"กนก"คาดยุบสภา 20 มีนา หย่อนบัตรไม่เกิน 14 พ.ค.

11 มี.ค. 2566 | 07:07 น.

"กนก" คาดยุบสภาเป็นไปได้ 20มีนา เลือกตั้งไม่เกิน14 พ.ค. หวังเป็นจุดเปลี่ยนประเทศ แก้ 3 ปัญหา "ยากจน-ความไม่รู้-แตกแยก"

นายกนก วงษ์ตระหง่าน เลขานุการคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์ พรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองในปัจจุบันว่า มีความเป็นไปได้ที่การ"ยุบสภา"น่าจะเกิดขึ้นในวันที่ 20มี.ค. และการเลือกตั้งอาจเป็นวันที่ 7 หรือ 14 พฤษภาคม 2566 มีคำถามว่า พรรคการเมืองแต่ละพรรค กำหนดหลักคิดที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างไร เพื่อให้การเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นโอกาสของประชาชน ประเทศชาติ ไม่ใช่แค่โอกาสในการแสวงหาอำนาจของนักการเมืองเท่านั้น

 สิ่งสำคัญที่จะทำให้การเลือกตั้ง เป็นจุดเปลี่ยนที่ดีขึ้น คือ นักการเมืองควรตกผลึกร่วมกัน ในการเปลี่ยนวิธีคิด เปลี่ยนวิธีทำ เพื่อนำชาติออกจากวังวนแห่งปัญหา เพราะถ้ายังคิด และทำแบบเดิม ก็อย่าหวังว่าจะออกจากปัญหาเดิมได้ โดยมีปัญหาใหญ่ 3 เรื่อง ที่ต้องพาประเทศก้าวข้ามให้ได้ คือ ปัญหาความยากจน ปัญหาความไม่รู้ และปัญหาความขัดแย้งแตกแยก ประเทศไทยต้องการ “วิธีคิดใหม่ วิธีการแก้ปัญหาใหม่” ต่อปัญหาทั้ง 3 นี้ หลังติดหล่มมายาวนาน

  "กนก"คาดยุบสภา 20 มีนา  หย่อนบัตรไม่เกิน 14 พ.ค.

นายกนก  กล่าวอีกว่า เรื่องของความยากจน และความไม่รู้ ทางแก้ปัญหาคือกลไกทางการเมืองจะต้องทำให้ประชาชนที่มีปัญหา ได้พบกับคนที่มีความรู้ความสามารถ และคนที่มีอำนาจสามารถจัดสรรทรัพยากร โดยเฉพาะงบประมาณเพื่อการแก้ปัญหาได้อย่างถูกต้อง

เมื่อคน 3 ฝ่ายพบกันและร่วมมือกัน ปัญหาจะแก้ไขได้ ส่วนความขัดแย้งแตกแยก แก้ได้โดยเริ่มจากนักการเมือง ไม่ปลุกปั่น หาเสียงอย่างสร้างสรรค์ ไม่โจมตี ป้ายสี ช่วยกันจรรโลงให้ภาพนักการเมือง กลับมาเป็นที่พึ่ง ที่หวังของประชาชน ยอมรับความเห็นต่าง ไม่กระพือความแตกแยก

 


 

นายกนก แสดงความหวังว่า การเลือกตั้งในเดือนพฤษภาคม 2566 นี้ จะเกิดบริบทใหม่ทางสังคม พาประเทศชาติออกจากวังวนเดิม ๆ เดินหน้าสู่การพัฒนาอย่างเต็มสูบ เพราะเราอยู่ในหลุมดำมานานเกินไปแล้ว และคนที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งเหล่านี้ได้

คือประชาชน อำนาจที่อยู่ในมือท่านกำหนดอนาคต ชีวิต ปากท้อง ของตัวเองได้ พรรคชาติไทยพัฒนา เราชูนโยบายแก้ปัญหาทั้งสามข้อ คือ ความยากจน ความไม่รู้ และความขัดแย้งแตกแยก ด้วยการเปลี่ยนวิธีคิด เปลี่ยนวิธีทำ ไม่ให้เราต้องจมปลักกับปัญหาเดิม ๆ

ปัญหาทั้ง 3 ข้อ จะแก้ได้แค่ไหน ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประชาชนว่าจะเลือกการแก้ปัญหาของตน หรือเลือกผลประโยชน์เฉพาะหน้าที่พรรคและผู้สมัครหยิบยื่นให้ สิทธิการเลือกอยู่ที่ตัวท่านแล้วครับ” นายกนก กล่าว