เดลล์กางโรดแมปปี 69 ชู Agentic AI พลิกโฉมองค์กร ย้ำ Governance ปราการมั่นคงยุคใหม่

20 ธ.ค. 2568 | 02:30 น.

“เดลล์ เทคโนโลยีส์” กางพิมพ์เขียวเทคโนโลยีปี 2026 มั่นใจโลกเข้าสู่ยุค Agents AI เต็มรูปแบบ เปลี่ยนบทบาทจากผู้ช่วยสู่ “ผู้จัดการกระบวนการธุรกิจ” พร้อมส่งสัญญาณเตือนองค์กรทั่วโลก หากขาดระเบียบวินัยการกำกับดูแล (Governance) และโครงสร้างพื้นฐาน Sovereign AI อาจตกขบวนนวัตกรรมปลอดภัย

KEY

POINTS

  • เดลล์คาดการณ์ว่าภายในปี 2569 "Agentic AI" จะพัฒนาจากผู้ช่วยสู่ผู้จัดการกระบวนการที่ซับซ้อน เพื่อพลิกโฉมการทำงานในองค์กร
  • เน้นย้ำความสำคัญของ "การกำกับดูแล" (Governance) ที่เข้มงวด เพื่อเป็นปราการสร้างความมั่นคงและปลอดภัยในการพัฒนานวัตกรรม AI
  • ชี้แนวโน้มการเติบโตของ Sovereign AI ซึ่ง AI กลายเป็นปัจจัยสำคัญต่อผลประโยชน์ของรัฐ โดยเน้นการสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่ปลอดภัยภายในประเทศ

นายจอห์น โรส ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีระดับโลก และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่าย AI เดลล์ เทคโนโลยีส์ เปิดเผยว่าการเร่งเครื่องของ AI ที่กำลังพลิกโฉมโครงสร้างขององค์กรและอุตสาหกรรมทั้งหมดอย่างมีนัยสำคัญ พร้อมผลักดันให้เกิดวิธีการดำเนินงาน การพัฒนา และการสร้างนวัตกรรมรูปแบบใหม่ที่ขยายวงกว้างยิ่งขึ้นด้วยระดับความเร็วอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

โดยอุตสาหกรรมกำลังเข้าสู่ยุคของเอเจนต์อัตโนมัติ ซึ่ง AI Agents กำลังพัฒนาจากผู้ช่วยไปสู่การเป็นผู้จัดการหลักในกระบวนการที่ซับซ้อนและดำเนินการต่อเนื่องเป็นเวลานาน เมื่อผู้คนเริ่มก้าวสู่เส้นทางการใช้งาน AI Agents ในปี 2569 คนเหล่านี้จะประหลาดใจกับสิ่งที่ AI Agents สามารถทำได้มากเกินความคาดหมาย ซึ่งการมี AI Agents จะช่วยสร้างคุณค่าให้มนุษย์ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และช่วยให้ทำงานที่ไม่ต้องอาศัย AI ได้ดีขึ้น”

เดลล์กางโรดแมปปี 69 ชู Agentic AI พลิกโฉมองค์กร ย้ำ Governance ปราการมั่นคงยุคใหม่

ในขณะที่อุตสาหกรรมยังคงพัฒนาและใช้งาน AI ระดับองค์กรอย่างต่อเนื่อง โดยความจำเป็นของธุรกิจในการทบทวนวิธีปฏิบัติและสร้าง AI Factories ที่มีความยืดหยุ่น “เดลล์ เป็นผู้นำในด้านนี้ โดยผสานรวมสองโลกเข้าด้วยกัน ทั้ง AI Factories ระบบกู้คืนทางไซเบอร์ ความยืดหยุ่น ระบบเก็บข้อมูลแยกส่วน และการปกป้องข้อมูล เพื่อช่วยให้องค์กรสามารถดำเนินงานได้อย่างมั่นคงต่อเนื่อง”

 การเร่งพัฒนา AI ด้วยระดับความเร็วสูง ย่อมทำให้เกิดความผันผวนอยู่บ้าง โดยคาดการณ์ว่าความต้องการกรอบการกำกับดูแลที่เข้มงวด รวมถึงสภาพแวดล้อม AI แบบปิดและควบคุมได้ จะกลายเป็นสิ่งสำคัญอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ พร้อมกับเรียกร้องให้ภาคอุตสาหกรรมสร้างแนวป้องกันด้าน AI ทั้งภายในและภายนอกองค์กร เพื่อช่วยให้องค์กรสามารถสร้างนวัตกรรมได้อย่างปลอดภัยและยั่งยืน

“ปีที่แล้ว เราคาดการณ์ว่า “Agents” จะเป็นคำสำคัญ สำหรับปีนี้คำว่า “การกำกับดูแล” จะมีบทบาทสำคัญขึ้น เทคโนโลยีและกรณีใช้งานต่างๆ จะไม่ประสบความสำเร็จ หากขาดซึ่งระเบียบวินัยและการกำกับดูแลที่ชัดเจนในการดำเนินกลยุทธ์ด้าน AI ไม่ว่าจะในระดับองค์กร ระดับภูมิภาค หรือระดับประเทศก็ตาม”

เดลล์กางโรดแมปปี 69 ชู Agentic AI พลิกโฉมองค์กร ย้ำ Governance ปราการมั่นคงยุคใหม่ โดยความซับซ้อนอันดับหนึ่งของการก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วคือ การวางโครงสร้างด้านการกำกับดูแล ซึ่งประกอบด้วยกฎเกณฑ์ที่ผู้คนสามารถเข้าใจและปฏิบัติตามได้ รวมถึงแนวทางในการจัดลำดับความสำคัญของประเด็นที่เป็นเรื่องสำคัญได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

ในระดับประเทศ ระบบนิเวศของ Sovereign AI ที่เติบโตอย่างรวดเร็วจะยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง เนื่องจาก AI กำลังกลายเป็นปัจจัยสำคัญต่อผลประโยชน์ของรัฐ เช่นเดียวกับหลายประเทศในภูมิภาค องค์กรต่างๆ กำลังสร้างกรอบการทำงานของตนเอง เพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมในระดับท้องถิ่นด้วยรากฐานอันแข็งแกร่งที่มีอยู่

ด้านนายปีเตอร์ มาร์ส ประธานภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ญี่ปุ่น และจีน เดลล์ เทคโนโลยีส์ กล่าวเสริมว่า การนำ AI Agents มาใช้งานเพิ่มขึ้น เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ โดยองค์กรอย่าง Zoho ในประเทศอินเดียได้ทำงานร่วมกับเดลล์เพื่อเร่งนำ AI Agents มาใช้งานได้รวดเร็ว ผ่านโซลูชัน AI ในระดับองค์กรที่เข้าใจบริบทการใช้งานในองค์กร โดยให้ความสำคัญเรื่องความเป็นส่วนตัวเป็นอันดับแรก อีกทั้งรองรับการทำงานได้หลายรูปแบบ ทั้งนี้ AI ได้กลายเป็นสิ่งที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้นสำหรับทุกองค์กรในภูมิภาค และสิ่งที่เดลล์ทำคือการสร้างรากฐานร่วมกับลูกค้าเพื่อให้สามารถนำ AI ไปใช้งานในระดับองค์กรได้สำเร็จ”

เดลล์กางโรดแมปปี 69 ชู Agentic AI พลิกโฉมองค์กร ย้ำ Governance ปราการมั่นคงยุคใหม่

Sovereign AI กำลังก่อให้เกิดกระแสใหม่ของเศรษฐกิจและระบบนิเวศด้าน AI ซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจ ในยุคเศรษฐกิจ AI ที่กำลังเติบโต โดยยกตัวอย่างความร่วมมือกับลูกค้าอย่าง Macquarie Data Centres ในประเทศออสเตรเลีย และ NAVER Cloud ในประเทศเกาหลีใต้ เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานภายในประเทศที่ปลอดภัย ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของนวัตกรรม AI ที่น่าเชื่อถือ

นายปีเตอร์ มาร์ส ย้ำถึงความสำคัญของระบบนิเวศด้านความร่วมมือในการพัฒนาบุคลากรที่มีทักษะและยกระดับขีดความสามารถด้านการแข่งขัน AI ในภูมิภาค โดยยกตัวอย่างโครงการ APJ AI Innovation Hub ซึ่งเป็นโครงการที่สร้างผลลัพธ์อย่างเป็นรูปธรรม ด้วยการผสานรวมศักยภาพของเดลล์ ทั้งความสามารถ บุคลากร และระบบนิเวศเข้าด้วยกัน

“การร่วมงานกับผู้เชี่ยวชาญ หน่วยงานภาครัฐ และพันธมิตรในอุตสาหกรรม ช่วยให้เราสร้างความก้าวหน้าในการส่งเสริมการพัฒนาทักษะและยกระดับองค์ความรู้ร่วมกันได้อย่างมาก เรากำลังร่วมกันเร่งผลักดันบทบาทความเป็นผู้นำของเอเชียในฐานะที่เป็นภูมิภาคด้าน AI ด้วยการระบุแนวทางสำคัญเพื่อส่งเสริมการเติบโตของภูมิภาค”