กองทัพเตือน! ภัยไซเบอร์จากต่างชาติจ้องเจาะระบบไทย เสี่ยงกระทบมั่นคงระดับชาติ

28 ก.ค. 2568 | 06:43 น.
อัปเดตล่าสุด :28 ก.ค. 2568 | 06:51 น.

ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 แจ้งเตือนหน่วยงานรัฐ-เอกชน รับมือสงครามไซเบอร์จากแฮกเกอร์ต่างประเทศ หลังพบความพยายามเจาะระบบสารสนเทศไทย เร่งยกระดับ Cyber Security ปิดช่องโหว่ ป้องกันข้อมูลรั่ว เสถียรภาพประเทศสั่นคลอน

ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 “แจ้งเตือน” รับมือภัยสงครามไซเบอร์จากต่างประเทศ หน่วยงานไทยต้องเร่งตรวจสอบระบบ รักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลโดยระบุข้อความ ว่า ตามที่ปรากฏข่าวสารเกี่ยวกับการปฏิบัติการโจมตีทางไซเบอร์จากกลุ่มแฮกเกอร์ที่มีต้นทางจากประเทศกัมพูชา โดยมีเป้าหมายมุ่งโจมตีระบบสารสนเทศของหน่วยงานต่าง ๆ ในประเทศไทย ทั้งภาคราชการ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของข้อมูล ความเชื่อมั่นของประชาชน รวมถึงเสถียรภาพในระดับประเทศ

หน่วยงานภาครัฐ และเอกชนจึงจำเป็นต้องเร่งดำเนินการเชิงรุกเพื่อตรวจสอบ ปรับปรุง และเตรียมความพร้อมในการป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์อย่างเป็นระบบ   มาตรการสำคัญที่ควรดำเนินการโดยเร่งด่วน ดังนี้

กองทัพเตือน! ภัยไซเบอร์จากต่างชาติจ้องเจาะระบบไทย เสี่ยงกระทบมั่นคงระดับชาติ

 1. ประเมินและตรวจสอบระบบรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ภายในองค์กร

สำรวจช่องโหว่ในระบบเครือข่าย ฐานข้อมูล และซอฟต์แวร์ที่ใช้งานอยู่, ตรวจสอบการตั้งค่าความปลอดภัยของ Firewall, Antivirus และระบบการพิสูจน์ตัวตน (Authentication), ตรวจสอบระบบสำรองข้อมูล (Backup System) ให้สามารถกู้คืนได้ในกรณีเกิดการโจมตี

2. อัปเดตระบบและซอฟต์แวร์อย่างสม่ำเสมอ

    - ติดตั้ง Patch และอัปเดตระบบปฏิบัติการ และแอปพลิเคชันทุกตัวที่ใช้งานให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด

    - ปิดการทำงานของโปรแกรมหรือฟีเจอร์ที่ไม่จำเป็นซึ่งอาจเป็นช่องทางให้ผู้ไม่ประสงค์ดีเข้าถึง

 3. กำหนดแนวปฏิบัติด้านความมั่นคงไซเบอร์

     - ห้ามคลิกลิงก์จากแหล่งที่ไม่รู้จัก ห้ามใช้แฟลชไดรฟ์จากภายนอก

     - ระวังอีเมล และลิงก์ต้องสงสัย ห้ามเปิดไฟล์แนบ หรือลิงก์จากผู้ส่งที่ไม่รู้จัก และตรวจสอบอีเมลให้แน่ชัดก่อนดำเนินการใดๆ

     - เปลี่ยนรหัสผ่านบัญชีสำคัญอย่างสม่ำเสมอ ตั้งรหัสผ่านที่มีความยาวและความซับซ้อน

     - ตรวจสอบ Log และกิจกรรมระบบที่ผิดปกติอย่างสม่ำเสมอ

 4. ติดตามข่าวสาร การรายงานภัยคุกคาม และประกาศแจ้งเตือนภัยจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด เช่น

    - สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.)

     - ศูนย์เฝ้าระวังความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ (ThaiCERT)

 5. วางแผนรับมือและฟื้นฟูระบบ

     - จัดทำ Cybersecurity Incident Response Plan สำหรับตอบสนองทันทีเมื่อเกิดเหตุ

     - กำหนดเจ้าหน้าที่รับผิดชอบหลักในการประสานงานกับหน่วยงานภายนอก เช่น สกมช. หรือตำรวจไซเบอร์

 6. ประสานความร่วมมือและแจ้งเหตุทันทีหากพบการโจมตี โดยหากพบพฤติกรรมหรือการโจมตีที่ต้องสงสัย ควรแจ้งต่อ ThaiCERT ([email protected]) โทร.0-2114-3531 หรือศูนย์รับเรื่องร้องเรียนภัยคุกคามไซเบอร์ของ สกมช. เพื่อให้สามารถดำเนินการตรวจสอบและตอบสนองได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้การโจมตีทางไซเบอร์ในยุคปัจจุบันไม่ใช่เรื่องไกลตัว และอาจมีเบื้องหลังเชื่อมโยงกับความขัดแย้งด้านการเมือง ความมั่นคง หรือผลประโยชน์ระดับชาติ ดังนั้น หน่วยงานราชการและภาคเอกชนของไทยควรเร่งยกระดับความพร้อมด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ทันที เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจร้ายแรงและรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศโดยรวม

“ไซเบอร์ไม่ใช่เพียงเรื่องของฝ่าย IT แต่คือภารกิจของทั้งองค์กร และประเทศชาติ” กองทัพภาคที่ 2 ระบุ