นายเดวิด หวัง กรรมการบริหารและประธานคณะกรรมการบริหารโครงสร้างพื้นฐาน ICT หัวเว่ย เปิดเผยในงาน Mobile Broadband Forum (MBBF) Top Talk Summit ซึ่งจัดขึ้นระหว่างงาน MWC Shanghai 2025 ว่า การนำ AI บนมือถือที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว ถือเป็นการนำเสนอรูปแบบใหม่ให้กับอุตสาหกรรมโทรศัพท์เคลื่อนที่ใน 3 มิติ ประกอบด้วย
อุปกรณ์มือถือจะเป็นศูนย์รวมของ AI Agent ที่จะเข้ามาช่วยยกระดับทุกแง่มุมของการใช้ชีวิตและการทำงาน
การผสานAI เข้ากับ IoT กำลังทำให้ AI-IoT เป็นประตูบานใหม่สู่โลกอัจฉริยะ AI กำลังขับเคลื่อนเครือข่าย จากเดิมที่ให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพการดำเนินงานและบำรุงรักษา (O&M) แต่ปัจจุบัน AI ช่วยให้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพของคลื่นความถี่ พลังงาน และ O&M ได้พร้อมกัน
อย่างไรก็ดี ต้องการให้ทั้งอุตสาหกรรมร่วมกันผลักดันยุค Mobile AI ด้วยการปลดล็อกศักยภาพของ 5G-A โดยหัวเว่ยและพันธมิตรในอุตสาหกรรมกำลังร่วมมือกันใน 5 ด้านสำคัญที่จะเป็นแรงขับเคลื่อนการเติบโตของ 5G-A ซึ่งรวมถึงแบนด์วิดท์อัปลิงก์ขนาดใหญ่ ระบบนิเวศของอุปกรณ์ที่หลากหลาย บริการอัจฉริยะแบบมัลติโมเดล ความสามารถ IoT สำหรับทุกสถานการณ์ และรูปแบบธุรกิจที่หลากหลาย
การผสานระหว่าง 5G-A และ AI กำลังเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมอย่างเต็มรูปแบบ ในภาคการผลิต 5G-A ที่มีความหน่วงต่ำและแบนด์วิดท์สูง ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ AI ในอุปกรณ์ (embodied AI) สามารถตรวจจับและตัดสินใจสิ่งต่าง ๆ ได้ด้วยความแม่นยำสูง ด้วยเครือข่าย 5G-A Embodied AI สามารถรวบรวมและประมวลผลข้อมูลจำนวนมากได้แบบเรียลไทม์ เพื่อให้วงจร การรับรู้ การตัดสินใจ การปฏิบัติ สำเร็จลุล่วง ช่วยลดความเสี่ยงในการผลิตพร้อมเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุด
นายฉาง หลิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Leju Robot กล่าวว่า เมื่อหุ่นยนต์กลายเป็นส่วนสำคัญของการผลิตและชีวิตประจำวัน การเชื่อมต่อจะต้องก้าวข้ามความเสถียรไปสู่ความอัจฉริยะ ซึ่งความหน่วงเป็นเพียงความสามารถพื้นฐาน และการตัดสินใจร่วมกันจะเป็นตัวเปลี่ยนเกมที่แท้จริง
อย่างไรก็ตาม ในอุตสาหกรรมโซ่อุปทาน การครอบคลุมพื้นที่ในกว้างของ 5G-A และการวางแผนเส้นทางที่ช่วยเสริมด้วย AI สามารถเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนได้อย่างมาก ตัวอย่างเช่น ระบบโลจิสติกส์อัจฉริยะที่ใช้ 5G-A และอุปกรณ์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ช่วยให้การวางแผนเส้นทางมีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่งผลให้การจัดจำหน่ายตรงเวลามากขึ้นและต้นทุนการดำเนินงาน (OPEX) ลดลง
ในแง่ของเทคโนโลยี 5G-A ต้องพัฒนาไปไกลกว่าบทบาทเดิมที่เป็นเพียง ท่อส่งสัญญาณเพื่อทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มประสบการณ์ที่สามารถรองรับการโต้ตอบแบบเรียลไทม์ระหว่าง AI Agent บนมือถือกว่าพันล้านเครื่อง การพัฒนา 5G-A จึงไม่ได้เป็นเพียงการปรับปรุงทางเทคโนโลยีเท่านั้น
แต่ยังต้องการการพลิกโฉมโครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายและกระบวนทัศน์การดำเนินงาน ซึ่งในเชิงพาณิชย์การนำเสนอระดับพรีเมียมกำลังขับเคลื่อนการสร้างรายได้จาก 5G-A ความสามารถของ 5G-A ในการนำเสนอที่ไร้ที่ติสำหรับการใช้งานที่ต้องการความหน่วงต่ำและแบนด์วิดท์สูง เช่น คลาวด์เกมมิ่งและการสตรีมกีฬาแบบหลายมุมมอง กำลังสร้างรูปแบบการชำระเงินที่ง่ายต่อผู้ใช้มากขึ้น แนวทางที่ให้ความสำคัญแก่ประสบการณ์เป็นอันดับแรกกำลังสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ เนื่องจากผู้บริโภคมีความเต็มใจที่จะจ่ายในราคาที่สูงขึ้นขึ้น เพื่อแลกกับการรับประกันคุณภาพของบริการ
นายหลี่ เผิง รองประธานอาวุโสและประธานฝ่ายขายและบริการเทคโนโลยี ICT ของหัวเว่ย กล่าวว่า 5G-A จะช่วยให้ผู้ให้บริการสามารถนำเสนอเครือข่ายที่รับประกันได้ในหลากหลายปัจจัย 5G-A จะกระตุ้นให้เกิดโมเดลธุรกิจใหม่ที่เป็นนวัตกรรม และช่วยให้ผู้ให้บริการขยายขีดความสามารถนอกเหนือจากปริมาณการใช้งาน เพื่อเริ่มสร้างรายได้จากประสบการณ์โดยตรง
นายหลี่ กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะช่วยให้ผู้ให้บริการยกระดับแบรนด์ สร้างมูลค่าใหม่ และสร้างรายได้จากประสบการณ์ได้ดียิ่งขึ้น เพื่อไปให้ถึงจุดนั้น จำเป็นต้องพัฒนากฎเกณฑ์การสร้างเครือข่ายที่เน้น AI เป็นศูนย์กลาง (AI-Centric) เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างต่อเนื่อง
เรื่องดังกล่าวจะเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการพัฒนาเครือข่าย 5G-A แบบไร้การสูญเสีย (Lossless) ที่ครอบคลุมพื้นที่กว้าง รองรับการเข้าถึงที่กำหนดได้ การจัดตารางเวลาที่ยืดหยุ่น และการเชื่อมต่อที่เชื่อถือได้ตามความต้องการระหว่างคลาวด์ เอดจ์ และอุปกรณ์