วันนี้ 6 พฤศจิกายน 2568 นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอี เปิดเผยก่อนลงนามความร่วมมือ 15 หน่วยงานเพื่อประกาศสงครามกับสแกมเมอร์ ว่า สิ่งแรกที่ได้ทำคือ การยกระดับวอร์รูมที่ทำงานร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และได้รับความร่วมมือกับภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง รวมถึงตัวแทนของธนาคารทั้ง 7 ธนาคาร โดยการประสานข้อมูลการกระทำต่างๆ ก่อนที่จะเกิดอาชญากรรมทางไซเบอร์ โดยเรื่องไหนที่ปรากฏเป็นผลงานเป็นรูปธรรม จะให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นผู้แถลงชี้แจง
ส่วนที่ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญคือ การยุติการเปิดบัญชีใหม่ หรือเพิ่มขั้นตอนในการเปิดบัญชีให้ละเอียดมากขึ้น และที่มีการเพิ่มมาตรการไปแล้ว คือ การจำกัดจำนวนซิมการ์ด ให้เหลือเพียง 5 ซิมต่อบุคคล หากมีความจำเป็นต้องเพิ่มเติม ต้องขอเป็นการเฉพาะราย โดยบุคคลที่จะขอเพิ่มจำนวนซิมมากกว่า 5 ซิม ต้องส่งชื่อให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตรวจสอบก่อน และยังได้เพิ่มกฎระเบียบในการลงทะเบียนซิมด้วย เพื่อให้เท่าทันต่อเทคโนโลยีของฝ่ายสแกมเมอร์
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีได้สั่งการเรื่องของสัญญาณระหว่างประเทศ ที่ได้รับการยืนยัน และรับรองจาก กสทช. ซึ่งไม่ได้นิ่งนอนใจในการตรวจสอบ เมื่อมีการเปิดปิดของสัญญาณเกิดขึ้น ก็จะตรวจสอบว่าสัญญาเล็ดลอดได้อย่างไร และจะขออัพเดทข้อมูลใน 3 วันข้างหน้า
ส่วนจุดเริ่มต้นของกระบวนการสแกมเมอร์ คือ ซิมบ็อกซ์ เป็นเครื่องมือรวบรวมสัญญาณให้สามารถใช้ในพื้นที่เดียวกันได้ ที่ผ่านมามีกฎหมายขึ้นมากำกับดูแลเรื่องซิมบ็อกซ์ แต่ก็ยังคงมีการตรวจพบการกระทำที่ฝ่าฝืน ตอนนี้จึงอยู่ระหว่างการเชิญตัวแทนเข้ามาหารือร่วมกันเพื่อหาวิธีการป้องกัน ซึ่ง กสทช.ได้ออกระเบียบว่า แม้จะเป็นชิ้นส่วนที่แยกกันมาประกอบซิมบ็อกซ์ ก็ต้องมีการลงทะเบียนชี้แจงที่มาและการนำเข้า เพื่อนำข้อมูลส่งให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำประวัติไว้ เพื่อนำไปอ้างอิงหาจุดเริ่มต้นของกระบวนการสแกมเมอร์ จากนั้นก็จะนำมาประกอบข้อมูลจาก operator ซิมการ์ด และธนาคาร
นายไชยชนก กล่าวถึงการดำเนินปราบบัญชีม้า ว่า หลังจากตรวจสอบแล้วว่าเป็นบัญชีม้าแถว 1 และแถว 2 ผู้ที่มีรายชื่อจะสามารถเปิดบัญชีธนาคาร ได้อีกแค่ 1 บัญชี เพื่อใช้ในการครองชีพ และไม่สามารถเปิดบัญชีได้อีกจนกว่าคดีจะจบ ซึ่งกรอบอยู่ในระยะเวลา 3 ปี และหากพบการกระทำผิดซ้ำในช่วงเวลา 3 ปี นายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบาย ว่าบุคคลนั้นจะไม่สามารถเปิดบัญชีได้ตลอดชีวิต โดยนโยบายนี้ อยู่ระหว่างการศึกษาและพูดคุยกัน
ส่วนกระบวนการออกกฏหมายมอบหมายให้ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ เอ็ตด้า ไปดูเรื่องกระบวนการร่างกฎหมาย อันดับแรกจะต้องมีการยืนยันตัวตน หากจะมีการทำธุรกรรมซื้อขายออนไลน์ หรือหากโดนรีพอร์ตก็จะต้องมีการยืนยันตัวตนอีกครั้ง อีกส่วนหนึ่ง ที่จะมีการดำเนินการ จะมีการยกระดับ พ.ร.ก. ให้สามารถมีเครื่องมือ และอุปกรณ์ตอบโต้กับกระบวนการอาชญากรรมทางเทคโนโลยีได้มากขึ้น ซึ่งตอนนี้การจัดทำ พรก.ใกล้จะเสร็จสิ้นแล้ว.