ซินเน็คฯ เปิดโปรเจ็กต์ SWOPMART รุกตลาดไอทีมือสอง

19 ส.ค. 2564 | 11:18 น.

ซินเน็คฯ โชว์กำไรเติบโตทำสถิติสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ พร้อมเดินหน้าอัพเดทแผนงานครึ่งปีหลัง ต่อยอดตลาดขายสินค้าไอทีมือสอง เปิดโปรเจ็กต์ SWOPMART ผ่านการลงทุนของบริษัทย่อย

นางสาวสุธิดา มงคลสุธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (SYNEX) ในฐานะผู้นำด้าน IT Ecosystem กล่าวว่า ภาพรวมกำลังซื้อสินค้าไอทีและสินค้าเทคโนโลยียังคงแข็งแกร่ง สนับสนุนธุรกิจหลักให้เติบโต ควบคู่แผนขยายขอบเขตการให้บริการด้านไอทีร่วมกับพันธมิตร โดยจะเริ่มเห็นแผนขยายธุรกิจโดยการจับมือพันธมิตรผ่าน บริษัท ซินเน็ค อินคิวท์เบชั่น จำกัด (Synnex Incubation) ซึ่งเป็นบริษัทลูกที่จัดตั้งขึ้นเพื่อลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับเทคโนโลยี เพื่อเสริมสร้างการเติบโตที่แตกต่างไปจากธุรกิจเดิมของซินเน็คฯ โดย Synnex Incubation เปิดตัวธุรกิจแรกที่เข้าลงทุน คือ บริษัท สวอป มาร์ท จำกัด (SWOPMART) ประกอบกิจการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ รุกตลาดไอทีมือสอง นอกจากนี้ ได้ทำการเปิดรับข้อเสนอในการเข้าร่วมลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพ หรือธุรกิจที่ต้องการขยายกิจการรายอื่นๆ ต่อเนื่อง 

ซินเน็คฯ เปิดโปรเจ็กต์ SWOPMART รุกตลาดไอทีมือสอง

ก่อนหน้านี้ บริษัทฯ ประกาศ ผลประกอบการไตรมาส 2/64 มีกำไรสุทธิอยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 211 ล้านบาท เติบโตจากงวดเดียวกันของปีก่อน 27% ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 8,382 ล้านบาท และภาพรวมอัตรากำไรขั้นต้นยังคงปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องมาอยู่ที่ร้อยละ 4.8 จากความต้องการสินค้า IT เพิ่มขึ้น สนับสนุนงวด 6 เดือนแรกของปี 2564 ซินเน็คฯ มีกำไรสุทธิ 396 ล้านบาท เติบโตถึง 33% จากงวดเดียวกันของปีก่อน จากรายได้รวมทำได้ 17,018 ล้านบาท เติบโตจากงวดเดียวกันของปีก่อน 6% แม้ภายใต้สถานการณ์โควิด-19 ซินเน็คฯ ยังคงสามารถตอบสนองความต้องการสินค้าเทคโนโลยีไปยังผู้บริโภคได้อย่างดีเยี่ยม 

สำหรับ บริษัท ซินเน็ค อินคิวท์เบชั่น จํากัด ได้เข้าลงทุนในบริษัท SWOPMART โดย SYNEX ถือ 60% และ Partner ถือ 40% เงินลงทุนเริ่มต้นอยู่ในกรอบไม่เกิน 100 ล้านบาท เฉพาะส่วนของ SYNEX บริษัท SWOPMART ทําธุรกิจ marketplace สําหรับสินค้า IT มือสอง เน้นนําเสนอลูกค้า C2C โดย SWOPMART จะเก็บค่าธรรมเนียม 5% ของ GMV สําหรับสินค้าที่ไม่ผ่านการตรวจสอบและออก Certified จาก SYNEX และเก็บค่าธรรมเนียม 7% ของ GMV หากต้องการให้สินค้าผ่านการตรวจสอบ คุณภาพและออก Certificated จาก SYNNEX โดย SWOPMART จะเริ่มให้บริการใน 1-2 เดือนจากนี้

ปัจจุบันมูลค่าตลาดไอที มือสองอยู่ที่ราว 5 หมื่นล้านบาทต่อปี ซึ่งเป็นตลาดที่ยังไม่มีผู้นําในตลาด บริษัทฯ คาดหวัง Market share 50% ภายใน 3 ปี หรือหมายถึงรายได้ที่ราว 1,250 ล้านบาท (25,000x5%) และมีกําไรราว 250 ล้านบาท (หรือราว 1% ของ GMV) หรือคิดเป็น 150 ล้านบาท เฉพาะส่วนของ SYNEX ถือว่ามีนัยสําคัญหากทําได้สําเร็จ จุดที่น่าสนใจคือมูลค่าของ Market Place ไม่ได้จบที่เพียงส่วนแบ่งกําไร แต่มาจาก platform value ที่เกิดจากคนเข้ามาใช้ระบบมากขึ้น ต่อยอดไปสู่ธุรกิจอื่นได้อีกมาก (SYNEX มีธุรกิจปล่อยสินเชื่อในมือผ่านบริษัทฯ NCAP)

สำหรับ บริษัท ซินเน็ค อินคิวท์เบชั่น จํากัด ได้เข้าลงทุนในบริษัท SWOPMART โดย SYNEX ถือ 60% และ Partner ถือ 40% เงินลงทุนเริ่มต้นอยู่ในกรอบไม่เกิน 100 ล้านบาท เฉพาะส่วนของ SYNEX บริษัท SWOPMART ทําธุรกิจ marketplace สําหรับสินค้า IT มือสอง เน้นนําเสนอลูกค้า C2C โดย SWOPMART จะเก็บค่าธรรมเนียม 5% ของ GMV สําหรับสินค้าที่ไม่ผ่านการตรวจสอบและออก Certified จาก SYNEX และเก็บค่าธรรมเนียม 7% ของ GMV หากต้องการให้สินค้าผ่านการตรวจสอบ คุณภาพและออก Certificated จาก SYNNEX โดย SWOPMART จะเริ่มให้บริการใน 1-2 เดือนจากนี้

ปัจจุบันมูลค่าตลาดไอที มือสองอยู่ที่ราว 5 หมื่นล้านบาทต่อปี ซึ่งเป็นตลาดที่ยังไม่มีผู้นําในตลาด บริษัทฯ คาดหวัง Market share 50% ภายใน 3 ปี หรือหมายถึงรายได้ที่ราว 1,250 ล้านบาท (25,000x5%) และมีกําไรราว 250 ล้านบาท (หรือราว 1% ของ GMV) หรือคิดเป็น 150 ล้านบาท เฉพาะส่วนของ SYNEX ถือว่ามีนัยสําคัญหากทําได้สําเร็จ จุดที่น่าสนใจคือมูลค่าของ Market Place ไม่ได้จบที่เพียงส่วนแบ่งกําไร แต่มาจาก platform value ที่เกิดจากคนเข้ามาใช้ระบบมากขึ้น ต่อยอดไปสู่ธุรกิจอื่นได้อีกมาก (SYNEX มีธุรกิจปล่อยสินเชื่อในมือผ่านบริษัทฯ NCAP)