สำนักงานตำรวจเขตเกรทแมนเชสเตอร์ทวีตวานนี้ (14 พ.ย.) ระบุ เจ้าหน้าที่ตำรวจเขตเทศมณฑลเมอร์ซีย์ไซด์ได้จับกุมชาย 3 คน อายุ 29 , 26 และ 21 ปีในย่านเคนซิงตัน เมืองลิเวอร์พูล ภายใต้กฎหมายว่าด้วยการก่อการร้าย หลังเกิด เหตุระเบิดรถยนต์ คันหนึ่งด้านนอกเขต โรงพยาบาลหญิงลิเวอร์พูล ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ โดยขณะนี้ตำรวจท้องถิ่นร่วมกับตำรวจต่อต้านการก่อการร้ายกำลังร่วมกันสืบสวนหาสาเหตุของการระเบิดดังกล่าว
แถลงการณ์ของตำรวจระบุยังไม่ได้สรุปเกี่ยวกับสาเหตุของการระเบิด เพียงแต่เผยว่า รถยนต์คันที่เกิดเหตุระเบิดนั้น เข้าใจว่าเป็นรถแท็กซี่ที่เพิ่งเข้ามาจอดใกล้บริเวณโรงพยาบาลได้ไม่นานก่อนที่จะเกิดการระเบิดขึ้นในช่วงเวลาประมาณ 11.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ผู้เสียชีวิตเป็นผู้โดยสารเพศชายของรถคันที่เกิดระเบิด ส่วนผู้บาดเจ็บคือคนขับ ซึ่งขณะนี้ถูกส่งเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลและยังคงมีอาการคงที่ ตำรวจขอให้ประชาชนอยู่ในความสงบ อย่าตื่นตระหนกแต่ให้เพิ่มความระมัดระวัง
เหตุการณ์ระเบิดครั้งนี้เกิดขึ้นในเวลาใกล้เคียงกับขณะที่กำลังมีการจัดพิธีรำลึกถึงผู้เสียชีวิตในสงครามที่มหาวิหารเมืองลิเวอร์พูลซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลกันนัก
นายบอริส จอห์นสัน นายรัฐมนตรีอังกฤษ โพสต์ข้อความบนทวิตเตอร์ส่วนตัววานนี้แสดงความเสียใจต่อผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนี้ และแสดงความขอบคุณเจ้าหน้าที่หน่วยสาธารณภัยฉุกเฉินที่ปฏิบัติการอย่างมืออาชีพและรวดเร็ว รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กำลังติดตามสืบสวนเรื่องนี้
ตำรวจระบุว่า ในเบื้องต้นยังไม่มีการประกาศว่าเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นปฏิบัติการก่อการร้าย
ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางการสหรัฐอเมริกาโดยกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐอเมริกา หรือ DHS ก็เพิ่งมีประกาศเตือนภัยเผยแพร่เมื่อวันที่ 10 พ.ย. ให้ประชาชนเฝ้าระวังการก่อเหตุจากกลุ่มนิยมความรุนแรงภายในประเทศ (Domestic Violent Extremists- DVEs) และกลุ่มนิยมแนวทางรุนแรงที่ได้รับแรงบันดาลใจจากกลุ่มก่อการร้ายสากล ที่อาจเกิดขึ้นในช่วงปลายปีนี้
โดยทาง DHS ได้เตือนให้ประชาชนเตรียมพร้อมสำหรับ “สถานการณ์ฉุกเฉิน” และเพิ่มความระมัดระวังกับสถานการณ์ที่อาจเกิดความเสี่ยงกับตนเอง รวมถึงขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่นหรือ FBI ในกรณีที่พบเห็นเหตุการณ์ที่น่าสงสัยหรือเหตุการณ์ที่อาจก่อให้เกิดความไม่สงบ ซึ่งรวมถึงภัยคุกคามในโลกออนไลน์ (อ่านเพิ่มเติม: สหรัฐเตือนภัยก่อการร้ายช่วงปลายปี สถานทูตเตือนคนไทยในอเมริกา)