‘ไชยชนก ชิดชอบ’ เตรียมออก พ.ร.ก.ปราบสแกมเมอร์ คุมซิมบ็อกซ์

06 พ.ย. 2568 | 08:16 น.
อัปเดตล่าสุด :06 พ.ย. 2568 | 08:27 น.

‘ไชยชนก ’เตรียมออก พ.ร.ก.ปราบสแกมเมอร์ จำกัดซิมการ์ด-เพิ่มขั้นตอนเปิดบัญชีธนาคาร เล็งคุยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หาวิธีป้องกันใช้ซิมบ็อกซ์

วันนี้ 6 พฤศจิกายน 2568  นายไชยชนก ชิดชอบ​ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอี เปิดเผยก่อนลงนามความร่วมมือ 15 หน่วยงานเพื่อประกาศสงครามกับสแกมเมอร์​ ว่า​ สิ่งแรกที่ได้ทำคือ การยกระดับวอร์รูม​ที่ทำงานร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และได้รับความร่วมมือกับภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง​ รวมถึงตัวแทนของธนาคารทั้ง 7 ธนาคาร​ โดยการประสานข้อมูลการกระทำต่างๆ ก่อนที่จะเกิดอาชญากรรมทางไซเบอร์​ โดยเรื่องไหนที่ปรากฏเป็นผลงานเป็นรูปธรรม​ จะให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นผู้แถลงชี้แจง​

ส่วนที่ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญคือ การยุติการเปิดบัญชีใหม่​ หรือเพิ่มขั้นตอนในการเปิดบัญชี​ให้ละเอียดมากขึ้น​ และที่มีการเพิ่มมาตรการไปแล้ว​ คือ​ การจำกัดจำนวนซิม​การ์ด​ ให้เหลือเพียง 5 ซิมต่อบุคคล หากมีความจำเป็นต้องเพิ่มเติม ต้องขอเป็นการเฉพาะราย​ โดยบุคคลที่จะขอเพิ่มจำนวนซิมมากกว่า 5​ ซิม​ ต้องส่งชื่อให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ​ ตรวจสอบก่อน​ และยังได้เพิ่มกฎระเบียบในการลงทะเบียนซิมด้วย​ เพื่อให้เท่าทันต่อเทคโนโลยีของฝ่ายสแกมเมอร์​

อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีได้สั่งการเรื่องของสัญญาณระหว่างประเทศ​ ที่ได้รับการยืนยัน และรับรองจาก​ กสทช. ซึ่งไม่ได้นิ่งนอนใจในการตรวจสอบ​ เมื่อมีการเปิดปิดของสัญญาณเกิดขึ้น​ ก็จะตรวจสอบว่าสัญญาเล็ดลอดได้อย่างไร​ และจะขออัพเดทข้อมูลใน 3 วันข้างหน้า​

ส่วนจุดเริ่มต้น​ของกระบวนการสแกมเมอร์ คือ​ ซิมบ็อกซ์ เป็นเครื่องมือรวบรวมสัญญาณให้สามารถใช้ในพื้นที่เดียว​กันได้ ที่ผ่านมามีกฎหมายขึ้นมากำกับดูแลเรื่องซิมบ็อกซ์ แต่ก็ยังคงมีการตรวจพบการกระทำที่ฝ่าฝืน​ ตอนนี้จึงอยู่ระหว่างการเชิญตัวแทนเข้ามาหารือร่วมกันเพื่อหาวิธีการป้องกัน​ ซึ่ง​ กสทช.ได้ออกระเบียบว่า แม้จะเป็นชิ้นส่วนที่แยกกันมาประกอบซิมบ็อกซ์​ ก็ต้องมีการลงทะเบียนชี้แจงที่มาและการนำเข้า เพื่อนำข้อมูลส่งให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ​ ทำประวัติไว้​ เพื่อนำไปอ้างอิงหาจุดเริ่มต้นของกระบวนการสแกมเมอร์​ จากนั้นก็จะนำมาประกอบข้อมูลจาก operator ซิมการ์ด และธนาคาร

ไชยชนก ชิดชอบ

นายไชยชนก​ กล่าวถึงการดำเนินปราบบัญชีม้า​ ว่า​ หลังจากตรวจสอบแล้วว่าเป็นบัญชีม้าแถว 1 และแถว 2​ ผู้ที่มีรายชื่อจะสามารถเปิดบัญชีธนาคาร​ ได้อีกแค่ 1 บัญชี​ เพื่อใช้ในการครองชีพ​ และไม่สามารถเปิดบัญชีได้อีกจนกว่าคดีจะจบ​ ซึ่งกรอบอยู่ในระยะเวลา 3 ปี​ และหากพบการกระทำผิดซ้ำในช่วงเวลา 3 ปี นายกรัฐมนตรี​ ได้มอบนโยบาย​ ว่าบุคคลนั้นจะไม่สามารถเปิดบัญชีได้ตลอดชีวิต​ โดยนโยบายนี้​ อยู่ระหว่างการศึกษาและพูดคุยกัน

ส่วนกระบวนการออกกฏหมายมอบหมายให้ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ เอ็ตด้า ไปดูเรื่องกระบวนการร่างกฎหมาย อันดับแรกจะต้องมีการยืนยันตัวตน หากจะมีการทำธุรกรรมซื้อขายออนไลน์​ หรือหากโดนรีพอร์ต​ก็จะต้องมีการยืนยันตัวตน​อีกครั้ง​ อีกส่วนหนึ่ง​ ที่จะมีการดำเนินการ​ จะมีการยกระดับ​ พ.ร.ก.​ ให้สามารถมีเครื่องมือ และอุปกรณ์ตอบโต้กับกระบวนการอาชญากรรมทางเทคโนโลยีได้มากขึ้น​ ซึ่งตอนนี้​การจัดทำ​ พรก.ใกล้จะเสร็จสิ้นแล้ว.