SME ไทยกว่าครึ่งหวั่นต้นทุนขนส่งพุ่ง เร่งหาพาร์ทเนอร์ส่งสินค้าราคาโปร่งใส

25 พ.ย. 2568 | 11:07 น.
อัปเดตล่าสุด :25 พ.ย. 2568 | 11:20 น.

ลาลามูฟ เผย SME มากกว่า 90% ที่ใช้บริการ ยันเป็นแพลตฟอร์มช่วยสนับสนุนการเติบโต SME ช่วยลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ และขยายรูปแบบการให้บริการใหม่ เช่น จัดส่งสินค้าภายในวัน

KEY

POINTS

  • ผลสำรวจจากลาลามูฟเผยว่า ผู้ประกอบการ SME ไทยกว่า 53% กังวลต่อสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนในปี 2569 และมองว่าต้นทุนด้านโลจิสติกส์เป็นความท้าทายหลัก
  • ผู้ประกอบการ SME ราว 40.4% ระบุว่าปัญหาค่าใช้จ่ายด้านการขนส่งและโลจิสติกส์เป็นปัญหาเร่งด่วนที่สุดที่ต้องได้รับการแก้ไขในอีก 12 เดือนข้างหน้า
  • SME กำลังมองหาพาร์ทเนอร์ด้านการขนส่งโดยให้ความสำคัญสูงสุดกับโครงสร้างราคาที่โปร่งใส ไม่มีค่าบริการแอบแฝง รองลงมาคือราคาที่คุ้มค่าและเข้าถึงได้

ลาลามูฟ แพลตฟอร์มให้บริการขนส่งด่วนและบริการรับส่งผู้โดยสารแบบออนดีมานด์ เปิดเผยผลสำรวจล่าสุด ซึ่งจัดทำขึ้นระหว่างเดือนกันยายนถึงตุลาคม ในกลุ่มผู้ประกอบการ SME ไทยกว่า 700 ราย โดยผลสำรวจชี้ให้เห็นว่า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังมีความกังวลต่อสภาพเศรษฐกิจในปี 2569 โดยกว่า 53% ระบุว่า สภาวะเศรษฐกิจในปี 2569 ยังไม่แน่นอน ส่งผลให้ผู้ประกอบการต้องให้ความสำคัญกับการบริหารต้นทุนอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายด้านโลจิสติกส์ซึ่งยังคงเป็นหนึ่งในความท้าทายหลักของปีหน้า

ลาลามูฟยังคงมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ผู้ประกอบการ SME ไทยปรับตัวและเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยผลสำรวจระบุว่า 92.8% ของผู้ประกอบการ มองว่าลาลามูฟช่วยส่งเสริมการเติบโตของธุรกิจ  ไม่ว่าจะเป็นการช่วยลดภาระต้นทุนด้านโลจิสติกส์ การเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการงานจัดส่ง  รวมถึงการขยายบริการให้ครอบคลุมยิ่งกว่าเดิม

SME ไทยกว่าครึ่งหวั่นต้นทุนขนส่งพุ่ง เร่งหาพาร์ทเนอร์ส่งสินค้าราคาโปร่งใส นอกจากนี้ กว่าครึ่งของผู้ประกอบการยังใช้แพลตฟอร์มลาลามูฟในการเปิดให้บริการใหม่ ๆ เช่น บริการจัดส่งภายในวันเดียวหรือภายใน 3 ชั่วโมง 

ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าโซลูชันที่มีความยืดหยุ่นของลาลามูฟช่วยให้ SME สามารถรักษาความได้เปรียบทางการแข่งขันในตลาด ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในยุคปัจจุบันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เทรนด์ SME ไทย: อีคอมเมิร์ซยังโตแรง 

ในประเทศไทย ผู้ประกอบการ SME ที่ใช้บริการลาลามูฟส่วนใหญ่ประกอบธุรกิจในกลุ่มค้าปลีกออนไลน์ (26.9%) รองลงมาคืออุตสาหกรรมการผลิต (14.4%) และธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม (11%) สะท้อนให้เห็นว่าบริการขนส่งแบบออนดีมานด์ได้กลายเป็นส่วนสำคัญในการดำเนินธุรกิจของหลากหลายอุตสาหกรรม ช่วยสนับสนุนการเติบโตและเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในเศรษฐกิจดิจิทัล

SME ไทยกว่าครึ่งหวั่นต้นทุนขนส่งพุ่ง เร่งหาพาร์ทเนอร์ส่งสินค้าราคาโปร่งใส อย่างไรก็ตาม แม้ความต้องการใช้บริการขนส่งจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่ “ต้นทุนด้านโลจิสติกส์” ก็ยังเป็นความท้าทายสำคัญที่ SME ไทยต้องรับมือในช่วง 12 เดือนข้างหน้า โดย 40.4% ของผู้ประกอบการมองว่าปัญหาเร่งด่วนที่ควรได้รับการแก้ไขเป็นลำดับแรกคือปัญหาค่าใช้จ่ายด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ ขณะเดียวกัน 78.1% ของ SME เห็นตรงกันว่าบริการขนส่งที่ราคาคุ้มค่าและเข้าถึงได้คือปัจจัยหลักที่ช่วยผลักดันความสำเร็จของธุรกิจ

นอกจากนี้ ผู้ประกอบการยังให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับ “โครงสร้างราคาที่โปร่งใส ไม่มีค่าบริการแอบแฝง” รองลงมาคือ “ราคาที่คุ้มค่า เข้าถึงได้” และ “มาตรฐานความปลอดภัยในการขนส่ง” เมื่อมองหาพาร์ทเนอร์ด้านการขนส่ง

ซึ่งทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นว่า การมีพาร์ทเนอร์ที่สามารถช่วยบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่เพียงช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย แต่ยังเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจรักษาความสามารถในการแข่งขัน ท่ามกลางสภาพตลาดที่ผันผวนและเปลี่ยนแปลงรวดเร็วในปัจจุบัน

นายเบน ลิน กรรมการผู้จัดการ ลาลามูฟ ประเทศไทย กล่าวว่า “ลาลามูฟเข้าใจถึงความท้าทายที่ผู้ประกอบการ SME ต้องเผชิญ และเรายังคงมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถประหยัดเวลา บริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และขยายการเติบโตได้อย่างคล่องตัว ผ่านโซลูชันด้านการขนส่งที่เชื่อถือได้และเหมาะกับทุกความต้องการ ด้วยประเภทรถที่ครอบคลุมตั้งแต่รถจักรยานยนต์ไปจนถึงรถกระบะ

SME ไทยกว่าครึ่งหวั่นต้นทุนขนส่งพุ่ง เร่งหาพาร์ทเนอร์ส่งสินค้าราคาโปร่งใส พร้อมระบบติดตามสถานะแบบเรียลไทม์และพาร์ทเนอร์คนขับมืออาชีพ เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถจัดส่งสินค้าได้อย่างมั่นใจและมีประสิทธิภาพในทุกขั้นตอน และเราจะเดินหน้าพัฒนาบริการอย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นพาร์ทเนอร์ที่อยู่เคียงข้าง SME ในทุกช่วงการเติบโต