จากข้อมูลของศูนย์วิจัยไวรัสโคโรนาแห่งมหาวิทยาลัยจอห์นส์ ฮอปกินส์ ในสหรัฐอเมริกา พบว่า แม้ว่าขณะนี้จะมีจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ “โควิด-19” มากกว่า 3.52 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 248,000 คนในกว่า 210 ประเทศทั่วโลก (ข้อมูล ณ 4 พ.ค. 2563) แต่มีอยู่ 11 ประเทศที่ยังไม่มีรายงานยืนยันการตรวจพบเชื้อดังกล่าว
นับตั้งแต่ที่มีรายงานการแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นครั้งแรกที่ประเทศจีนในเดือนธันวาคม 2562 จนถึงขณะนี้มีรายงานการตรวจพบผู้ติดเชื้อในกว่า 210 ประเทศ แต่ขณะเดียวกันก็ยังมีอีก 11 ประเทศเอกราช ที่ไม่มีรายงานการตรวจพบเชื้อ หรืออาจจะกล่าวได้ว่าโควิด-19 ยังไปไม่ถึง 11 ประเทศดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นประเทศที่ตั้งอยู่ห่างไกลโพ้น เป็นประเทศเกาะ หรือไม่ก็เป็นประเทศปิดที่ไม่ค่อยติดต่อกับประเทศอื่น ๆ มากนัก ได้แก่ เกาหลีเหนือ เติร์กเมนิสถาน โซโลมอนไอส์แลนด์ วานูอาตู คิริบาส ไมโครนีเซีย นาอูรู นีอูเอ ปาเลา ซามัว และตองกา
นอกจากนี้ ยังมีอีกอย่างน้อย 10 เขตปกครองพิเศษที่อยู่ภายในอาณัติการปกครองของประเทศอื่น ๆ เช่น อังกฤษ สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส และออสเตรเลีย
ในบางประเทศ เช่น เกาหลีเหนือ แม้จะยังมีข้อกังขาว่าปราศจากโควิด-19 จริงหรือไม่เนื่องจากมีพรมแดนติดกับประเทศจีนซึ่งเป็นแหล่งต้นกำเนิดการแพร่ระบาด แต่รัฐบาลเกาหลีเหนือก็มีการรายงานต่อองค์การอนามัยโลก (WHO) เป็นประจำ มีมาตรการกักกันและควบคุมโรค และมีการลงพื้นที่ตรวจสอบโดยเจ้าหน้าที่ของ WHO จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีการตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 แต่อย่างใด
ส่วนกรณีของเติร์กเมนิสถาน ซึ่งตั้งอยู่ในเอเชียกลางและไม่มีทางออกสู่ทะเล อดีตเคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียต แต่ปัจจุบันปกครองภายใต้รูปแบบสาธารณรัฐมีประธานาธิบดีเป็นประมุข ไม่มีพรรคการเมืองฝ่ายค้าน เศรษฐกิจพึ่งพาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ค่อนข้างจะเป็นประเทศปิดที่เพิ่งเริ่มเปิดรับการลงทุนต่างชาติ ทำให้ลดโอกาสในการนำเข้าไวรัสโควิด-19 จากต่างประเทศไปด้วย นอกนั้นอีก 9 ประเทศล้วนเป็นหมู่เกาะในมหาสมุทร