หลังศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งให้ "พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" หัวหน้าพรรคก้าวไกล หยุดปฏิบัติหน้าที่ส.ส.จากคดีหุ้นไอทีวี ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม 2566 จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย
ส่งผลให้บรรยากาศการประชุมสภาฯเพื่อโหวตเลือก นายพิธา เป็นนายกฯในรอบที่สอง เป็นไปอย่างดุเดือด ทั้งในห้องประชุมสภาฯและบริเวณด้านหน้ารัฐสภาเกียกกาย
สถานการณ์การเมืองที่เกิดขึ้นล่าสุดวันนี้ (21 ก.ค. 66)พรรคเพื่อไทยประกาศเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลแทนพรรคก้าวไกล แต่ต้องจับตาท้ายที่สุดหากเจรจากับพรรคเพื่อไทยไม่ลงตัว อาจถูกผลักให้เป็นพรรคฝ่ายค้านโดยปริยาย
เมื่อ "พิธา" ไม่ได้ไปต่อ และหากก้าวไกล ไปอยู่ขั้วฝ่ายค้าน มีเสียงจาก "กัณวีร์ สืบแสง" เลขาธิการพรรคเป็นธรรม ในฐานะ ส.ส.บัญชีรายชื่อเพียงคนเดียวของพรรคฯ ที่ “พิธา” ชวนให้ร่วมรัฐบาลในวันแรกที่จัดตั้งรัฐบาลก้าวไกล ประกาศชัดเจนว่า
“หากพรรคก้าวไกลเป็นฝ่ายค้าน พรรคเป็นธรรมมีจุดยืนเดียวกัน คือไปเป็นฝ่ายค้านเช่นเดียวกัน”
"กัณวีร์ สืบแสง"จบการศึกษาระดับมัธยม โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย
จบปริญญาตรี เกียรตินิยมอันดับ 2 คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
และปริญญาโท ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ กฎหมายระหว่างประเทศและมานุษยวิทยา จากมหาวิทยาลัยออริกอน (University of Oregon) ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยรัฐบาลของสหรัฐอเมริกา
“กัณวีร์ สืบแสง” เริ่มต้นงานการเมืองกับ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ในปี 2565 ได้รับการวางตัวให้เป็นว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เขตสวนหลวง-ประเวศ กรุงเทพมหานคร แต่ยังไม่ได้ลงสมัคร เขาตัดสินใจลาออกในปีเดียวกัน ก่อนที่จะลงมาทำงานภาคประชาชนเป็นประธานมูลนิธิสิทธิเพื่อสันติภาพ
ต่อมาเข้าร่วมงานกับ “พรรคเป็นธรรม” และในปี 2566 รับตำแหน่งเลขาธิการพรรค โดยชูนโยบายการสร้างสันติภาพในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พาทหารกลับ ด้วยนโยบายสิทธิมนุษยชนนำการเมืองทำให้ได้รับคะแนนโหวต 181,226 คะแนน และได้ ส.ส. บัญชีรายชื่อ เพียงคนเดียวของพรรคเป็นธรรม