“มาเก๊า” เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่พิสูจน์ให้เห็นถึงศักยภาพของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยอุตสาหกรรม Entertainment Complex อย่างเป็นรูปธรรม ภาษีจากธุรกิจกาสิโนและบริการในกลุ่มนี้ สร้างรายได้มากกว่า 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็น กว่า 80% ของ GDP ทั้งประเทศ
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลมาเก๊าไม่ได้หยุดอยู่กับโมเดลเดิม แต่กำลังร่วมมือกับผู้ประกอบการทุกแห่งในการกระจายแหล่งรายได้ โดยตั้งเป้าลดสัดส่วนรายได้จากภาษีกาสิโนลงเหลือ 40% ภายในปี 2028 ผ่านการขยายกิจกรรมด้านอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับกาสิโน
โครงการนี้ยังมีบทบาทสำคัญในการสร้างโอกาสทางอาชีพให้กับคนท้องถิ่น โดยจ้างงานมากกว่า 20,000 ตำแหน่ง พร้อมจัดโปรแกรมอบรมพัฒนาทักษะบุคลากรกว่า 800 รายการ ครอบคลุมทั้งด้านการบริการ เทคโนโลยี และการท่องเที่ยว โดยมีการอบรมเฉลี่ย 70 ชั่วโมงต่อคน
Galaxy Foundation องค์กรอิสระภายใต้กลุ่มบริษัท ยังมีบทบาทในการขับเคลื่อนโครงการเพื่อชุมชน โดยทำงานร่วมกับภาครัฐ สถาบันการศึกษา และองค์กรท้องถิ่น สะท้อนแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน
1.โรงแรมระดับหรูห้าดาว : มีห้องพัก ห้องสวีท และวิลล่ากว่า 5,000 ห้อง รองรับผู้เข้าพักมากกว่า 60,000 คนต่อวัน
2.Grand Resort Deck : สวนน้ำบนดาดฟ้าขนาด 75,000 ตารางเมตร
3. Galaxy Arena : สนามอารีน่าขนาด 16,000 ที่นั่ง สำหรับคอนเสิร์ตและการแสดงต่างๆ โดยมีการจัดแสดงเกือบ 200 รอบต่อปี
4. Galaxy Cinemas : โรงภาพยนตร์ระดับพรีเมียมพร้อมเทคโนโลยี 4K
5. Broadway Theatre : โรงละครสำหรับการแสดงสดและคอนเสิร์ต ส่งเสริมการแสดงทางวัฒนธรรมและ Soft power ได้ทั้งปี
6. Diamond Show : การแสดงมัลติมีเดียที่น่าตื่นตาตื่นใจ ด้วยแสงไฟ เอฟเฟกต์เสียงสมจริง และการแสดงน้ำที่เคลื่อนไหวอย่างมีชีวิตชีวา
7.Crystal Lobby Show : การแสดงที่โดดเด่น ด้วยแสงไฟประสานจังหวะ ดนตรีที่มีเสน่ห์ และคริสตัลที่งดงามตระการตา
8. Laserama : การแสดงเลเซอร์และแสงไฟล้ำสมัย ผสมผสานภาพที่เคลื่อนไหวอย่างมีพลังกับเสียงบรรยากาศ เพื่อสร้างประสบการณ์ความบันเทิงที่สมจริง
10.VR Immersive Experience Center : ศูนย์ประสบการณ์เสมือนจริง
11.GalaxyArt : พื้นที่ศิลปะร่วมสมัยขนาด 6,500 ตารางฟุต ที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และการมีส่วนร่วมทางวัฒนธรรม
12.Galaxy International Convention Center (GICC) : ศูนย์การประชุมระดับโลก บนพื้นที่ 40,000 ตารางเมตร
13.ร้านอาหาร : มากกว่า 120 แห่ง รวมถึงร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์ บาร์สุดหรู และเลานจ์
14.ร้านค้าแบรนด์หรู : รวมแบรนด์หรูระดับพรีเมียม มอบประสบการณ์การช้อปปิ้ที่เหนือระดับ
Kevin Clayton Chief brand officer at Galaxy Resorts Thailand กล่าวว่า
“ผมคิดว่า Entertainment Complex เช่นเดียวกับ ธุรกิจ การท่องเที่ยว กำลังเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น และเมื่อการแข่งขันเพิ่มขึ้น ธุรกิจจึงต้องพัฒนาให้สดใหม่และทันสมัยอยู่เสมอ คือเหตุผลที่เราลงทุนอย่างต่อเนื่องในสินค้าใหม่ บริการใหม่ แหล่งท่องเที่ยวใหม่ เช่น Galaxy Arena ซึ่งในปี 2024 เราจัดการแสดงสดถึง 198 รอบ มากกว่าสถานที่ใดในมาเก๊า
ทั้งหมดนี้คือการลงทุนเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว เพิ่มรายได้ด้านการท่องเที่ยวให้ประเทศ และที่สำคัญคือเติมเต็มรีสอร์ตของเราด้วยลูกค้ากลุ่มใหม่ที่ไม่ใช่นักพนัน”
ปัจจุบันประเทศไทยอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการเปิด Entertainment Complex เพื่อยกระดับเศรษฐกิจการท่องเที่ยว แก้ปัญหาการพนันผิดกฎหมาย และสร้างรายได้อย่างมีระบบ
Andrew Lui ผู้บริหารจาก Galaxy Entertainment Group ให้มุมมองว่า กรุงเทพฯ มีศักยภาพมหาศาล เป็นศูนย์กลางการเดินทางในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โครงสร้างพื้นฐานแข็งแรง และมีบุคลากรรุ่นใหม่ที่เข้าใจการบริการเป็นอย่างดี ระบุว่า ปัจจัยสำคัญของความสำเร็จในการพัฒนา Entertainment Complex ได้แก่
1.โครงสร้างพื้นฐาน เช่น การคมนาคมและการเดินทาง
2.กฎระเบียบภาครัฐ ที่เอื้อต่อการดำเนินงาน
3.ศักยภาพของผู้พัฒนาโครงการ ที่ต้องสามารถส่งมอบประสบการณ์ที่ทันสมัยและตอบโจทย์ตลาดได้รวดเร็ว
ความกังวลเรื่องการฟอกเงินเป็นประเด็นสำคัญที่ไทยต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ซึ่ง Kevin Clayton ยืนยันว่า
"เรามีมาตรฐาน AML (Anti-Money Laundering) ที่เข้มงวด ทำงานร่วมกับหน่วยงานรัฐ และผ่านการตรวจสอบจากองค์กรอิสระทุกขั้นตอน"
นอกจากนี้ ยังมีมาตรการควบคุมปัญหาการพนันอย่างเป็นระบบ เช่นการให้ข้อมูลลูกค้า
กรณีศึกษาจากมาเก๊าชี้ให้เห็นว่า Entertainment Complex ไม่ได้เป็นเพียงโมเดลธุรกิจ แต่เป็น “เครื่องมือทางเศรษฐกิจ” ที่สามารถเปลี่ยนแปลงโครงสร้างรายได้ของประเทศ สร้างงาน พัฒนาทักษะ และยกระดับคุณภาพชีวิต
ประเทศไทยจึงควรใช้โอกาสนี้ในการออกแบบนโยบายและโมเดลที่เหมาะสมกับบริบทของตนเอง โดยเน้นการควบคุมอย่างรัดกุม ควบคู่กับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างสร้างสรรค์และยั่งยืน