เคาะแล้ว! ราคายาเม็ด "แพกซ์โลวิด"ของไฟเซอร์ ถูกกว่า "โมลนูพิราเวียร์”

18 พ.ย. 2564 | 22:49 น.

บริษัท ไฟเซอร์ ฯ ผู้ผลิตยาเม็ด "แพกซ์โลวิด" ที่กำลังยื่นขอขึ้นทะเบียนยากับ FDA เพื่อใช้เป็นยารักษาผู้ป่วยโควิดเป็นกรณีฉุกเฉินในสหรัฐ ได้ทำข้อตกลงขายยาดังกล่าวกับรัฐบาลสหรัฐแล้ว โดยมีราคาเฉลี่ยต่อคอร์สถูกกว่ายา “โมลนูพิราเวียร์” ของคู่แข่งเกือบ 200 ดอลลาร์

“ไฟเซอร์ อิงค์” บริษัทเวชภัณฑ์รายใหญ่จากสหรัฐอเมริกา ผู้ผลิตวัคซีนและยาต้านโควิด-19 เปิดเผยวานนี้ (18 พ.ย.) ว่า รัฐบาลสหรัฐ ได้ลงนามใน ข้อตกลงซื้อยาแพกซ์โลวิด ซึ่งเป็น ยารักษาโรคโควิด-19 จำนวน 10 ล้านคอร์ส วงเงิน 5,290 ล้านดอลลาร์ สำหรับการส่งมอบภายในปี 2565

 

ไฟเซอร์ระบุว่า หากยาแพกซ์โลวิดได้รับการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐ (FDA) ทางบริษัทก็จะเริ่มส่งมอบยาดังกล่าวในปีนี้ และจะส่งมอบครบจำนวนในปีหน้า (2565)

 

ก่อนหน้านี้ รัฐบาลสหรัฐได้สั่งซื้อยาโมลนูพิราเวียร์จากบริษัทเมอร์ค แอนด์ โค จำนวน 1.7 ล้านคอร์ส วงเงิน 1,200 ล้านดอลลาร์

เคาะแล้ว! ราคายาเม็ด "แพกซ์โลวิด"ของไฟเซอร์ ถูกกว่า "โมลนูพิราเวียร์”

เปรียบเทียบราคา และวิธีการกินยา 

ข่าวระบุว่า เมื่อเปรียบเทียบราคายาแพกซ์โลวิดและยาโมลนูพิราเวียร์ พบว่า ราคายาต่อ 1 คอร์สของแพกซ์โลวิดมีราคาถูกกว่าโมลนูพิราเวียร์ โดยรัฐบาลสหรัฐซื้อยาแพกซ์โลวิดจากไฟเซอร์เฉลี่ยราคาคอร์สละ 529 ดอลลาร์ หรือราว 17,000 บาท ขณะที่ซื้อยาโมลนูพิราเวียร์จากเมอร์คเฉลี่ยราคาคอร์สละ 700 ดอลลาร์ หรือมากกว่า 23,000 บาท

 

ทั้งนี้ ยา 1 คอร์สของเมอร์คประกอบด้วยยาโมลนูพิราเวียร์ขนาด 200 มิลลิกรัม จำนวน 40 เม็ดสำหรับผู้ป่วย 1 คน โดยผู้ป่วยจะรับประทานยาวันละ 2 ครั้งๆละ 4 เม็ด เป็นเวลา 5 วัน

 

ส่วนผู้ที่จะรับประทานยาของไฟเซอร์จะต้องรับทั้งยาแพกซ์โลวิด พร้อมกับยาริโทนาเวียร์ ซึ่งเป็นยาต้านไวรัส HIV โดยยา 1 คอร์สของไฟเซอร์ประกอบด้วยยาแพกซ์โลวิด 20 เม็ดและริโทนาเวียร์ 10 เม็ดสำหรับผู้ป่วย 1 คน โดยผู้ป่วยจะรับประทานยาแพกซ์โลวิดขนาด 150 มิลลิกรัม 2 เม็ดต่อครั้ง คู่กับยาริโทนาเวียร์ 100 มิลลิกรัม 1 เม็ดต่อครั้ง วันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 5 วัน

ไฟเซอร์เปิดเผยว่า ผลการทดลองพบว่า ยาแพกซ์โลวิดสามารถลดความเสี่ยงของผู้ป่วยโควิด-19 ในการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลหรือเสียชีวิตได้ถึง 89% โดยสูงกว่ายาโมลนูพิราเวียร์ของบริษัทเมอร์ค ซึ่งมีประสิทธิภาพเพียง 50%       

 

ขณะนี้ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐ (FDA) กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาให้การอนุมัติการใช้ยาโมลนูพิราเวียร์และยาแพกซ์โลวิดเป็นกรณีฉุกเฉิน โดยคาดว่าจะให้การอนุมัติยาโมลนูพิราเวียร์ในช่วงต้นเดือนธ.ค. และให้การอนุมัติยาแพกซ์โลวิดหลังจากนั้น