“ควอนตัม”เปลี่ยนโลก ปรับไม่ทันอาจสูญพันธุ์ แนะธุรกิจเร่งศึกษา

ดร.จิรวัฒน์ ตั้งปณิธานนท์ CEO & Co-founder ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานกรรมการบริหาร Quantum Technology Foundation Thailand (QTFT) องค์กรที่ปรึกษาและพัฒนาเทคโนโลยีควอนตัม ประเทศไทย กล่าวตอนหนึ่งในการอบรมหลักสูตร Digital Transformation for CEO  หรือ  DTC#3  หัวข้อ “เทคโนโลยีควอนตัมเปลี่ยนโลก” ว่า“ในมุมของเทคโนโลยี ควอนตัมจะเป็นยุคที่ถัดจากดิจิทัล  เป็นพื้นฐานของการพัฒนาทุกด้าน  เช่นเดียวกับการเปลี่ยนผ่านจากยุคอนาล็อคมาเป็นดิจิทัล

สำหรับควอนตัมเป็นเทคโนโลยีที่มาจากความรู้หนึ่งในวิชาฟิสิกส์ ในโลกของควอนตัม ฟิสิกส์ นักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่าตัวอะตอมทำตัวแปลก ๆ เหมือนอยู่ในชีวิตประจำวัน เช่น อะตอมสามารถอยู่หลายที่ได้ในเวลาเดียวกัน สามารถทะลุผ่านกำแพงได้เลยโดยที่ไม่ต้องกระโดดข้าม อะตอมที่อยู่ไกลมาก ๆ สามารถสื่อสารกันได้โดยที่ไม่มีการส่งสัญญาณ

“ ปัจจุบันคอมพิวเตอร์ปกติมีหน่วยย่อยของข้อมูลที่เรียกว่าบิท (bit) การประมวลผลของระบบดิจิทัล เป็นศูนย์กับหนึ่ง  เข้า-ออก   ส่วนควอนตัมคอมพิวเตอร์มีหน่วยประมวลผลที่เรียกว่าคิวบิท (Qubit) หรือ ควอนตัมบิท แต่การประมวลผลของควอนตัม เป็นศูนย์กับหนึ่งพร้อมกัน เข้าออกพร้อมกันมีพลังและวิธีการประมวลผลที่เหนือกว่าคอมพิวเตอร์ปัจจุบันนับล้านเท่าเป็นเทคโนโลยีที่จะพลิกโลกทั้งใบจนถึงขั้นเปลี่ยนนิยายวิทยาศาสตร์ให้กลายเป็นจริง   ควอนตัมจะเข้ามาแก้ข้อจำกัดที่ดิจิทัลทำไม่ได้  อย่างไรก็ตามขณะนี้คอมพิวเตอร์ควอนตัมยังอยู่ระหว่างการพัฒนา  ยังไม่มีความเสถียร   คาดว่าใน 3- 4 ปีข้างหน้าจะเกิดยูสเคสขึ้น  และในอีก 10 ปีข้างหน้าจะเกิดการประยุกต์ใช้งานจริง”     

โดยขณะนี้ทั่วโลกมีการลงทุนเทคโนโลยีควอนคัมมหาศาล ยุโรป มีการตั้งควอมตัม แฟล็กชิปของทวีป มีการทุ่มงบพัฒนาควอนตัม   2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ   สหรัฐอเมริกาตั้งแต่ยุคโดนัล ทรัมป์ จนมาถึงโจ ไบเดนมีการออก พ.ร.บ.ด้านควอนตัม คอมพิวติ้ง มีการทุ่มเม็ดเงินพัฒนาควอนตัม 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ   และจีนมีการลงทุนทำวิจัยและพัฒนาด้านเทคโนโลยีควอนตัม จำนวนสามแสนล้านบาท“

ดร.จิรวัฒน์ กล่าวต่อไปอีกว่าอย่างไรก็ตาม “ควอนตัม คอมพิวติ้ง” ยังอยู่ในช่วงเริ่ม โดยการเปลี่ยนแปลงแต่ละยุคแต่ละสมัย ย่อมมีโอกาสทางธุรกิจที่เกิดขึ้นใหม่ๆ ที่คาดเดาไม่ได้  และบางธุรกิจที่ล้มเหลว หายและตายไป   ซึ่งมองว่าธุรกิจไทยควรเริ่มทำการศึกษา ควอนตัม คอมพิวติ้ง จะทำให้เกิดธุรกิจใหม่ ๆ ซึ่งเป็นโอกาสสำหรับธุรกิจในทุกอุตสาหกรรม และอีกเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน คือ ผลกระทบต่อความมั่นคงปลอดภัยด้านไซเบอร์ของประเทศ ซึ่งภาครัฐและเอกชนไทยจะต้องเตรียมตัวเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน

“ถ้าเราเปรียบเทียบคอมพิวเตอร์วันนี้กับคอมพิวเตอร์เมื่อสิบปีที่แล้ว คอมพิวเตอร์ในวันนี้ทำให้เกิดสมาร์ทโฟน ทำให้เกิด Grab เกิด Facebook หรือ Meta เช่นเดียวกัน ควอนตัม คอมพิวติ้งจะทำให้เทคโนโลยีล้ำหน้าขึ้นไปอีก อาจจะมาต้องมานั่งจินตนาการกันอีก ธุรกิจต่าง ๆ ต้องมานั่งเตรียมการว่าจะเกิดธุรกิจอะไรใหม่ ๆ เกิดขึ้นในอนาคต  อนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอน แต่สิ่งที่แน่นอนคือ อะไรที่ปรับตัวไม่ทัน ก็จะสูญหายไปตามวิวัฒนาการของธรรมชาติ