Digital GDP ปี 69 แตะ 5.6 ล้านล้าน โต 4.2% แกร่งกว่า GDP รวม 2.1 เท่า

สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (BDE) เปิดเผยตัวเลขประมาณการเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศสำหรับปี 2569 (ราคาที่แท้จริง หรือ CVM) โดยคาดว่ามูลค่าเศรษฐกิจดิจิทัลแบบกว้าง (Broad Digital GDP) จะขยายตัวที่อัตรา 4.2% คิดเป็นมูลค่าสูงถึง 5.6 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นอัตราที่ชะลอลงจากปี 2568 ที่คาดการณ์ไว้ที่ 5.0% การชะลอตัวนี้เป็นผลจากแรงกดดันของเศรษฐกิจโลกและวัฏจักรการค้า

แต่สิ่งที่น่าจับตาคือ Digital GDP ปี 2569 ยังคงเติบโตในอัตราที่สูงกว่าการขยายตัวของ GDP โดยรวมของประเทศถึง 2.1 เท่า ซึ่งสะท้อนถึงบทบาทสำคัญของเทคโนโลยีดิจิทัลในการเป็นเสาหลักพยุงเศรษฐกิจไทย

นายเวทางค์ พ่วงทรัพย์ เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (BDE) ได้กล่าวว่า การที่เศรษฐกิจดิจิทัลชะลอตัวลงในปี 2569 นั้นเป็นไปตามทิศทางเศรษฐกิจและการค้าโลกที่คาดว่าจะลดความร้อนแรงลง โดยองค์การการค้าโลก (WTO) คาดการณ์ว่าการค้าโลกจะขยายตัวเพียง 0.5% (ลดลงจาก 2.4% ในปี 2568) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดว่าเศรษฐกิจโลกจะขยายตัว 3.1%

สาเหตุหลักมาจากความเสี่ยงเชิงภูมิรัฐศาสตร์ ความเสี่ยงจากสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน และผลกระทบจากการขึ้นภาษีศุลกากรที่จะสะท้อนเต็มปีเป็นครั้งแรก ซึ่งทั้งหมดนี้ส่งผลให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ประมาณการการขยายตัวของ GDP ไทยโดยรวมไว้ที่ 2.0%

อย่างไรก็ตาม BDE ยังคงยืนยันว่าเศรษฐกิจดิจิทัลยังคงมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้ขยายตัว ทั้งด้านการผลิต การส่งออก และการลงทุน โดยมีปัจจัยบวกสำคัญจากวัฏจักรขาขึ้นของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์โลก และความต้องการเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น คอมพิวเตอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI (AI-capable PCs) และอุปกรณ์อัจฉริยะต่าง ๆ ซึ่งส่งผลให้เศรษฐกิจดิจิทัลในปี 2569 คาดว่าจะขยายตัว 4.2% และคิดเป็นการเติบโตถึง 2.1 เท่า ของ GDP โดยรวม

สำหรับภาคการลงทุนด้านดิจิทัลโดยรวมในปี 2569 คาดว่าจะขยายตัว 3.0% โดยมีแรงผลักดันหลักมาจาก การลงทุนภาคเอกชน ที่คาดว่าจะขยายตัวสูงถึง 6.2% ซึ่งเป็นผลจากนโยบายของรัฐบาลในการดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศใน Cloud Services และ Data Center ซึ่งถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI ที่สำคัญของประเทศ รวมถึงการลงทุนในอุตสาหกรรมการผลิตด้านเทคโนโลยี ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และสินค้าดิจิทัลอื่น ๆ ในทางกลับกัน การลงทุนด้านดิจิทัลภาครัฐมีแนวโน้มชะลอตัวลง โดยคาดว่าจะหดตัวที่ 1.6%

ด้านการค้าต่างประเทศ มูลค่าการส่งออกสินค้าและบริการอุตสาหกรรมดิจิทัลในปี 2569 คาดว่าจะขยายตัว 4.5% ซึ่งชะลอลงตามภาวะเศรษฐกิจการค้าโลก แต่เป็นสัญญาณบวกที่มูลค่าการนำเข้าสินค้าและบริการดิจิทัลในปีเดียวกันนั้น คาดว่าจะกลับมาขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็น 1.6% หลังจากที่หดตัวในปี 2568 ส่วนด้านการบริโภค การบริโภคภาคเอกชนในอุตสาหกรรมดิจิทัลคาดว่าจะขยายตัว 1.1% ชะลอลงจากปีก่อนหน้า

เมื่อพิจารณาในรายละเอียดของแต่ละอุตสาหกรรมย่อยในเศรษฐกิจดิจิทัล พบว่า อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ ยังคงเป็นภาคส่วนที่มีอัตราการขยายตัวสูงสุด โดยคาดว่าจะเติบโตถึง 7.8% แม้จะชะลอลงจาก 9.3% ในปี 2568 แต่ก็ยังคงเติบโตในอัตราสูงต่อเนื่อง ซึ่งสะท้อนถึงความต้องการโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ชุดคำสั่ง และระบบควบคุมสั่งการที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการประยุกต์ใช้ในภาคธุรกิจและภาครัฐ รองลงมาคือ อุตสาหกรรมอุปกรณ์อัจฉริยะ (Smart Devices) ที่คาดว่าจะขยายตัว 5.5% และ อุตสาหกรรมฮาร์ดแวร์ ที่คาดว่าจะขยายตัว 4.5% ซึ่งเป็นผลพวงจากวัฏจักรอิเล็กทรอนิกส์โลกที่กำลังเข้าสู่ช่วงขาขึ้น

ในส่วนของภาคบริการ อุตสาหกรรมโทรคมนาคม คาดว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็น 3.9% จาก 3.6% ในปี 2568 รวมถึง อุตสาหกรรมบริการดิจิทัล ที่มีการให้คำปรึกษา บริการออกแบบ และบริการออนไลน์ต่าง ๆ คาดว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็น 3.3% จาก 3.1% ในปี 2568 แสดงให้เห็นถึงการยกระดับบริการที่ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นพื้นฐานในการสร้างมูลค่า ขณะที่ อุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ คาดว่าจะขยายตัว 6.9% เท่ากับปีก่อนหน้า

นายเวทางค์ ได้สรุปทิ้งท้ายว่า กระทรวงดิจิทัลฯ และ BDE จะเร่งผลักดันนโยบายสำคัญเพื่อลดปัญหาอุปสรรคการลงทุน สร้างความเชื่อมั่น และส่งเสริมการใช้ดิจิทัลเทคโนโลยีและ AI อย่างจริงจัง โดยมีเป้าหมายในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลให้มีสัดส่วนไม่น้อยกว่า 30% ของ GDP ภายในปี 2570 และยกระดับขีดความสามารถการแข่งขันด้านดิจิทัลของประเทศให้ติดอันดับ Top 30 ของโลก เพื่อให้เศรษฐกิจดิจิทัลเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เศรษฐกิจไทยก้าวข้ามผ่านความท้าทายจากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน