4พรรคการเมืองตัวแปร"ทิ้งไพ่ใบสุดท้าย"ชิงคะแนนเสียง

12 พ.ค. 2566 | 08:42 น.

จับตา 4 พรรคตัวแปร ทิ้งท้ายรณรงค์หาเสียงก่อนวันหย่อนบัตรเลือกตั้ง ปักหลักเขตฐานที่มั่น โชว์จุดแข็งพรรค ปลุกประชาชนอย่าเลือกตามกระแส

"วราวุธ"ชี้คะแนนเสียงคือโพลที่แม่นที่สุด "กรณ์"ย้ำเลือกเพราะชอบอย่าเลือกเพราะกลัว "คุณหญิงหน่อย"ประกาศไม่เอาลุง-ไม่เอาขัดแย้ง "อนุทิน"ไม่วอแวพร้อมเป็นนายกฯ

นับถอยหลังสู่เส้นชัยการเลือกตั้งทั่วไปอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคม 2566 นี้แล้ว แต่ละพรรคงัดไม้ตายหงายไพ่ใบสุดท้ายออกมา หวังกระชากใจชาวบ้านให้หย่อนบัตรลงคะแนนเสียงให้กันสุดฤทธิ์

 

"ฐานเศรษฐกิจ" เกาะติดความเคลื่อนไหว 4 พรรคตัวแปรการเมืองหลังเลือกตั้ง พบแกนนำหลักยกทัพกลับไปคุมพื้นที่เป้าหมาย  ปลุกชาวบ้านอย่าไขว้เขวการปลุกกระแสหย่อนบัตรแบบแบ่งขั้ว หรือเลือกตั้งเชิงยุทธศาสตร์ พร้อมย้ำนโยบายหลักส่งท้าย มีรายละเอียดแต่ละพรรคเรียงตามลำดับอักษร ดังนี้

-"ชาติไทยพัฒนา"ชิงธงร่างรธน.

พรรคเก่าแก่สีชมพู เบอร์ 18  ที่มีประวัติสืบสายยาวต่อจากพรรคชาติไทยในอดีต ที่ชูความเป็น"นักปฎิบัติ" คำไหนคำนั้น ตรงไปตรงมา มีฐานเสียงหลักที่สุพรรณบุรีและพื้นที่ภาคกลาง ยกสุดท้าย 12 พ.ค. 2566 สองพี่น้องศิลปอาชา  "วราวุธ-กัญจนา" ควงแขนนำผู้สมัครของพรรคในพื้นที่ ตระเวนพบปะชาวสุพรรณบุรี 

4พรรคการเมืองตัวแปร\"ทิ้งไพ่ใบสุดท้าย\"ชิงคะแนนเสียง

ตอกย้ำความตั้งใจอยากเห็นการเปลี่ยนแปลง และมุ่งมั่นที่จะ “ทำงานต่อ” ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะไหน ดังนั้นโพล 10 โพล ที่ออกมา ถือเป็นสิ่งที่บอกว่า “เราต้องไม่ประมาท” และ “อย่าเอาผลโพลมาทำให้เราท้อแท้ เพราะโพลที่แม่นที่สุด คือ ผลคะแนน 14 พฤษภาคมนี้” 

"เรายังมั่นใจว่าเราจะได้ ส.ส. ไม่ต่ำกว่า 25 ที่นั่ง ตามเป้าหมายที่พวกเราชาวพรรคชาติไทยพัฒนา ตั้งใจไว้ เพื่อไปทำงานให้กับพี่น้องประชาชน เข้าไปแก้ไขรัฐธรรมนูญให้สำเร็จ ภายใน 100 วัน แรก หลังมีรัฐบาลใหม่ เพื่อให้ได้รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน อย่างแท้จริง"

เช่นเดียวกับรัฐธรรมนูญ 2540   ที่ได้ริเริ่มสมัยรัฐบาลนายบรรหา ศิลปอาชา 

ด้านนโยบายหลักทางเศรษฐกิจ พรรคชาติไทยพัฒนาชี้จุดต่าง ว่า พรรคไม่เน้นประชานิยม แต่เน้นการสร้างรายได้เศรษฐกิจฐานราก การแก้ปัญหาไม่ใช่แจกเงิน แต่ต้องสร้างงานสร้างอาชีพ มีรายได้ที่ยั่งยืน มีความสามารถชำระหนี้ได้ การเพิ่มอาชีพให้คนอาจร่วมมหาวิทยาลัยต่างๆ ฝึกอบรม ให้งบประมาณดูแลคนสูงวัย จ้างซ่อมแซมอุปกรณ์ไฟฟ้า ซ่อมคอมพิวเตอร์ ค้าขายออนไลน์ คำนวณงบประมาณที่ใช้หาก 20 ล้านคน ใช้เงินแค่ 20,000 ล้านบาท

ขณะที่เรื่องเร่งด่วน จะทำอย่างไรให้จีดีพีเพิ่มขึ้น โดยต้องใช้เทคโนโลยีหารายได้จากต่างประเทศ เช่นการทำแพลตฟอร์ม เหมือนกับแพลตฟอร์มของต่างประเทศที่เข้ามาหารายได้ในไทย และไทยต้องเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัล ที่สำคัญต้องมีหลัก Wow Thailand มาจาก เวลธ์ที่ดี สร้างโอกาสคนไทย และสร้างสวัสดิการให้ทุกคน นโยบายเน้นการดูแลเศรษฐกิจฐานรากผู้ด้วยโอกาส ไม่ใช่ลดแลกแจกแถม เพื่อสร้างประเทศไทยที่ยั่งยืนเพื่อลูกหลาน และไม่พลาดย้ำต้องการทำประเทศให้กรีน อีกจุดขายหลักของพรรคที่ชูมาตลอด 

-ชาติพัฒนากล้าทวงคืน"ยุคทองเศรษฐกิจ"

อีกหนึ่งพรรคเก่าแก่ที่ก่อตั้งโดยพล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ เพื่อกลับสู่เส้นทางการเมืองหลังโดนรัฐประหาร ปัจจุบันขับเคลื่อนโดยตระกูล"ลิปตพัลลภ" มีพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาเป็นฐานเสียงหลัก และล่าสุดผนวกรวมกับพรรคกล้า ของนายกรณ์ จาติกวณิช อดีตแกนนำและมือเศรษฐกิจที่แยกตัวจากประชาธิปัตย์ เพื่อลงชิงชัยในสมรภูมิเลือกตั้งทั่วไป คราวนี้ได้เบอร์ 14

4พรรคการเมืองตัวแปร\"ทิ้งไพ่ใบสุดท้าย\"ชิงคะแนนเสียง

ส่งท้ายรณรงค์หาเสียงด้วยเวทีปราศรัยใหญ่ครั้งสุดท้าย 12 พ.ค.2566 ที่รามาการ์เด้น กรุงเทพฯ ชูคำขวัญมาร่วมสร้างประเทศแห่งโอกาส  สู้ทุนผูกขาด เศรษฐกิจต้องเรา เพื่อให้คนไทย งานดี มีเงิน ของไม่แพง จากนั้นวันรุ่งขึ้นนายกรณ์ จาติกวนิช หัวหน้าพรรค นำขบวนขึ้นรถแห่อ้อนคนกรุง หาเสียงโค้งสุดท้าย ย่านชุมชนทั่วกรุงเทพฯ พร้อมย้ำ"อย่าเลือก สิ่งที่เราไม่ได้ชอบจริง ๆ เพียงเพราะกลัวอีกฝ่าย  แต่จงเลือก พรรคที่มั่นใจว่าสู้เรื่องปากท้องให้พี่น้องประชาชน" 

ขณะที่สุวัจน์-เทวัญ ลิปตพัลลภ นำผู้สมัครส.ส.พรรคในพื้นที่และทีม ลงตรึงคะแนนเสียงในแต่ละเขตเลือกตั้งของนครราชสีมา จากที่ก่อนหน้าที่ปราศรัยศรัยหาเสียงเป็นกลุ่มเป็นก้อนกับพี่น้องประชาชน พนักงานบริษัท พ่อค้าแม่ค้า มีทั้งในศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า โฮเทล ตลาดสด และปราศรัยย่อยตามวัด โรงเรียน สถานศึกษา สวนสุขภาพ ลานเอนกประสงค์อำเภอต่างๆ บริษัทเอกชนต่อตัวถังรถโดยสารรายใหญ่ บริษัทศูนย์จำหน่ายรถยนต์ เสียงตอบรับดีใจมากจนหายเหนื่อย 

ส่งท้ายก่อนถึงวันหย่อนบัตร ต้องขึ้นรถแห่ตระเวนเพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่มากที่สุด ภายในเวลาที่เหลืออยู่ "สุวัจน์" เผย บรรยากาศดีมาก คึกคัก พี่น้องประชาชนให้การต้อนรับอบอุ่นมาก โค้งสุดท้ายแล้วต้องหาเสียงกันทุกรูปแบบ เช่นตอนนี้ใช้วิธีการเข้าหาพี่น้องประชาชนลักษณะนี้ ไปตลอดจนสิ้นสุดก่อนวันที่ 14 พ.ค.นี้  ก่อนย้ำว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ ถ้าพี่น้องประชาชนมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งกันเยอะๆ ก็จะดีต่อประชาธิปไตย เราก็จะได้มีรัฐบาลที่มั่นคง มีเสถียรภาพ แก้ไขปัญหาให้กับประเทศชาติได้

พรรคชาติพัฒนากล้า ชูประเด็นมีทีมงานคุณภาพ นโยบายบนจุดแข็งสังคมไทย คือสินค้าเกษตร อาหาร ท่องเที่ยว ซอฟต์เพาเวอร์ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เกิดรายได้ใหม่ 5 ล้านล้านบาท เพื่อนำยุคทองทางเศรษฐกิจกลับคืนมาอีกครั้ง ด้วยเศรษฐกิจเฉดสี  โดยช่วงก่อนหน้าที่มีปัญหาราคาพลังงานสูง นายกรณ์เคลื่อนไหวเรียกร้องปรับโครงสร้างราคาน้ำมัน ต่อเนื่องถึงเรื่องราคาไฟฟ้า เพื่อลดภารพค่าใช้จ่ายประชาชน  
                
-ไทยสร้างไทย"ไม่เอาลุง"

ด้านพรรคไทยสร้างไทย พรรคใหม่ภายใต้การนำของนักการเมืองผู้คร่ำหวอด คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ที่เกิดจากพรรคพลังพรรม เติบโตที่ไทยรักไทย จนมาสร้างพรรคใหม่สัญลักษณ์ "ส." ที่เลือกตั้งคราวนี้ได้เบอร์ 32  ฐานเสียงเดิมพื้นที่กทม. และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

4พรรคการเมืองตัวแปร\"ทิ้งไพ่ใบสุดท้าย\"ชิงคะแนนเสียง

ส่งท้ายหาเสียงเลือกตั้ง พรรคไทยสร้างไทย เปิดปราศรัยใหญ่ 12 พ.ค. 2566 ที่ลาน Parc Paragon ด้วยคำขวัญพรรคไทยสร้างไทย-ทางรอดประเทศไทย ขณะที่บนหน้าเฟซบุกของพรรค ก็โพสต์ประกาศจุดยืน "ไม่เอาลุง ไม่เอาความขัดแย้ง ไทยสร้างไทย คือคำตอบ"

ไทยสร้างไทยเสนอตัวเป็นทางเลือกทางออกของประเทศ ยุติความขัดแย้งการเมืองสองขั้ว ตั้งเป้าในปีแรกจะผลักดันแก้ไขรัฐธรรมนูญ ให้มีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ(ส.ส.ร.) ยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ยุติวงจรความขัดแย้งการเมือง 2 ฝ่าย และเน้นเรื่องเสรีภาพ ความเสมอภาค และภราดรภาพ ส่งเสริมการสร้าง การแบ่งปันกันระหว่างเพื่อนมนุษย์ ไม่สนับสนุนสงครามในทุกมิติ ยึดหลักการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ

ด้านความเป็นอยู่อาสาดูแลสวัสดิการประชาชนตั้งแต่เกิดจนแก่ เริ่มจากสวัสดิการเด็กแรกเกิดถึง 6 ปี มีเงินอุดหนุนเดือนละ 3,000 บาท นโยบายเรียนฟรีจนจบปริญญาตรี ไม่เป็นหนี้ กยศ. เมื่อเรียนจบเข้าสู่วัยทำงาน จะเร่งพักใช้กฎหมายที่ล้าสมัยและเป็นอุปสรรคต่อการทำมาหากิน เปิดโอกาสให้คนได้ทำมาหากินและสร้างตัว โดยมีกองทุนสร้างไทย 3 แสนล้านบาท เพื่อสร้างแต้มต่อและเติมทุนให้กับคนตัวเล็ก ตลอดจนกองทุนเครดิตประชาชนวงเงิน 50,000 บาท ไว้ล้างหนี้นอกระบบหรือใช้ในยามฉุกเฉิน และผลักดันให้เกิดบำนาญประชาชนเดือนละ 3,000 บาท เพื่อให้คนไทยมีชีวิตความเป็นอยู่อย่างมีคุณภาพทุกช่วงวัย

แก้ปัญหาการเมืองไม่ได้ แก้เศรษฐกิจไม่ได้ เบื่อลุง กลัวความขัดแย้ง ไทยสร้างไทยคือคำตอบ.

-ภูมิใจไทยย้ำ"พูดแล้วทำ"

ขณะที่พรรคภูมิใจไทย หมายเลข 7 ส่งท้ายก่อนเข้าสู่วันหย่อนบัตรเลือกตั้ง โดยตอกย้ำไปที่กาเบอร์ 7 เลือกพรรคภูมิใจไทย ให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรี โดยไม่ไปวอแวกระแส"ลุง-เรา" หรือแลนด์สไลด์ แม้ก่อนหน้านั้นจะเสียดสีในสนามเลือกตั้งจนตั้งคดีฟ้องร้องกัน   

4พรรคการเมืองตัวแปร\"ทิ้งไพ่ใบสุดท้าย\"ชิงคะแนนเสียง

หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยย้ำ จุดแข็งของพรรคคือ มุ่งทำงาน ไม่สร้างปัญหา ทำให้รัฐบาลมีเสถียรภาพ ตลอด 4 ปีที่ผ่านมาภูมิใจไทย ถึงมีสมาชิกที่เพิ่มขึ้นก็ไม่เคยต่อรอง สร้างความวุ่นวายในสภา กลับกันเรายังผลักดันงานให้ไปข้างหน้า ไม่เล่นเกมการเมืองแม้จะถูกกระทำอยู่บ่อยครั้ง สิ่งที่ยอมไม่ได้คือเรื่องของคอร์รัปชัน และเรื่องสถาบัน 

นอกจากนั้น เราไม่สร้างความขัดแย้ง ซึ่งเป็นปัจจัยลบ เหนี่ยวรั้งประเทศ เราทะเลาะกันมาร่วม 20 ปี แล้ว มันควรจะมีใครสักคน มาทำหน้าที่เชื่อมประสานทุกฝ่าย ให้หันหน้าจับมือช่วยกันทำงาน คิดเพื่อชาติ บ้านเมือง และประชาชน พรรคภูมิใจไทย เรามีคุณสมบัติ ที่พร้อมรับฟังทุกฝ่าย และคิดว่ามีทักษะในการบริหารความขัดแย้งเช่นกัน

 "บ้านเมืองต้องการพรรคที่ทำงานได้และมีผลงาน เป็นประโยชน์กับประชาชน  ซึ่งพรรคภูมิใจไทยมั่นใจว่า เรามีความสามารถตรงนั้น รัฐมนตรีของพรรคทำงานแบบทุ่มสุดตัว วันนี้การคมนาคมขนส่งของไทยเติบโตอย่างมาก มีการพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรม เรื่องค่าโง 2.5 หมื่นล้านเราสู้ และตอนนี้ต้องรื้อคดีกันใหม่ รถไฟฟ้าเราก็สู้ไม่ให้มีการปรับขึ้นราคา"   

นายอนุทินยังชี้ถึงผลงานรับมือโควิด-19 จนองค์การอนามัยโลกชื่นชมและยกไทยเป็นต้นแบบ ขณะที่การท่องเที่ยว มีนักท่องเที่ยวเข้ามามากมาย เครื่องยนต์เศรษฐกิจขับเคลื่อนเต็มที่ เงินสะพัดในประเทศมหาศาล เหล่านี้ คือผลของการทำงานหนักของเรา"

อนาคตประเทศไทยจะไปทางไหน อยู่ที่บัตรเลือกตั้งที่จะหย่อนกันวันที่ 14 พ.ค.2566 นี้