สหรัฐแซงจีน ขึ้นแท่นแหล่งขุดบิตคอยน์รายใหญ่สุดในโลก

14 ต.ค. 2564 | 07:34 น.

สหรัฐก้าวขึ้นมาเป็น “แหล่งขุดบิตคอยน์” รายใหญ่สุดของโลกแล้ว หลังจากจีนซึ่งเป็นแชมป์เก่า เจอมาตรการกวาดล้างจากภาครัฐที่ขุดรากถอนโคนธุรกรรมคริปโตจนหมดทางเติบโต

ศูนย์การเงินทางเลือกเคมบริดจ์ของอังกฤษ เปิดเผยว่า สหรัฐอเมริกา ได้กลายเป็น แหล่งขุดบิตคอยน์ รายใหญ่อันดับหนึ่งของโลกแทน จีน แล้ว หลังจากรัฐบาลจีนได้ออกมาตรการกวาดล้าง ซึ่งส่งผลให้ผู้ให้บริการขุดเหรียญคริปโตต้องยกเลิกการทำธุรกิจ หรือย้ายไปยังต่างประเทศแทน โดยเฉพาะส่วนใหญ่ย้ายเข้าสู่อเมริกาเหนือและเอเชียกลาง

 

ข้อมูลระบุว่า ส่วนแบ่งกำลังการประมวลผลในการขุดบิตคอยน์ของคอมพิวเตอร์ในจีนที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายบิตคอยน์ทั่วโลกนั้น ร่วงแตะระดับ 0 ในเดือนก.ค. จากระดับ 44% ในเดือนพ.ค. และจากระดับสูงถึง 75% ในปี 2562

สหรัฐแซงจีน ขึ้นแท่นแหล่งขุดบิตคอยน์รายใหญ่สุดในโลก

ส่วนแบ่งเหล่านี้ตกเป็นของสหรัฐอเมริกา คาซัคสถาน และรัสเซียแทน โดยสหรัฐมีส่วนแบ่งกำลังการประมวลผลในการขุดบิตคอยน์ประมาณ 35.4% ของทั้งโลก

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวสะท้อนให้เห็นอิทธิพลจากการที่จีนเดินหน้ากวาดล้างสกุลเงินคริปโต โดยรัฐบาลจีนสั่งห้ามไม่ให้สถาบันการเงินให้บริการเกี่ยวกับการทำธุรกรรมสกุลเงินคริปโต ซึ่งรวมถึงการซื้อขาย การชำระบัญชี และการออกผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินคริปโต เนื่องจากรัฐบาลจีนกังวลว่า ความผันผวนของสกุลเงินคริปโตจะส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของทรัพย์สินประชาชน และจะส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจและการเงินของจีน

 

ด้านบริษัทผู้ให้บริการขุดเหรียญคริปโตในจีน เช่นบริษัท Huobi Mall และ BTC.TOP ต่างพากันประกาศยุติการดำเนินธุรกิจ หลังจากนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีนและสภาแห่งรัฐของจีนออกแถลงการณ์ว่า ทางการจีนจะเข้ากวาดล้างการทำเหมืองขุดบิตคอยน์ รวมทั้งควบคุมพฤติกรรมการซื้อขายของนักลงทุนเพื่อป้องกันมิให้ความเสี่ยงของปัจเจกบุคคลลุกลามไปสู่สังคมในวงกว้าง โดยการคุมเข้มบิตคอยน์มีความจำเป็นเพื่อป้องกันระบบการเงินของประเทศ

สหรัฐแซงจีน ขึ้นแท่นแหล่งขุดบิตคอยน์รายใหญ่สุดในโลก

นอกจากนี้ เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ธนาคารกลางจีนประกาศผ่านเว็บไซต์ว่า การให้บริการซื้อขาย จับคู่คำสั่ง การออกโทเคนดิจิทัล รวมทั้งการออกตราสารอนุพันธ์สำหรับสกุลเงินดิจิทัล ถือเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย นอกจากนี้ แพลตฟอร์มจากต่างประเทศที่ให้บริการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลแก่ลูกค้าในจีน ก็ถือเป็นสิ่งผิดกฎหมายเช่นกัน และพนักงานที่ทำงานให้แก่แพลตฟอร์มดังกล่าวจะถูกดำเนินการสอบสวน

 

การดำเนินการครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่จีนออกมาตรการกวาดล้างสกุลเงินดิจิทัล โดยก่อนหน้านี้ในเดือนก.ค. ธนาคารกลางจีนมีคำสั่งห้ามสถาบันการเงินต่าง ๆ รวมทั้ง Alipay ซึ่งเป็นบริการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ในเครือของบริษัทแอนท์กรุ๊ปของอาลีบาบา ในการให้บริการที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินคริปโต ขณะที่รัฐบาลจีนสั่งกวาดล้างการทำเหมืองขุดบิตคอยน์