สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ(สคต.) ณ กรุงไทเป รายงานโดยอ้างข้อมูลจาก The Economic Daily News ว่า โควิด-19 ยังคงออกฤทธิ์ไม่หยุด หลังจากที่ก่อนหน้านี้ bossini แบรนด์แฟชั่นชื่อดังเพิ่ง ประกาศปิดสาขาทั้งหมดในไต้หวันตั้งแต่สิ้นเดือนกรกฎาคมนี้เป็นต้นไป ล่าสุดบริษัทแม่ของ ESPRIT อีกหนึ่งแบรนด์เสื้อผ้าชั้นนำที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงได้ประกาศปิดสาขาทั้งหมดในเอเชีย ซึ่งรวมถึงสิงคโปร์ มาเลเซีย ไต้หวัน ฮ่องกง และมาเก๊า รวมทั้งสิ้น 56 สาขา พร้อมเปลี่ยนไปโฟกัสการรุกตลาดยุโรปเป็นหลักต่อไป
โดย ESPRIT ประกาศว่าจะปิดสาขาทั้งหมดในเอเชียภายในสิ้นเดือนมิถุนายนนี้ โดยในส่วนของสาขาในไต้หวันนั้น ESPRIT จะค่อย ๆ ทยอยปิดตัวตั้งแต่วันที่ 30 เมษายนนี้เป็นต้นไป ทำให้นับตั้งแต่ Forever 21 ประกาศปิดสาขาทั้งหมดในไต้หวันเมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้ว มีแบรนด์แฟชั่น ถึง 3 แบรนด์ ทยอยถอนตัวจากตลาดไต้หวัน ซึ่งข้อมูลจากรายงานผลประกอบการของบริษัท Marathon Asset Management LLP ซึ่งเป็นผู้ถือครองแบรนด์ ESPRIT ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงชี้ว่า รายได้รวมของสาขาในเอเชียทั้ง 56 ของ ESPRIT มีมูลค่ารวมประมาณ 267 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ 1,068 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน) คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 4 ของผลประกอบการทั้งหมด
ในรายงานยังชี้ว่า เจ้าหน้าที่ระดับบริหารจะปรับลดเงินเดือนลงร้อยละ 35 ในขณะที่ผู้บริหารระดับสูงจะลดเงินเดือนลงร้อยละ 25 และคณะกรรมการบอร์ดที่ไม่มีตำแหน่งบริหารปรับลดเงินเดือนร้อยละ 20
ทั้งนี้ ESPRIT เข้าสู่ตลาดไต้หวันมานานกว่า 20 ปี เคยเป็นหนึ่งในแบรนด์แฟชั่นชั้นนำใน ตลาดเสื้อผ้าสำเร็จรูปของไต้หวัน แต่จากการที่ในช่วงหลายปีมานี้ แบรนด์เสื้อผ้าในแนว Fast Fashion เข้ามารุกตลาดไต้หวันกันมากขึ้น ทั้ง UNIQLO, ZARA, GU, GAP และ H&M ต่างก็เร่ง เปิดสาขาจนเต็มไปหมด ทำให้ตลาดเข้าสู่ภาวะอิ่มตัว ในขณะที่การแข่งขันจากช่องทางออนไลน์ก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ประกอบกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ผู้บริโภคลดการใช้จ่าย จึงเป็นเสมือนฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ ESPRIT ตัดสินใจถอนตัวออกจากตลาดไต้หวันรวมไปจนถึงตลาดเอเชียทั้งหมด