เจาะอนาคต Entertainment Complex ไทย มุมมอง Galaxy Resorts Macau

06 มิ.ย. 2568 | 10:00 น.

เจาะมุมมองเชิงลึกผู้บริหารระดับสูง Galaxy Entertainment Group หนึ่งในผู้พัฒนารีสอร์ทครบวงจรระดับโลกประเทศไทยมีศักยภาพแค่ไหนในการก้าวสู่ Entertainment Complex โลก

มุมมองการขับเคลื่อนของไทยต่อการพัฒนาคอมเพล็กซ์ความบันเทิง

Kevin Clayton Chief brand officer at Galaxy Resorts Thailand ให้ความเห็นว่า ประเทศไทยกำลังอยู่ในจุดเปลี่ยนสำคัญของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว คล้ายกับที่สิงคโปร์เผชิญเมื่อปี 2005

Kevin Clayton Chief brand officer at Galaxy Resorts Thailand “ประเทศไทยกำลังเดินตามเส้นทางเดียวกับสิงคโปร์ ซึ่งก็คือการยกระดับการท่องเที่ยวให้เติบโตไปอีกขั้น โดยไทยมีเป้าหมายในการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวจาก 36 ล้านคน สู่ 50 ล้านคนขึ้นไปภายในปี 2030”

Kevin Clayton ระบุว่า การจะบรรลุเป้าหมายดังกล่าว ประเทศไทยจำเป็นต้องมี "ตัวจุดประกาย" ที่ช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยว เพิ่มการใช้จ่าย และยืดระยะเวลาการพักในประเทศ ซึ่งการพัฒนา สถานบันเทิงครบวงจร จึงกลายเป็นกลยุทธ์สำคัญที่หลายประเทศใช้ได้ผลมาแล้ว

Singapore city By ckstockphoto ตัวอย่างชัดเจนที่สุดคือ สิงคโปร์ ซึ่งเปิดรีสอร์ตครบวงจรในช่วงหลังปี 2005 และในเวลาไม่ถึง 15 ปี รีสอร์ตเหล่านั้นกลายเป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยว โดยมีถึง 48% ของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางไปเยือนรีสอร์ตเหล่านี้อย่างน้อยหนึ่งแห่ง Kevin กล่าวต่อว่า “ประเทศไทยกำลังเข้าสู่กระบวนการเดียวกันกับที่สิงคโปร์เคยเผชิญ” ซึ่งหมายถึงการต้องพิจารณาในประเด็นต่าง ๆ เช่น

  1. กฎระเบียบของภาครัฐ
  2. ระบบภาษี
  3. การใช้ที่ดิน
  4. การกำกับดูแลการเล่นพนันอย่างมีความรับผิดชอบ

“สถานบันเทิงครบวงจรต้องเข้าถึงได้สำหรับทุกคน” 

 

เมื่อถูกถามถึงเงื่อนไขการลงทุน Kevin ระบุว่า ไม่ว่าจะเป็นใน ญี่ปุ่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือประเทศไทย หลักการหนึ่งที่สำคัญคือ “รีสอร์ตครบวงจรต้องเปิดกว้างสำหรับทุกคน ไม่ใช่แค่เศรษฐี” 

“ตราบใดที่คุณอายุ 21 ปีขึ้นไป คุณควรมีสิทธิเข้าใช้บริการสถานบันเทิงครบวงจร รวมถึงกาสิโนได้ – ภายใต้ระบบที่กำกับดูแลความสามารถในการใช้จ่าย และมีแนวทางชัดเจนในการส่งเสริมการเล่นอย่างมีความรับผิดชอบ”

ที่มาภาพ Galaxy Resorts Macau

แม้เกมมิ่งหรือกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับกาสิโนจะเป็นหนึ่งในองค์ประกอบหลักของรีสอร์ตครบวงจร แต่ผู้ประกอบการรายใหญ่อย่าง Galaxy Entertainment Group เน้นย้ำว่า การดำเนินธุรกิจในตลาดใหม่อย่างประเทศไทย ต้องตั้งอยู่บนหลัก “ความรับผิดชอบ” เป็นสำคัญ

บริษัทให้ความสำคัญกับการกำกับดูแลที่เข้มงวด โดยเฉพาะในเรื่องการเล่นพนันอย่างมีความรับผิดชอบ และการสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและเป็นมิตรสำหรับผู้ใช้บริการทุกกลุ่ม ถือเป็นเรื่องปกติในกระบวนการขยายธุรกิจเข้าสู่ประเทศใหม่ ซึ่ง Galaxy พร้อมร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐของไทยในการออกแบบกฎระเบียบและมาตรการควบคุมอย่างเหมาะสม เพื่อให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างยั่งยืน และไม่ละเลยผลกระทบต่อสังคม

กรณีเข้าเล่นกาสิโนต้องมีทรัพย์สินเกิน 50 ล้าน – ป้องกันติดพนันได้จริงหรือไม่?

ในระหว่างการถกเถียงเรื่องกฎหมายสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) หนึ่งในประเด็นที่ถูกหยิบยกขึ้นมาคือ ข้อเสนอให้จำกัดผู้เข้าเล่นกาสิโนเฉพาะผู้ที่มีทรัพย์สินเกิน 50 ล้านบาท เพื่อป้องกันปัญหาการติดพนันในสังคม

Kevin Clayton Chief brand officer at Galaxy Resorts Thailand แสดงความคิดเห็นต่อประเด็นนี้อย่างน่าสนใจ โดยชี้ว่า

“นี่เป็นคำถามที่ดี และมันสะท้อนกลับไปสู่หัวใจของเรื่องทั้งหมด คือ ‘เงื่อนไขที่เหมาะสม’ ในการพัฒนากฎหมายและระบบควบคุม”

 

โดยให้ความเห็นว่าการมีหรือไม่มีเงิน ไม่ได้เป็นตัวกำหนดว่าใครจะเสี่ยงต่อปัญหาการพนัน

“เช่นเดียวกับปัญหาแอลกอฮอล์หรือบุหรี่ ปัญหาการพนันไม่ได้ขึ้นอยู่กับยอดเงินในบัญชีธนาคาร สิ่งสำคัญคือเราต้องมีกลไกควบคุมที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้แน่ใจว่าการเล่นจะเป็นไปอย่างมีความรับผิดชอบ”

ตลาดพนันเถื่อน – ปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่แล้ว

Kevin Clayton ย้ำว่า การตั้งข้อจำกัดแบบนี้อาจไม่เพียงพอในการป้องกัน เพราะในความเป็นจริง ตลาดการพนันในไทยกำลังเติบโตอยู่แล้ว แม้จะผิดกฎหมายรายงานหลายฉบับระบุว่า ไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการพนันสูงที่สุดในเอเชีย แม้ไม่มีกาสิโนถูกกฎหมายเลยด้วยซ้ำ กิจกรรมเหล่านี้เกิดขึ้นผ่านช่องทางออนไลน์ VPN และเว็บไซต์เถื่อน ไม่มีระบบควบคุม ไม่มีรายได้ภาษี ไม่มีมาตรการป้องกัน และไม่เกิดการจ้างงานในประเทศ เงินกำลังไหลออกนอกประเทศโดยตรง และไม่มีอะไรกลับคืนสู่สังคมไทยเลย

ถ้ารัฐบาลไทยสามารถออกกฎหมายและระบบอนุญาตสำหรับสถานบันเทิงครบวงจรได้อย่างมีมาตรฐาน ก็จะสามารถดึงดูดการลงทุนระดับหลายพันล้านดอลลาร์ สร้างการจ้างงานนับหมื่นตำแหน่ง และพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานใหม่ได้ ทั้งหมดนี้จะมาพร้อมระบบควบคุมที่เข้มงวด ทั้งด้านการฟอกเงินและการเล่นพนันอย่างรับผิดชอบ

คำถามจึงอาจไม่ใช่แค่ว่า “การกำหนดเกณฑ์ทรัพย์สิน 50 ล้าน จะป้องกันการติดพนันได้หรือไม่”

แต่ควรเป็น “เราจะจัดการกับปัญหาที่มีอยู่แล้วอย่างไร เพื่อให้สังคมปลอดภัยและเศรษฐกิจได้ประโยชน์ไปพร้อมกัน”

Andrew Lui, Head of Design & Development, Galaxy Entertainment Group

ปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้พื้นที่หนึ่งเหมาะกับการตั้งคอมเพล็กซ์ความบันเทิง?

ในยุคที่หลายประเทศกำลังมองหาการพัฒนา "สถานบันเทิงครบวงจร" หรือ Entertainment Complex เพื่อยกระดับการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจ ความสำเร็จของโครงการไม่ได้ขึ้นอยู่กับเพียงแค่เงินลงทุนหรือขนาดพื้นที่ แต่ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยที่ต้องทำงานร่วมกันอย่างรอบด้าน

Andrew Lui, Head of Design & Development, Galaxy Entertainment Group หนึ่งในผู้พัฒนารีสอร์ตครบวงจรในมาเก๊า กล่าวว่า ประสบการณ์จากการพัฒนาโครงการระดับโลกที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นถึง “3 ปัจจัยหลัก” ที่ขาดไม่ได้

1. โครงสร้างพื้นฐานที่พร้อมใช้งาน

“ทางด่วน ถนน หรือระบบขนส่งสาธารณะ ทั้งหมดต้องพร้อมและสอดประสานกับการพัฒนาโครงการ”

โครงการขนาดใหญ่ที่ต้องรองรับนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ย่อมต้องอาศัยระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ ทั้งในด้านการเดินทางของผู้คน การขนส่งสินค้า และการบริหารจัดการพื้นที่อย่างยั่งยืน หากเมืองหรือพื้นที่นั้นไม่มีโครงสร้างพื้นฐานที่เพียงพอ โครงการก็จะสะดุดตั้งแต่ต้นทาง

2. กรอบกฎหมายและกฎระเบียบที่ชัดเจน
“รัฐบาลต้องพิจารณาทุกมุมมองอย่างรอบด้าน เพื่อให้สถานบันเทิงครบวงจรสามารถดำเนินไปได้อย่างราบรื่นและปลอดภัย”

ความชัดเจนในด้านกฎหมาย โดยเฉพาะประเด็นเกี่ยวกับการพนัน ภาษี การใช้ที่ดิน และการคุ้มครองผู้บริโภค ถือเป็นหัวใจสำคัญ เพราะจะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน และเป็นพื้นฐานสำคัญของการบริหารความเสี่ยงในระยะยาว

3. ความสามารถในการตามเทรนด์ผู้บริโภค

“หลังยุคโควิด รสนิยมของลูกค้าเปลี่ยนเร็วมาก โดยเฉพาะจากอิทธิพลของโซเชียลมีเดีย”

แม้จะมีสถานที่และกฎหมายที่พร้อม แต่หากผู้พัฒนาไม่สามารถออกแบบประสบการณ์ที่ทันสมัย ตรงใจ และเชื่อมโยงกับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ โครงการก็อาจไม่ดึงดูดกลุ่มเป้าหมายได้มากพอ โดยเฉพาะในยุคที่การแข่งขันด้านความบันเทิงข้ามพรมแดนดุเดือดกว่าที่เคย

Galaxy Arena

เงินลงทุน 1 แสนล้านบาท: มากเกินไปหรือสมเหตุสมผลกับคอมเพล็กซ์ความบันเทิงในไทย?

การพูดถึง “ตัวเลขลงทุน” ในโครงการสถานบันเทิงครบวงจรในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นระดับ 1 แสนล้านบาท หรือหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ ล้วนเป็นประเด็นที่ถูกจับตามอง 

Andrew Lui จาก Galaxy Entertainment Group ระบุว่า การพิจารณาว่าเงินลงทุนระดับนี้เหมาะสมหรือไม่นั้น ต้องขึ้นอยู่กับ “แผนแม่บท” และ “ขอบเขตของโครงการ” ที่ชัดเจน

ในขณะที่ Kevin Clayton เน้นว่า ขนาดของการลงทุนขึ้นอยู่กับ “เงื่อนไขในร่างกฎหมาย” เป็นสำคัญ โดยเฉพาะประเด็นเรื่อง การเข้าถึงของคนในประเทศ ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่นักลงทุนต่างชาติให้ความสนใจ 

“กรณีของเกาหลีใต้หรือเวียดนามที่จำกัดไม่ให้คนในประเทศเข้ากาสิโน เป็นตัวอย่างที่สะท้อนว่า นักลงทุนจำนวนมากลังเลจะลงทุนระดับพันล้าน เพราะฐานลูกค้าไม่เพียงพอ”

เขาชี้ว่า หากประเทศไทยต้องการดึงดูดการลงทุนจำนวนมากจริง ๆ จะต้องออกแบบกรอบกฎหมายที่ “ทุกฝ่ายได้รับประโยชน์ร่วมกัน” โดยเฉพาะการเปิดให้คนไทยที่มีคุณสมบัติเหมาะสมสามารถเข้าใช้บริการได้ภายใต้การควบคุมที่รัดกุม

“เราจับตาดูร่างกฎหมายอย่างใกล้ชิด เพราะหากเงื่อนไขเหมาะสม ประเทศไทยก็ควรมีคอมเพล็กซ์ความบันเทิงอย่างน้อยหนึ่งแห่งที่สามารถเป็นหน้าเป็นตาในระดับภูมิภาคได้”

 

ประเด็นความกังวลเรื่องฟอกเงินและติดพนันอย่างไร?

Kevin Clayton ยืนยันว่า บริษัทให้ความสำคัญกับการป้องกันและควบคุมปัญหาทั้งสองด้านอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะการปฏิบัติตามแนวทาง ต่อต้านการฟอกเงิน (Anti-Money Laundering หรือ AML) “เราใช้แนวปฏิบัติระดับสากล ทำงานร่วมกับหน่วยงานกำกับดูแลของรัฐ และผ่านการตรวจสอบจากองค์กรอิสระทุกขั้นตอน เพื่อให้มั่นใจว่ามาตรการ AML ดำเนินอย่างถูกต้องและโปร่งใส”

 

ในด้านของ การป้องกันปัญหาการพนัน บริษัทได้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ในประเทศต่าง ๆ เช่น มาเก๊า สิงคโปร์ และสหรัฐอเมริกา ซึ่งครอบคลุมการทำงานร่วมกับหน่วยงานรัฐ องค์กรสาธารณสุข มหาวิทยาลัย และหน่วยวิจัย เพื่อสร้างแนวทาง “การเล่นอย่างมีความรับผิดชอบ” (Responsible Gambling)

มาตรการเหล่านี้ครอบคลุมทั้ง:

  • การจัดบริการช่วยเหลือในสถานที่
  • การสื่อสารข้อมูลความเสี่ยงกับลูกค้าอย่างชัดเจน
  • การวิจัยและตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง
  • การฝึกอบรมพนักงานให้ตระหนักถึงสัญญาณเตือนของปัญหาพนัน

Kevin Clayton ย้ำว่า “เราไม่เพียงพูดถึงการควบคุมเท่านั้น แต่ได้นำระบบที่พิสูจน์แล้วมาใช้จริง และพร้อมจะร่วมมือกับหน่วยงานไทยอย่างเต็มที่ เพื่อให้โครงการพัฒนาไปในทางที่ยั่งยืนและเป็นประโยชน์กับประเทศ”

Bangkok Downtown,Thailand By tampatra

อะไรทำให้ไทยมีศักยภาพสร้างคอมเพล็กซ์ความบันเทิงได้สำเร็จ?

ประเทศไทย โดยเฉพาะกรุงเทพฯ กำลังได้รับความสนใจในฐานะหนึ่งในทำเลศักยภาพสำหรับการพัฒนา สถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) จากผู้ประกอบการระดับโลก เนื่องจากมีปัจจัยสนับสนุนที่แข็งแกร่งหลายด้าน

1. ทำเลที่ตั้งและโครงสร้างพื้นฐาน
กรุงเทพฯ ตั้งอยู่ใจกลางภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เชื่อมโยงเส้นทางบินระหว่างประเทศกับเมืองสำคัญอย่างฮ่องกง สิงคโปร์ และอีกหลายเมืองใหญ่ ทำให้รองรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกได้อย่างสะดวก โครงสร้างพื้นฐานโดยรวม—ทั้งท่าอากาศยาน ถนน ระบบขนส่งมวลชน—มีความพร้อมระดับสูง ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญต่อความสำเร็จของสถานบันเทิงครบวงจรที่พึ่งพาการเดินทางและการท่องเที่ยว

2. ศักยภาพของคนไทยและความเข้าใจในการให้บริการ
ประชากรในกรุงเทพฯ โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ มีพลัง ขับเคลื่อนด้วยความกระตือรือร้น และมองหาความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกที่จะยกระดับประเทศ โครงการขนาดใหญ่เช่นนี้ไม่เพียงเป็นการลงทุนด้านโครงสร้าง แต่ยังเป็นโอกาสในการพัฒนาทักษะบุคลากร และยกระดับมาตรฐานการให้บริการสู่ระดับสากล

3. โอกาสในการสร้างผลิตภัณฑ์ระดับโลกจากรากฐานท้องถิ่น
ประเทศไทยมีจุดแข็งด้านวัฒนธรรม การบริการ และการต้อนรับ ซึ่งสามารถผสานเข้ากับความรู้และเทคโนโลยีจากผู้เชี่ยวชาญระดับนานาชาติ เพื่อสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวและความบันเทิงที่โดดเด่นในระดับโลก

แผนผังโมเดลพัฒนา “ท่าเรือคลองเตย”

ถ้าเริ่มที่ท่าเรือ ควรใช้เงินลงทุนเบื้องต้นประมาณเท่าไหร่?

แม้จะมีกระแสข่าวเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการฟื้นฟูพื้นที่ท่าเรือเพื่อรองรับโครงการสถานบันเทิงครบวงจรในกรุงเทพฯ แต่ในความเป็นจริง ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะประเมินตัวเลขการลงทุนเบื้องต้นได้อย่างชัดเจน

Kevin Clayton Chief Brand Officer แห่ง Galaxy Resorts Thailand ระบุว่า
“แม้จะมีรายงานเกี่ยวกับการพัฒนาพื้นที่ท่าเรือ แต่ยังไม่มีที่ดินแปลงใดได้รับการคัดเลือกอย่างเป็นทางการในกระบวนการนี้ และตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปหรือลงตัวเลขการลงทุนได้อย่างแม่นยำ”

Clayton อธิบายเพิ่มเติมว่า พื้นที่ท่าเรือ โดยเฉพาะบริเวณที่ติดแม่น้ำหรือมีศักยภาพเชิงพาณิชย์สูง อาจต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมากในการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน ยกระดับภูมิทัศน์ และเชื่อมต่อกับระบบคมนาคมหลักของเมืองอย่างมีประสิทธิภาพ

Galaxy Resorts Thailand ยังคงเปิดกว้างในการพิจารณาพื้นที่ศักยภาพทั่วกรุงเทพฯ โดยพิจารณาจากปัจจัยเชิงยุทธศาสตร์ เช่น การเข้าถึงของนักท่องเที่ยว ความพร้อมของระบบขนส่ง และความเหมาะสมในเชิงพาณิชย์ หากรัฐบาลไทยเสนอแปลงที่ดิน ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ท่าเรือหรือพื้นที่อื่น นักลงทุนจะต้องประเมินทั้งโอกาสและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน