นโยบายหาเสียงที่ดินทำกิน เดือด! โฉนดล้านแปลง-ส.ป.ก. ทั่วไทย 

09 เม.ย. 2566 | 08:30 น.

เกษตรกร-ชาวบ้านถูกหวย ขานรับนโยบายแจกโฉนดล้านแปลง ภายใน 4 ปี พรรคประชาธิปัตย์ หลังประสบความสำเร็จแปลง น.ส.3 เป็นโฉนด ลดเหลื่อมล้ำ  ด้านก้าวไกลไม่น้อยหน้า แก้ที่ดินทำกินเพิ่มทั่วหน้า ส่วนธรรมนัส แปลง ส.ปก.เป็นโฉนด

 

การสู้ศึกเลือกตั้งดังกระหึ่มขึ้น แต่ละพรรคการเมือง โดยเฉพาะค่ายใหญ่ ต่างงัดกลเม็ดสาดสีสันดึงดูดใจประชาชน  โดยเฉพาะนโยบายครองใจมากที่สุด คงหนีไม่พ้น “ประชานิยม”  ที่จับต้องได้และมองว่าโดนใจมากที่สุด นอกจากมาตรการเยียวยา แจกเงิน แล้ว ยังมีโครงงการการจัดหาที่ดินทำกิน ทั้งที่ดินรัฐเขตป่า ส.ป.ก. และการเร่งรัดออกเอกสารสิทธิ์ ให้กับประชาชน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต

 

 

 ทั้งนี้เมื่อครั้ง นายนิพนธ์ บุญญามณีเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กำกับดูแลกรมที่ดินได้ขับเคลื่อนนโยบายเปลี่ยนน.ส.3 เป็นโฉนดที่ดิน  โดยจัดทำแผนเดินสำรวจออกโฉนดระยะยาวครอบคลุมทั่วประเทศ 10 ปี นับตั้งแต่ปีงบประมาณ 2565-2574 จำนวนเกือบ 1 ล้านแปลง วงเงิน 3,467 ล้านบาท จากทั้งหมด 3-4 ล้านแปลงที่ยังไม่มีเอกสารสิทธิ์ แต่เนื่องจากงบประมาณมีจำกัดจึงดำเนินการลักษณะค่อยเป็นค่อยไป

 ล่าสุด ในการลุยศึกเลือกตั้งครั้งนี้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ได้ยืนยัน ว่า พร้อมดำเนินการตามนโยบายออกกรรมสิทธิ์ทำกินในที่ดินของรัฐให้เกษตรกรในพื้นที่ต่างๆ อย่างทั่วถึงโดยชูหัวใจสำคัญ “ออกโฉนดที่ดิน 1 ล้านแปลงใน 4 ปี” เพื่อแก้ปัญหาของประชาชนที่ไม่มีที่ดินทำกินอยู่ในที่รกร้างว่างเปล่า ซึ่งประชาชนพอใจและอยากได้เอกสารสิทธิ์ประเภทโฉนดเป็นของตนเอง หลังประชาชนให้การตอบรับโครงการที่ผ่านมา

สอดรับกับนายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ สะท้อนว่า ปัญหาเรื่องที่ดินทำกินของประชาชนเป็นอีกเรื่องที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก จากปัญหาที่ดินทำกิน การขีดเขตป่า เขตอุทยาน การกำหนดพื้นที่สาธารณะ ทุ่งสงวนเลี้ยงสัตว์ ทับที่ดินทำกินของชาวบ้าน การเร่งพิสูจน์สิทธิในที่ดินทำกินด้วยความจริงใจและเป็นธรรม

เพื่อนำไปสู่การออกโฉนดให้กับประชาชน รวมถึงการยกเลิกและแก้ไขกฎหมายเพื่อแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบเพื่อให้เกิดความยั่งยืน นำไปสู่การออกโฉนดที่ดินให้กับประชาชนต่อไป ตั้งเป้าหมายออกโฉนดที่ดิน 1 ล้านแปลง ภายใน 4 ปี ซึ่งในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ได้ดำเนินการสำเร็จมาแล้วส่วนหนึ่งและจะสานต่อเพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์ให้มากที่สุดต่อไป

ควบคู่ไปกับการแก้ปัญหาของประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของรัฐ ก็จะมีนโยบายออกกรรมสิทธิ์ทำกินให้กับพี่น้องประชาชน เพื่อให้เกิดความมั่นคงและยั่งยืน ไม่ต้องเกิดความกังวล ว่าจะถูกดำเนินคดีหรือไม่ ปัญหาเหล่านี้ไม่ควรส่งต่อจากรุ่นหนึ่งไปยังอีกรุ่นหนึ่ง พรรคมีนโยบายชัดเจนในการแก้ปัญหาให้จบอย่างเป็นระบบ ซึ่งเคยทำสำเร็จมาแล้วในเรื่องนโยบาย “โฉนดชุมชน” ประชาชนพึงพอใจและเรียกร้องให้สานต่อ

ด้านพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล หาเสียงเปิดเวทีพบปะประชาชนจังหวัดหนองคาย โดยระบุว่า ปัญหาที่ดินในประเทศไทย 62% เป็นที่ดินที่รัฐถือครอง ภายใต้การบริหารของกระทรวงถึง 8 กระทรวง ประเทศที่พัฒนาแล้วไม่มีที่ไหนเก็บที่ดินอยู่ในมือรัฐจำนวนมาก

  หากพรรคก้าวไกลได้เป็นรัฐบาลประชาชนทั่วประเทศได้ที่ดินเพิ่ม 10 ล้านไร่ จากปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 40 ล้านไร่ทั่วประเทศ หลังได้รับข้อร้องเรียน จากประชาชน ที่ได้รับผลกระทบ กรณีป่าสงวนดงสีชมพูประกาศทับที่ทำกินประชาชน ที่บ้านเหล่าทองหลาง ต.เหล่าทองอ.โซ่พิสัยจ.บึงกาฬ ขณะอ.เฝ้าไร่จ.หนองคายเป็นพื้นที่ที่มีปัญหาการจัดการที่ดินส.ป.ก.ที่ประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากกรณีถูกสั่งให้รื้อถอนออกจากพื้นที่ ขณะเดียวกันยังมีแผนผลักดันแปลงส.ป.ก.เป็นโฉนดอีกด้วย

 นอกจากนี้ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย เคยประกาศบนเวทีปราศรัยเมื่อครั้งร่วมรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ว่าจะแปลงที่ดินส.ป.ก.เป็นโฉนด โดยมอบกรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทยดำเนินการ ซึ่งคาดว่านโยบายดังกล่าวจะกลับมาหาเสียงอีกครั้งในสนามเลือกตั้งครั้งนี้ ในนามพรรคพลังประชารัฐ

 แหล่งข่าวจากกรมที่ดินเปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า นโยบายการเดินสำรวจออกโฉนด กรมที่ดินดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้โฉนดถึงมือประชาชน และเข้าถึงหลักประกันสินเชื่อได้มากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาปีงบประมาณ 2565 ได้เดินสำรวจออกโฉนดที่ดินพื้นที่ 70 จังหวัดมีเป้าหมาย 43,500 แปลงแต่สามารถดำเนินการได้ถึง 45,443 แปลงคิดเป็น 104.46%

 โดยปีงบประมาณ 2566 ยังได้จัดชุดเจ้าหน้าที่ศูนย์เดินสำรวจออกโฉนดที่ดินใน 69 จังหวัดตั้งเป้า 52,000 แปลงทั่วประเทศช่วยประชาชนออกโฉนดในการได้มีกรรมสิทธิ์ถือครองผ่าน 2 โครงการ และโครงการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินและรังวัดรูปแปลงโฉนดที่ดินให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน, โครงการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

 สำหรับการจัดทำแผนออกโฉนดที่ผ่านมาครอบคลุม ปี 2565-2570 มีสัดส่วนที่ดินที่ตั้งอยู่ในเขตที่ดินรัฐ ทั้งเขตป่า และส.ป.ก. มีสัดส่วน 50% เมื่อเทียบกับที่ดินที่ตั้งอยู่นอกเขตที่ดินรัฐ หรือได้สิทธิ์ออกโฉนดแยกเป็นโครงการ บอกดิน 1 ปีงบประมาณ 2564 เดินสำรวจออกโฉนด จำนวน 1,105 แปลง และปีงบประมาณ 2565-2570 จำนวน 5,520 แปลง

เช่นเดียวกับบอกดิน2 ปีงบประมาณ 2565-2570 ออกโฉนด 186,958 แปลง ส่วนที่ดินที่อยู่ในเขตที่ดินรัฐจะได้รับจัดสรรให้ทำประโยชน์ ครัวเรือนละ 15 ไร่ ครอบครองคราวละไม่เกิน 5 ปี ตามโครงการ คณะอนุกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) จัดหาที่ดินทำกินให้ราษฎรตามนโยบายรัฐบาล จากการตรวจสอบในขณะนั้น ข้อมูลโครงการบอกดิน 1 มี ที่ดินที่อยู่ในเขตที่ดินรัฐ 5,274 แปลง บอกดิน 2 ที่ดินในเขตรัฐ 201,576 แปลง ในจำนวนนี้อยูในเขตที่ดิน ส.ป.ก. 58,772 แปลง

ขณะแผนออกโฉนดที่ดิน ในปีงบประมาณ 2565 กรมที่ดิน มีแผนออกโฉนดที่ดิน ทั้งแบบตั้งศูนย์อำนวยการเดินสำรวจออกโฉนด และออกโดยสำนักงานที่ดินจังหวัด/สาขา/ส่วนแยก ทั่วประเทศ 70 จังหวัด รวมจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวม 42,000 -43,000 แปลง ขณะศักยภาพการออกโฉนดที่ดินต่อปีเฉลี่ย 1.2 แสนแปลง  

ที่ผ่านมากรมที่ดินออกโฉนดไปแล้วปัจจุบันมี 34 ล้านแปลง ยังเหลืออีกประมาณ 3 ล้านแปลง ที่ยังไม่มีโฉนด หรือคิดเป็น 15 ล้านไร่ ซึ่งกรมที่ดินจะเร่งรัดออกเอกสารสิทธิ์ อย่างรวดเร็วตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทยและรัฐบาล และในปีงบประมาณ 2566 และปี 2567 จะเร่งรัดดำเนินการต่อเนื่องเพื่อช่วยให้ประชาชนเข้าถึงโฉนดที่ดินได้มากขึ้น และหากพรรคไหนก้าวมาเป็นรัฐบาล แน่นอนว่า นโยบายที่ต้องทำเร่งด่วนคือการเร่งรัดออกโฉนดและการจัดหาที่ทำกินให้กับประชาชนต่อไป