาจไม่เพียงพอต่อการป้องกันไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน ทำให้อาจจำเป็นต้องมีการให้คำจำกัดความของคำว่า “ฉีดวัคซีนครบโดส” กันใหม่ อย่างไรก็ตาม ระหว่างนี้ ขอให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยกันต่อไป (แม้ฉีดวัคซีนแล้ว) เพื่อป้องกันการติดเชื้อ

 

แพทย์หญิงวาเลนสกีระบุว่า แม้ว่าขณะนี้จำนวนผู้เสียชีวิตจากไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนยังคงต่ำกว่าสายพันธุ์อื่น แต่การฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ถือเป็นการป้องกันการเสียชีวิตได้ดีที่สุด โดยผู้ที่ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นจะมีความเสี่ยงในการเสียชีวิตน้อยกว่าผู้ที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนถึง 20 เท่า

 

CDC เปิดเผยว่า ขณะนี้โควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนได้กลายเป็นสายพันธุ์หลักในสหรัฐแล้ว โดยคิดเป็นสัดส่วน 73% ของจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั้งหมด ขณะที่สัดส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อสายพันธุ์เดลตาลดลงเหลือเพียง 27% เท่านั้น

 

ปัจจุบัน สหรัฐครองอันดับ 1 ของโลกทั้งในแง่จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และผู้เสียชีวิต โดยมีผู้ติดเชื้อกว่า 52 ล้านราย และเสียชีวิตมากกว่า 828,000 ราย