ไมโครซอฟท์ ชู 3 องค์กรต้นแบบ SCBX-SCGC-กฤษฎีกา ใช้ AI เปลี่ยนวิธีทำงาน

24 มิ.ย. 2568 | 09:21 น.
อัปเดตล่าสุด :24 มิ.ย. 2568 | 09:46 น.

ไมโครซอฟท์ ยก SCBX, SCGC และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เป็นต้นแบบองค์กร Frontier Firm ที่ใช้ AI ผสานการทำงานของมนุษย์ พลิกโฉมระบบงานสู่ยุคใหม่

ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย เปิดเผยรายงาน Work Trend Index ประจำปี 2025 พร้อมประกาศรายชื่อ 3 องค์กรชั้นนำของไทย ได้แก่ กลุ่มเอสซีบีเอกซ์ (SCBX), บริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด (มหาชน) (SCGC) และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (OCS) ในฐานะ “Frontier Firms” หรือองค์กรแนวหน้า ที่สามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยี AI ผสานกับศักยภาพของบุคลากรได้อย่างลงตัว

ไมโครซอฟท์ ชู 3 องค์กรต้นแบบ SCBX-SCGC-กฤษฎีกา ใช้ AI เปลี่ยนวิธีทำงาน นายธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าผู้บริหารในหลายองค์กรต่างต้องการขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโต แต่ในทางปฏิบัติกลับเผชิญข้อจำกัดด้านแรงและเวลา ด้วยเหตุนี้ AI โดยเฉพาะ Agentic AI ที่ทำงานได้แบบอัตโนมัติจึงเป็นทรัพยากรสำคัญที่ช่วยแบ่งเบาภาระงานซ้ำซากและเพิ่มโอกาสให้คนทำงานได้ขยับไปสู่บทบาทเชิงกลยุทธ์มากขึ้น”

รายงาน Work Trend Index ชี้ว่าพนักงานไทย 88% ไม่มีแรงหรือเวลาเพียงพอสำหรับงานในแต่ละวัน ขณะที่พนักงานทั่วโลกจะได้รับการแจ้งเตือนจากอีเมล แชต หรือปฏิทิน เฉลี่ยถึง 275 ครั้งต่อวัน “องค์กรจึงต้องเปลี่ยนแปลง โดยไม่ใช่แค่ใช้ AI เป็นเครื่องมือ แต่ต้องให้ AI เป็นส่วนหนึ่งของทีมงานอย่างแท้จริง”

ทั้งนี้ ทีมวิจัยของไมโครซอฟท์ได้แนะแนวทางสำหรับองค์กรที่ต้องการปรับทิศทางเพื่อมุ่งสู่สถานะ Frontier Firm ไว้ดังนี้

1.ใช้กฎ 80/20 แบ่งงานให้ AI: จากกฎที่ว่า 80% ของผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น มาจากตัวแปรหรือเนื้องานเพียง 20% องค์กรในกลุ่ม Frontier Firm จึงอาจยกเนื้องานอีก 80% ที่สร้างผลลัพธ์ได้เพียง 20% นี้ไปให้ AI และระบบอัตโนมัติต่างๆ รับมือแทน

2,ปรับมุมมองสู่ผังเนื้องาน: เมื่อ AI สามารถทำงานได้โดยไม่จำกัดความรู้ความสามารถอยู่ในแผนกหรือด้านใดด้านหนึ่ง เส้นทางการติดต่อประสานงานต่างๆ จึงอาจเปลี่ยนไปในรูปแบบที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดรอยต่อระหว่างแผนกลง เสริมความคล่องตัวให้องค์กรอีกระดับ

3.บริหาร AI ให้เหมือนบริหารพนักงาน:AI ที่สามารถทำงานได้โดยอัตโนมัติ สามารถเรียนรู้ ยกระดับความสามารถ เสนอความคิดเห็น และเข้ารับการประเมินผลงานได้เช่นเดียวกับพนักงานที่เป็นมนุษย์ โดยอาจเริ่มจากการปรับคำสั่งพื้นฐาน เพิ่มชุดข้อมูลที่ AI สามารถเข้าถึงได้ หรือแม้แต่การแลกเปลี่ยนความเห็นกับ AI โดยตรง ซึ่งจะเป็นรูปแบบการทำงานในอนาคตที่มนุษย์และ AI Agent ทำงานร่วมกันเป็นทีม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

“AI จะไม่มาแทนคนทำงาน แต่จะเป็นคู่คิดที่ช่วยให้มนุษย์ทำงานได้ดีขึ้นในโลกที่เปลี่ยนเร็วกว่าเดิม”

ด้าน นางสาวลลินทิพย์ เยี่ยมพลพัฒน์ หัวหน้าฝ่ายวางแผนการเงินและวิเคราะห์ข้อมูล บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า“SCBX มุ่งสู่การเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วย AI โดยส่งเสริมให้พนักงานทุกสายงานได้เรียนรู้และใช้งาน AI ด้วยตนเอง

ไมโครซอฟท์ ชู 3 องค์กรต้นแบบ SCBX-SCGC-กฤษฎีกา ใช้ AI เปลี่ยนวิธีทำงาน

โดยไม่จำเป็นต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี เราออกแบบและพัฒนาเครื่องมือ AI ภายในองค์กรเอง เช่น ระบบวิเคราะห์วิธีการสื่อสารของพนักงานในธุรกิจสินเชื่อทะเบียนรถ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริการและความถูกต้องของข้อมูล”

นายสัญญา จินดาประเสริฐ ผู้อำนวยการสายงานดิจิทัลองค์กร บริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงแนวทางของ SCGC ว่า“เรานำแนวคิด ‘AI Everyday’ มาปรับใช้ทั่วทั้งองค์กร

ไมโครซอฟท์ ชู 3 องค์กรต้นแบบ SCBX-SCGC-กฤษฎีกา ใช้ AI เปลี่ยนวิธีทำงาน โดยใช้เทคโนโลยี Microsoft Azure OpenAI Service, Power Platform และ AI Hub เพื่อพัฒนาโครงการ ‘AILY’ ที่ช่วยให้พนักงานสามารถใช้งาน AI กับข้อมูลภายในได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ลดงานซ้ำซ้อน เพิ่มความคล่องตัว และช่วยให้การตัดสินใจทางธุรกิจแม่นยำขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ไมโครซอฟท์ ชู 3 องค์กรต้นแบบ SCBX-SCGC-กฤษฎีกา ใช้ AI เปลี่ยนวิธีทำงาน

ขณะที่ ดร.ณรัณ โพธิ์พัฒนชัย ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ผลกระทบและประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย กองพัฒนากฎหมาย สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา กล่าวว่า“เราได้นำ AI มาใช้ในโครงการ ‘TH2OECD’ เพื่อเตรียมความพร้อมของประเทศไทยในการเข้าร่วมเป็นสมาชิก OECD โดย AI ช่วยจัดการข้อมูลกฎหมายขนาดใหญ่ เปรียบเทียบระหว่างภาษาไทยกับภาษาอังกฤษ วิเคราะห์ความสอดคล้องกับมาตรฐานของ OECD และช่วยให้นักกฎหมายของเราค้นหาข้อมูล วางแนวทาง และสรุปสาระสำคัญได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น”