"เยลเลน" หนุน "พาวเวลล์" นั่งเก้าอี้ประธานเฟดสมัยที่ 2

23 ส.ค. 2564 | 02:44 น.

นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐเปิดเผยกับเจ้าหน้าที่ระดับอาวุโสของทำเนียบขาวว่า เธอจะสนับสนุนให้นายเจอโรม พาวเวลล์ ทำหน้าที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เป็นสมัยที่ 2 เมื่อเขาครบวาระการดำรงตำแหน่ง 4 ปีในช่วงต้นปีหน้า (2565)

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันนี้ (23 ส.ค.)ว่า การที่ นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลัง ออกมาแสดงท่าทีสนับสนุน นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) นั้น อาจทำให้นายพาวเวลล์มีโอกาสสูงมากที่จะได้รับความไว้วางใจให้ทำหน้าที่ ประธานเฟด ต่อไปอีกสมัย โดยนางเยลเลนซึ่งเป็นอดีตประธานเฟด ตระหนักว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้าทำให้เศรษฐกิจสหรัฐตกอยู่ในความไม่แน่นอน และการเปลี่ยนตัวประธานเฟดในช่วงวิกฤตเช่นนี้ อาจจะสร้างความวิตกกังวลต่อหลายฝ่ายรวมทั้งตลาดการเงิน

 

ทั้งนี้ ทำเนียบขาวกำลังมองหาผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะมาดำรงตำแหน่งประธานเฟดต่อจากนายพาวเวลล์ และขณะนี้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเสนอชื่อผู้ใดให้ดำรงตำแหน่งดังกล่าว

 

นายพาวเวลล์เข้ารับตำแหน่งประธานเฟดในเดือนก.พ. 2561 โดยขณะนั้น อดีตปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ได้เสนอชื่อนายพาวเวลล์ให้ดำรงตำแหน่งดังกล่าวต่อจากนางเจเน็ต เยลเลน ขณะที่ตลาดการเงินในเวลานั้นมองว่า การเสนอชื่อนายพาวเวลล์ ถือเป็น "ทางเลือกที่ปลอดภัย" สำหรับคณะบริหารของปธน.ทรัมป์ เนื่องจากนายพาวเวลล์เป็นเจ้าหน้าที่เฟดสายพิราบสังกัดพรรครีพับลิกันที่สนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปตามแนวทางของนางเยลเลน

"เยลเลน" หนุน "พาวเวลล์" นั่งเก้าอี้ประธานเฟดสมัยที่ 2

สำหรับประวัติการทำงานของนายพาวเวลล์ ซึ่งสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีด้านรัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน และได้เรียนต่อด้านกฎหมายจากมหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์นั้น เขาได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งสมาชิกคณะกรรมการผู้ว่าการเฟดจากอดีตปธน.บารัก โอบามา โดยเขาดำรงตำแหน่งในคณะกรรมการผู้ว่าการเฟดมาตั้งแต่วันที่ 25 พ.ค. 2555 ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 30 ปีที่ประธานาธิบดีสหรัฐมีการเสนอชื่อบุคคลจากพรรคฝ่ายตรงข้ามให้ดำรงตำแหน่งนี้

 

ถัดมาในปี 2557 นายพาวเวลล์ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งสมาชิกคณะกรรมการผู้ว่าการเฟดอีกสมัย และหลังจากนั้นในปีเดียวกัน วุฒิสภาสหรัฐก็ได้มีมติให้เขาดำรงตำแหน่งนี้ (ตำแหน่งสมาชิกคณะกรรมการผู้ว่าการเฟด) เป็นระยะเวลา 14 ปี ซึ่งจะสิ้นสุด ณ วันที่ 31 ม.ค. 2571

 

ทั่วโลกจับตาโร้ดแมปการเงินจากการประชุม "แจ็กสัน โฮล"

นอกจากข่าวการประกาศสนับสนุนนายเจอโรม พาวเวลล์ เป็นประธานเฟดอีกสมัยโดยนางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังแล้ว ตลาดการเงินทั้งในสหรัฐและทั่วโลก  ต่างจับตา การประชุมประจำปีของเฟด ที่เมือง แจ็คสัน โฮล ที่กำลังจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 26-28 ส.ค.นี้ เพราะพวกเขาคาดว่า เฟดจะส่งสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งแนวโน้มการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมดังกล่าว ซึ่งในปีนี้ มีหัวข้อประชุมว่า "Monetary Policy Framework Review" และจะเป็นการประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เป็นครั้งที่สองในรอบเกือบ 40 ปี (หลังจากที่มีการปรับรูปแบบการประชุมเป็นออนไลน์ครั้งแรกในปี 2563) เพื่อลดความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

 

ในการประชุมแจ็กสัน โฮลปีนี้ นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด จะกล่าวสุนทรพจน์ในประเด็น "แนวโน้มเศรษฐกิจ" ขณะที่นักวิเคราะห์บางส่วนคาดการณ์ว่า นายพาวเวลอาจจะเปิดเผยโร้ดแมปที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับลดวงเงินในโครงการ QE หลังจากที่เฟดได้ส่งสัญญาณในรายงานการประชุมประจำเดือนก.ค.ว่า กรรมการส่วนใหญ่สนับสนุนให้เฟดเริ่มปรับลดวงเงินในโครงการ QE ในปีนี้ โดยปัจจุบัน เฟดซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE อย่างน้อย 1.2 แสนล้านดอลลาร์/เดือน

 

ที่ผ่านมา การประชุมเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล ถือเป็นการประชุมที่ได้รับความสนใจอย่างมาก โดยมีผู้ว่าการธนาคารกลาง รัฐมนตรีคลัง นักวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน จากประเทศต่างๆทั่วโลก เดินทางเข้าร่วมการประชุม

 

อย่างไรก็ดี นางคริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) และนายแอนดรูว์ เบลีย์ ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะไม่เข้าร่วมการประชุมแจ็กสัน โฮลในปีนี้ เนื่องจากคณะผู้จัดงานจำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมการประชุม เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19