กสทช.เดือด เจอมรสุม 5 คดีพิพาท เขย่าโครงสร้างอำนาจองค์กร

15 ก.ค. 2568 | 10:18 น.
อัปเดตล่าสุด :16 ก.ค. 2568 | 10:24 น.

กสทช.เผชิญวิกฤตหนัก 5 คดีใหญ่ สะท้อนรอยร้าวภายในองค์กร นักกฎหมายชี้ช่องโหว่กฎหมาย วอนบอร์ดใช้ดุลพินิจรอบคอบ ก่อนโครงสร้างอำนาจสะดุด!

สำนักงาน กสทช. กำลังตกอยู่ท่ามกลางพายุคดีพิพาทภายในรุนแรง หลังถูกยื่นฟ้องรวมสูงถึง 5 คดี ในหลายศาล ทั้งศาลปกครองกลาง และศาลอาญาคดีทุจริตฯ ขณะบอร์ดแตกขั้วระหว่างเสียงข้างมากและเสียงข้างน้อย ประธาน กสทช. เผชิญแรงกดดันมหาศาลจากการใช้ดุลพินิจถ่วงดุลอำนาจ นักกฎหมายชื่อดังชี้ชัด พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ รวมถึงประกาศ และระเบียบของ กสทช. ยังมีช่องโหว่เปิดทางตีความแตกต่างอยู่มากมาย บอร์ดต้องใช้อำนาจรอบคอบ แนะไม่ควรใช้มติเสียงข้างมากเป็นเครื่องมือกดดัน

 

ดร.รุจิระ บุนนาค อาจารย์พิเศษ นักวิชาการ และนักกฎหมาย ได้ให้ความเห็นต่อกรณีนี้ โดยระบุถึงบทบาทประธาน กสทช. ภายใต้แรงเสียดทานของคดีความและความคาดหวัง ว่า ในมุมของข้อกฎหมายและหลักธรรมาภิบาลในการปฏิบัติหน้าที่ ศ.คลินิก นพ.สรณ ประธาน กสทช. ต้องแสดงให้เห็นถึงความระมัดระวังอย่างสูงสุดในการปฏิบัติหน้าที่ โดยเฉพาะในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการแต่งตั้งบุคคลระดับสูงและการดำเนินการสอบวินัย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ขององค์กรในระยะยาว โดยการร่วมหารือกับคณะกรรมการ กสทช. ท่านอื่น เพื่อป้องกันปัญหาการเข้าใจผิด นอกจากนี้ คณะกรรมการ กสทช. เป็นองค์กรกลุ่ม การมีมติเสียงข้างมากไม่ควรถูกใช้เป็นเครื่องมือในการกดดันผู้บริหารสูงสุด หากแต่ต้องมองเห็นความจำเป็นในการถ่วงดุลอย่างมืออาชีพ ความขัดแย้งภายในที่กำลังดำเนินอยู่จึงสะท้อนถึงปัญหาเชิงโครงสร้างในกฎหมายที่ยังเปิดช่องตีความต่าง ๆ ดังนั้น การปฏิหน้าที่ในฐานะผู้นำองค์กรต้องมีหลักยึดในการทำงานด้วย

1. คดีศาลปกครอง กรณี กรรมการ กสทช.4 ราย ได้แก่ พล.อ.ท.ดร.ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ รศ.ดร.พิรงรอง รามสูต รศ.ดร.ศุภัช ศุภชลาศัย และ รศ.ดร.สมภพ ภูริวิกรัยพงศ์ (ผู้ฟ้องคดีที่ 1-4) ยื่นฟ้อง ศ.คลินิก นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธาน กสทช. (ผู้ถูกฟ้องคดี) ต่อศาลปกครองกลาง เป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐละเลยต่อหน้าที่ฯ นัดฟังคำพิพากษา 17 กรกฎาคม 2568 ซึ่งก่อนหน้าศาลปกครองกลางในคดีนี้ ได้เคยมีคำสั่งยกคำขอคุ้มครองชั่วคราวฯ ของ 4 กสทช. โดยเห็นว่าความเดือดร้อนเสียหายของ 4 กสทช. สืบเนื่องมาจากประธาน กสทช. มีความเห็นเกี่ยวกับข้อกฎหมายแตกต่างกับตน ในประเด็นนี้ ดร.รุจิระ เสริมว่า “ประเด็นที่พิพาทในคดีนี้เป็นเรื่องความเห็นในข้อกฎหมายที่เห็นต่างกันไปได้ ซึ่งที่ผ่านมา คำพิพากษาหรือคำตัดสินของศาลก็อาจมีความเห็นที่แตกต่างกันได้ในระหว่างศาลแต่ละชั้นกัน คำพิพากษาในวันพรุ่งนี้ของศาลปกครองกลางก็อาจมีการอุทธรณ์โต้แย้งต่อศาลปกครองสูงสุดต่อไปได้”

 

กสทช.เดือด เจอมรสุม 5 คดีพิพาท เขย่าโครงสร้างอำนาจองค์กร

 

2. คดีศาลปกครอง กรณี นางสุรางคณา วายุภาพ อดีตผู้สมัครคัดเลือกเลขาธิการ กสทช. ฟ้อง ประธาน กสทช. และ กสทช. ต่อศาลปกครองกลาง ขอให้เพิกถอนคำสั่งหรือประกาศหรือคำวินิจฉัยผลการคัดเลือกบุคคลเพื่อแต่งตั้งเป็นเลขาธิการ กสทช. และให้ กสทช. ออกระเบียบหรือประกาศ เรื่องหลักเกณฑ์ วิธีการคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ กสทช.ใหม่ ให้ชอบด้วยกฎหมาย

ช่วงที่ผ่านมาการทำหน้าที่ของ กสทช. ถูกจับตาค่อนข้างมาก ส่วนหนึ่งมาจากปัญหาภายในองค์กรที่มีคดีพิพาทภายในหลายคดี ทั้งคดีในศาลปกครองกลางและศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ซึ่งสะท้อนความขัดแย้งภายใน โดยปัจจุบันมีคดีพิพาทมากถึง 5 คดี

 

3. คดีที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง กรณี นายภูมิศิษฐ์ มหาเวสน์ศิริ รองเลขาธิการ กสทช. ฟ้องประธาน กสทช. ฐานละเว้นไม่ลงนามแต่งตั้งรักษาการเลขาธิการฯ ตามมติ กสทช. แต่ศาลชั้นต้นยกฟ้องเมื่อ 27 กุมภาพันธ์ 2567 เหตุไม่พบเจตนาพิเศษจะก่อให้เกิดความเสียหาย ขณะนี้โจทก์อยู่ระหว่างยื่นอุทธรณ์

 

4. ศาลที่อาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง กรณี พล.อ.ท.ไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล ในฐานะรักษาการเลขาธิการ กสทช. ฟ้องกรรมการ กสทช. 4 ราย และนายภูมิศิษฐ์ ปมเสนอคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบวินัย และกรณีร่างหนังสือแต่งตั้งรักษาการเลขาธิการ กสทช. ซึ่งศาลไต่สวนมูลฟ้องมีมูล แต่ศาลชั้นต้นยกฟ้อง 8 เมษายน 2568 เหตุหลักฐานโจทก์ไม่ชัดเจน ขณะนี้อยู่ระหว่างอุทธรณ์

 

5. คดีที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง กรณี พล.อ.ท.ไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล ฟ้องกรรมการ 4 ราย ไม่แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ กสทช. ตามผลการคัดเลือก ศาลพิพากษายกฟ้อง 6 มิถุนายน 2568 และโจทก์อยู่ระหว่างอุทธรณ์

 

คดีเหล่านี้ สะท้อนปมอำนาจและกระบวนการตัดสินใจภายใน กสทช. ที่ยังขาดความชัดเจนในบทบาทหน้าที่ของประธานและกรรมการ นอกจากนี้ ยังมีคดีที่เกี่ยวกับค่าลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลก 600 ล้านบาท คดีที่เกิดจากกรณี กสทช. เสียงข้างมากมีมติรับทราบการควบรวมระหว่างบริษัททรูและดีแทค ซึ่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางยกฟ้อง และ กรณีหนังสือเวียนผู้ถือใบอนุญาตเพื่อแจ้งให้ระมัดระวังในการอนุญาตให้นำสัญญาณช่องทีวีดิจิทัลไปเผยแพร่ใน TRUE ID ที่ไม่ได้มาขอใบอนุญาต ที่ ทรู ไอดี ฟ้อง ศ.ดร.พิรงรอง รามสูต กรรมการ กสทช. ซึ่งศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำคุกจำเลย 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา

 

อย่างไรก็ตาม แม้ว่า กสทช. จะเผชิญความท้าทายจากคดีพิพาทและความขัดแย้งภายใน แต่ก็พยายามประคับประคองให้การดำเนินงานขององค์กรขับเคลื่อนไปได้ เช่น การประมูลคลื่น การพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัล และมาตรการคุ้มครองผู้บริโภค ที่ยังคงเดินหน้าต่อไปอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง ประธาน กสทช. ได้มีบทบาทสำคัญในหลายโครงการที่ถือเป็นผลงานเชิงประจักษ์ เช่น การประมูลคลื่น 2600 MHz เพื่อเร่งเปิดบริการ 5G เชิงพาณิชย์ในภูมิภาคต่างๆ การผลักดันโครงการดิจิทัลอีโคโนมีเพื่อสร้างระบบนิเวศธุรกิจสตาร์ทอัพไทย รวมถึงมาตรการตรวจสอบและบล็อกคอนเทนต์ผิดกฎหมายบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกับภาคประชาสังคมเพื่อปกป้องประโยชน์สาธารณะในยุคดิจิทัล