KEY
POINTS
นางสาวโรส เหยา (Rose Yao) รองประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์ Search ของ Google เปิดเผยว่า หัวใจสำคัญของการสื่อสารคือการเข้าใจทั้งคำพูดและความละเอียดอ่อนของบริบท วันนี้ Google Translate ได้รับการพัฒนาไปอีกขั้น ด้วยการนำความสามารถในการแปลภาษาขั้นสูงสุดของ Gemini มาใช้ในการแปลข้อความใน Google Search และแอป Translate
การอัปเกรดนี้จะทำให้ผู้ใช้ได้รับการแปลข้อความที่ "ฉลาดขึ้น เป็นธรรมชาติ และแม่นยำยิ่งขึ้น" โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการแปลวลีที่มีความหมายเชิงสำนวน (Idioms) คำท้องถิ่น หรือคำแสลง ตัวอย่างเช่น หากแปลสำนวนภาษาอังกฤษว่า "stealing my thunder" ระบบ Gemini จะสามารถวิเคราะห์บริบทเพื่อให้ได้ความหมายที่สื่อสารได้จริง แทนที่จะแปลตามตัวอักษรแบบเดิม ซึ่งฟีเจอร์นี้เริ่มทยอยเปิดตัวแล้วในสหรัฐอเมริกาและอินเดีย ครอบคลุมการแปลภาษาระหว่างภาษาอังกฤษและภาษาสำคัญ ๆ เกือบ 20 ภาษา
นอกจากนี้ Google ยังได้เปิดตัวเวอร์ชันเบต้าของฟีเจอร์ "Live Translate" ซึ่งใช้ความสามารถในการแปลคำพูดเป็นคำพูดแบบเนทีฟของ Gemini โดยตรง ฟีเจอร์นี้จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถ ฟังการแปลภาษาแบบเรียลไทม์ผ่านหูฟัง ในขณะที่คู่สนทนาพูดคุยกัน
“ประสบการณ์ใหม่นี้ทำงานเพื่อรักษาโทนเสียง การเน้น และจังหวะของผู้พูดแต่ละคน เพื่อสร้างการแปลภาษาที่เป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น และทำให้ง่ายต่อการติดตามว่าใครพูดอะไร”
ฟีเจอร์ Live Translate เวอร์ชันเบต้าเปิดตัวแล้วบนแอป Translate สำหรับ Android ในสหรัฐอเมริกา, เม็กซิโก และอินเดีย โดยรองรับกว่า 70 ภาษา และสามารถใช้ได้กับหูฟังทุกยี่ห้อ ทั้งนี้ Google มีแผนที่จะนำฟีเจอร์นี้ไปสู่ระบบปฏิบัติการ iOS และขยายไปยังประเทศอื่น ๆ ภายในปี 2569
ยิ่งไปกว่านั้น Google ยังขยายเครื่องมือการเรียนรู้ภาษาในแอป Translate ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยการปรับปรุงระบบคำติชม (Feedback) เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับเคล็ดลับที่เป็นประโยชน์จากการฝึกพูด รวมถึงการเพิ่มฟีเจอร์ติดตาม "จำนวนวันที่เรียนติดต่อกัน" เพื่อสร้างแรงจูงใจและวัดความสม่ำเสมอในการเรียนรู้ โดยมีการขยายความสามารถนี้ไปยังเกือบ 20 ประเทศใหม่ เช่น เยอรมนี, อินเดีย, สวีเดน และไต้หวัน
การผสานรวมโมเดล AI ขั้นสูงอย่าง Gemini เข้ากับ Google Translate ครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Google ในการทำลายกำแพงทางภาษา และช่วยให้ผู้คนสามารถจับความหมายที่แท้จริงเบื้องหลังคำพูดได้