หัวเว่ยผุด SuperPoDs - SuperClusters ตอบโจทย์เทคโนโลยี AI

22 ก.ย. 2568 | 22:09 น.

หัวเว่ยผุด SuperPoDs - SuperClusters นวัตกรรมประมวยผล ตอบความต้องการที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง รับความก้าวหน้าเทคโนโลยี AI

KEY

POINTS

  • หัวเว่ยเปิดตัว SuperPoDs และ SuperClusters ซึ่งเป็นระบบประมวลผลประสิทธิภาพสูงเพื่อตอบสนองความต้องการของเทคโนโลยี AI
  • ผลิตภัณฑ์ใหม่ประกอบด้วย Atlas 950/960 SuperPoD และ SuperCluster ที่ติดตั้งหน่วยประมวลผล Ascend NPU จำนวนมหาศาล
  • หัวเว่ยได้พัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีการเชื่อมต่อที่เรียกว่า UnifiedBus เพื่อแก้ปัญหาข้อจำกัดและเพิ่มประสิทธิภาพให้กับโครงสร้างพื้นฐาน AI ขนาดใหญ่

นายเอริค สวี่ รองประธานและประธานกรรมการบริหารแบบหมุนเวียนตามวาระของหัวเว่ย  เปิดเผยในการบรรยายหัวข้อ “Groundbreaking SuperPoD Interconnect: Leading a New Paradigm for AI Infrastructure” ว่า การประมวลผล คือ ปัจจัยสำคัญของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ (AI) ทั้งในปัจจุบันและอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศจีน 

ทั้งนี้ เป้าหมายของหัวเว่ยในการตอบสนองความต้องการด้านการประมวลผลในระยะยาวอย่างยั่งยืน ผ่านการพัฒนา SuperPoDs และ SuperClusters โดยใช้กระบวนการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ที่สามารถนำไปใช้ได้จริงภายในประเทศจีน

โดยหัวเว่ยได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ SuperPoD รุ่นล่าสุดของบริษัท ได้แก่ Atlas 950 SuperPoD (ติดตั้ง Ascend NPU จำนวน 8,192 หน่วย) และ Atlas 960 SuperPoD (ติดตั้ง Ascend NPU จำนวน 15,488 หน่วย) โดยทั้งสองรุ่นได้รับการออกแบบมาเพื่อสมรรถนะที่เหนือกว่าในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นจำนวน NPU การประมวลผลรวม ความจุของหน่วยความจำ หรือแบนด์วิดท์การเชื่อมต่อ 

เมื่อเปรียบเทียบกับข้อมูลโรดแมปผลิตภัณฑ์ที่ผู้ผลิตรายอื่นได้เปิดเผยต่อสาธารณะ SuperPoD รุ่นใหม่ของหัวเว่ยจึงถือเป็นระบบที่ดีที่สุดในโลกปัจจุบัน และคาดว่าจะยังคงครองความเป็นผู้นำต่อไปได้อีกหลายปี

โดย SuperPoD คือ ระบบประมวลผลที่ทำงานเสมือนเป็นเครื่องเดียว (Single Logical Machine) ซึ่งประกอบด้วยเครื่องจริงหลายเครื่อง (Multiple Physical Machines) ที่สามารถเรียนรู้ วิเคราะห์ และประมวลผลร่วมกันได้อย่างเป็นระบบ

นอกจากนี้หัวเว่ยยังได้นำเสนอ Atlas 950 SuperCluster (ติดตั้ง Ascend NPU กว่า 500,000 หน่วย) และ Atlas 960 SuperCluster (ติดตั้ง Ascend NPU กว่าหนึ่งล้านหน่วย) ซึ่งเป็นคลัสเตอร์ประมวลผลขนาดใหญ่ที่ประกอบขึ้นจาก Huawei SuperPoDs หลายชุด โดยทั้งสองระบบได้รับการพัฒนาเพื่อมอบศักยภาพการประมวลผลที่เหนือกว่าคลัสเตอร์ใด ๆ ในตลาด

นายสวี่ กล่าวอีกว่า หัวเว่ยมุ่งเน้นเทคโนโลยีการประมวลผลมหาศาล เพื่อสนับสนุนการพัฒนาและการเติบโตอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยี AI ทั้งในปัจจุบันและอนาคต และได้แนะนำ TaiShan 950 SuperPoD ซึ่งนับเป็น SuperPoD สำหรับการประมวลผลทั่วไป (General-Purpose Computing) รุ่นแรกของโลก 

โดยระบบดังกล่าวนี้เมื่อทำงานร่วมกับ GaussDB แบบกระจายศูนย์ของหัวเว่ย จะเป็นตัวเลือกที่มีประสิทธิภาพสูง สามารถใช้งานทดแทนเมนเฟรม คอมพิวเตอร์ระดับกลาง และแม้กระทั่งเซิร์ฟเวอร์ฐานข้อมูล Exadata ได้อย่างสมบูรณ์

อย่างไรก็ดี ปัญหาสำคัญของโครงสร้างพื้นฐานการประมวลผล AI ขนาดใหญ่ในปัจจุบันอยู่ที่เทคโนโลยีการเชื่อมต่อ โดยเฉพาะข้อจำกัดทางกายภาพของสายเคเบิลที่ใช้งานอยู่ ทั้งแบบไฟเบอร์ออปติกและทองแดง ซึ่งไม่สามารถรองรับการเชื่อมต่อชิปและ SuperPoD จำนวนมหาศาลในระยะไกลได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

ขณะเดียวกันก็ยังต้องรักษาความเร็วสูง ความเสถียร และความหน่วงต่ำเอาไว้ ด้วยการผสานองค์ความรู้เข้ากับนวัตกรรมระบบที่ก้าวล้ำ บริษัทจึงสามารถก้าวข้ามข้อจำกัดดังกล่าวเหล่านี้

สำหรับผลลัพธ์จากความก้าวหน้าดังกล่าว คือ UnifiedBus ซึ่งเป็นโปรโตคอลการเชื่อมต่อที่ล้ำสมัยสำหรับ SuperPoDs นอกจากนี้ยังได้ประกาศเผยแพร่ข้อกำหนดทางเทคนิคของ UnifiedBus 2.0 เพื่อให้พันธมิตรในอุตสาหกรรมสามารถนำไปพัฒนาผลิตภัณฑ์และส่วนประกอบที่รองรับ UnifiedBus ได้มากขึ้น และร่วมกันสร้างระบบนิเวศ UnifiedBus ที่เปิดกว้างอย่างสมบูรณ์

“SuperPoDs และ SuperClusters ที่ขับเคลื่อนด้วย UnifiedBus คือตัวแทนคำตอบของหัวเว่ยต่อความต้องการพลังประมวลผลที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งในปัจจุบันและอนาคต เป้าหมายสูงสุดของเราคือการผลักดันความก้าวหน้าของเทคโนโลยี AI“