ซี.พี. แลนด์-หัวเว่ย ดันไทยฮับเศรษฐกิจสีเขียว-กรีนลิฟวิ่งภูมิภาค

นายกีรติ ศตะสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ซี.พี.แลนด์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ได้ดำเนินการขยายโอกาสทางธุรกิจใหม่ รวมถึงยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยผ่านการขยายการใช้ พลังงานสะอาดในภาคที่อยู่อาศัย สนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่สังคมคาร์บอนต่ำและวางรากฐานด้านสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน เพื่อให้การเติบโตของประเทศเดินหน้าไปพร้อมกับการรักษาสมดุลของโลกในระยะยาว

โดยผ่านการร่วมมือกับบริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เอโซลาร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (A SOLAR) เพื่อสร้างทิศทางการเติบโตเชิงกลยุทธ์ของภาคอสังหาริมทรัพย์ เทคโนโลยี และพลังงานสะอาด

ซึ่งอยู่ภายใต้แนวคิด Resilient Future Together เพื่อร่วมกันผลักดันประเทศไทยก้าวสู่ เศรษฐกิจ สีเขียว (Green Economic) และการพัฒนาการอยู่อาศัยในรูปแบบ กรีนลิฟวิ่ง (Green Living)

“การพัฒนาที่อยู่อาศัยต้องเดินควบคู่ไป กับการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจใหม่และมีส่วนในการช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย การดำเนินการดังกล่าวจะเป็นการเข้าถึงพลังงานที่คุ้มค่า ลดภาระค่าใช้จ่ายของครัวเรือน และสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่สังคมคาร์บอนต่ำซึ่งสอดคล้องกับพันธกิจของเครือเจริญโภคภัณฑ์ในการบรรลุ Carbon Neutral ภายในปี 2030 และ Net Zero ภายในปี 2050 และเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ในระดับสากล”

นายเอกภัทร ปัญญาแก้ว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอโซลาร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า ความร่วมมือดังกล่าวจะช่วยยกระดับ มาตรฐานการใช้พลังงานสะอาด และมุ่งสู่ตลาดใหม่ ดึงดูดการลงทุนเพื่อเสริมความแข็งแกร่งทาง  เศรษฐกิจของประเทศ 

อีกทั้งบริษัทยังมุ่งพัฒนานวัตกรรมที่ทำให้การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน เกิดขึ้นจริงในระดับชุมชน

นายโลแกน ยู ประธานฝ่ายดิจิตอลพาวเวอร์ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า หัวเว่ยเชื่อว่าเทคโนโลยีดิจิทัลคือกุญแจสำคัญในการสร้างระบบพลังงานที่ชาญฉลาดและยั่งยืน ความร่วมมือดังกล่าวจะช่วยต่อยอดนวัตกรรมของหัวเว่ยไปสู่การใช้งานจริงทั้งในภาคครัวเรือนและโครงการอสังหาริมทรัพย์ ทำให้ผู้บริโภคสามารถจัดการพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

ทั้งด้านความปลอดภัย ความน่าเชื่อถือ และความคุ้มค่า ที่สำคัญยังมุ่งสนับสนุนให้ประเทศไทย ก้าวสู่ศูนย์กลางเศรษฐกิจสีเขียวและกรีนลิฟวิ่งของภูมิภาค ผ่านการบูรณาการพลังงานสะอาดกับโซลูชันดิจิทัลครบวงจร

ภายใต้ความร่วมมือดังกล่าวทั้ง 3 องค์กรยังได้กำหนดกรอบสิทธิประโยชน์ร่วมกันในเบื้องต้น โดยทาง Huawei จะนำเทคโนโลยีโซลาร์และระบบกักเก็บพลังงานรุ่นใหม่มาใช้ในโครงการของ CP LAND พร้อมถ่ายทอดความรู้และดูแลด้านเทคนิค เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความยั่งยืนของโครงการขณะที่ CP LAND จะช่วยประชาสัมพันธ์ความร่วมมือครั้งนี้ผ่านสื่อต่าง ๆ ของบริษัท 

ส่วน A Solar จะให้สิทธิพิเศษให้พนักงานเครือเจริญโภคภัณฑ์และลูกบ้านโครงการ CP LAND ทั้งส่วนลด ขยายเวลารับประกัน และโปรโมชั่นสำหรับโซลูชันพลังงานสะอาด เช่น แบตเตอรี่กักเก็บพลังงานและเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า พร้อมคืนประโยชน์สู่สังคมผ่านกิจกรรมเพื่อสาธารณกุศล

”ความร่วมมือดังกล่าวเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่จะช่วยต่อยอดการพัฒนาโครงการและ กิจกรรมในอนาคตโดยมีเป้าหมายร่วมกันในการสนับสนุนให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจสีเขียวและกรีนลิฟวิ่งของภูมิภาค“