นายสุวิทย์ มังกรศิลานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเทคโนโลยี บริษัท เรดวัน เน็ตเวิร์ค (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า จากการสำรวจตลาดและอัตราการเติบโตของผู้ใช้งานโทรศัพท์มือถือในไทย มีการเติบโตต่อเนื่องสูงถึง 93.3 ล้านเลขหมาย ทำให้บริษัทมั่นใจในการทุ่มทุนกว่า 1,000 ล้านบาท สำหรับการลงทุนในธุรกิจแบบ MVNO (Mobile Virtual Network Operator) เพื่อพัฒนาการให้บริการในไทย ซึ่งงบการลงทุนจะเกี่ยวกับระบบออนไลน์ต่างๆ ที่ทำให้สามารถให้บริการในระบบรายเดือน รวมถึงการเข้าถึงคลื่นสัญญาณความถี่ที่ 2100 MHz และ 2300 MHz เพื่อให้โครงข่ายสัญญาณของเรดวัน ครอบคลุมทุกจังหวัดในประเทศไทย โดยมีสัญญาณตั้งแต่ 2G, 3G, 4G, 4G+ และ จะสามารถให้บริการ 5G ได้ในอนาคต
ส่วนธุรกิจแบบ MVNO (Mobile Virtual Network Operator) คือ การให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบโครงข่ายเสมือน โดยผู้ประกอบกิจการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งไม่มีคลื่นความถี่เป็นของตนเอง ทำความตกลงกับผู้ประกอบการโทรคมนาคมที่มีคลื่นความถี่และโครงข่ายโทรคมนาคมเป็นของตนเอง เพื่อขอซื้อบริการขอใช้ airtime (Voice) และบริการข้อมูล (Data) ในกรณีของเรดวัน บริษัทได้ทำความตกลงกับ บมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ NT สำหรับการเข้าถึงคลื่นสัญญาณความถี่ที่ 2100 MHz และ 2300 MHz โดยมีสัญญาณตั้งแต่ 2G, 3G, 4G, 4G+ และจะสามารถให้บริหาร 5G ได้ในอนาคต
นายสุรเชษฐ์ ชัยปัทมานนท์ ประธานกรรมการ บริษัท เรดวัน เน็ตเวิร์ค (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เรดวัน เปิดตัวครั้งแรกในปี 2555 ที่ประเทศมาเลเซีย เป็นผู้ให้บริการสัญญาณระบบ MVNO แห่งแรก ที่ให้บริการด้วยแพ็คเกจค่าบริการรายเดือนราคาประหยัด ด้วยปรัชญาการให้บริการ Back to Basics ที่ต้องการให้ผู้ใช้งานหลุดจากกรอบค่าใช้จ่ายส่วนเกินที่ไม่จำเป็น ทำให้เรดวันได้กระแสตอบรับที่ดีจากผู้ใช้งานอย่างรวดเร็ว จนมีผู้ใช้บริการกว่า 1.2 ล้านเลขหมาย รวมทั้งได้รับรางวัลมากมายในประเทศ
เรดวัน เน็ตเวิร์ค เป็นผู้ให้บริการ MVNO ที่ใหญ่ที่สุดและครอบคลุมพื้นที่ 10 ประเทศในอาเซียนเป็นเจ้าแรกภายในปี 2565 สิ่งที่ทำให้เรดวันเติบโตอย่างรวดเร็ว ไม่ใช่แค่เพียงราคาแพ็คเกจที่น่าสนใจ แต่หัวใจสำคัญยังเป็นโมเดลธุรกิจที่มอบผลตอบแทนให้กับตัวแทนผู้ให้บริการอย่างต่อเนื่อง เมื่อปี 2562 ซึ่งเปิดตัวที่สิงคโปร์ และได้รับเสียงตอบรับที่ดีมาก ซึ่งเป็นการพิสูจน์ความสำเร็จของรูปแบบโมเดลธุรกิจในแบบของเรดวัน ดังนั้นในปีนี้ จึงขยายตลาดไปสู่ประเทศอื่นๆ ต่อ และประเทศไทยคือเป้าหมายสำคัญของการขยายฐานบริการ ซึ่งเปิดให้บริการวันแรกในวันที่ 18 พฤษภาคม 2564
เรดวัน เปิดตัวด้วยแพ็คเกจภายใต้แนวคิด Back to Basics ที่ครอบคลุมความต้องการของผู้ใช้งาน ในราคาที่สมเหตุสมผล ไม่แพงจนเหลือใช้และไม่น้อยจนขาดช่วง ทำให้ลูกค้าไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายส่วนเกินที่ไม่จำเป็น และได้ใช้มือถือตรงความต้องการอย่างแท้จริง และด้วยปรัชญาองค์กรที่เข้าใจง่ายทำให้เรดวันเป็นที่ยอมรับและเติบโตอย่างแข็งแรงในประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์
นายเพ เส้ง เทย์ (Tay Pei Seng) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เรดวัน เน็ตเวิร์ค (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงกลยุทธ์การตลาดในเมืองไทยของเรดวันว่า เรดวันวางแผนจะเจาะกลุ่มผู้ที่อาศัยอยู่ในต่างจังหวัด รวมถึงผู้ที่เดินทางเข้ามาทำงานในเมือง โดยใช้ location-based marketing เป็นหลัก เพื่อนำพา traffic ผู้ใช้งานไปสู่ร้านค้าพันธมิตรในแต่ละพื้นที่โดยตรง ผ่าน 3 ช่องทางหลักการตลาด ได้แก่ Social Media & Online Marketing สร้างการรับรู้ในกลุ่มเป้าหมายหลัก, Local Marketing สื่อนอกบ้านที่เจาะตามชุมชนจังหวัดต่างๆ, Point of Sales media ประชาสัมพันธ์ ณ จุดขาย ซึ่งคือจุดที่ลูกค้าตัดสินใจในการซื้อจริงๆ
เรดวัน เน็ตเวิร์ค เชื่อว่ากลยุทธ์ของบริษัท จะช่วยให้การลงทุนทางการตลาดตรงไปสู่กลุ่มเป้าหมายหลักและเกิดการรับรู้ถึงแบรนด์เรดวัน รวมถึงช่วยสนับสนุนพันธมิตรทางธุรกิจไปด้วย ในส่วนของแพ็คเกจค่าโทรและอินเทอร์เนท ที่ประเทศไทยจะเริ่มต้นในราคาที่ถูก ด้วยราคา 99 บาท ซึ่งจะได้ครบทั้งการโทรและอินเทอร์เน็ต
ข่าวที่เกี่ยวข้อง