มาสเตอร์การ์ด มุ่งเสริมนวัตกรรมความปลอดภัยรับอีคอมเมิร์ซไทยโต

29 มี.ค. 2562 | 10:05 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

มาสเตอร์การ์ด มุ่งขับเคลื่อนธุรกิจอีคอมเมิร์ซในประเทศไทย ด้วยนวัตกรรมด้านความปลอดภัย โดยล่าสุดได้ร่วมมือกับพันธมิตรอย่างแกร็บ, ลาซาด้า, ช้อปปี้ และการบินไทย เพื่อมอบข้อเสนอสุดพิเศษมากกว่า 20 รายการให้แก่นักช็อป เมื่อซื้อสินค้าออนไลน์โดยใช้บัตรมาสเตอร์การ์ด

มาสเตอร์การ์ด มุ่งเสริมนวัตกรรมความปลอดภัยรับอีคอมเมิร์ซไทยโต

ไอลีน ชูว รองประธานบริหารฝ่ายพัฒนาธุรกิจ มาสเตอร์การ์ด ประจำประเทศไทยและเมียนมาร์ กล่าวว่าตลาดอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยมีขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และคาดการณ์ว่าจะเติบโตเพิ่มขึ้น 30 % คิดเป็นมูลค่า 1.3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐภายในปี พ.ศ. 2568 คนไทยรุ่นใหม่ยุคมิลเลนเนียลคือหนึ่งในกลุ่มคนที่ชำระเงินทางมือถือมากที่สุดในโลก โดยมีอัตราส่วน 40 %ของนักช้อปออนไลน์ในประเทศไทย2   ตลาดอี-คอมเมิร์ซที่มีขนาดใหญ่ได้แรงขับเคลื่อนจากการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคเนื่องจากเทคโนโลยีสามารถเชื่อมต่อผู้คนและอุปกรณ์ที่ใช้เพื่อเข้าถึงแพลทฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์ได้มากขึ้น

อย่างไรก็ตาม การชำระเงินผ่านระบบออนไลน์ในปัจจุบันได้รับการสนับสนุนจากเทคโนโลยีที่มีอายุเกือบ 20 ปี และไม่ได้ใช้ประโยชน์จากมือถืออย่างเต็มที่ ผู้บริโภคที่ไม่สามารถชำระเงินทางออนไลน์ได้เสร็จสมบูรณ์ต้องยกเลิกการซื้อสินค้าเนื่องจากต้องพบกับประสบการณ์ใช้งานที่ย่ำแย่ การฉ้อโกงและบัตรไม่ได้รับอนุมัติให้ชำระสินค้า (false declines) ซึ่งบั่นทอนความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและทำให้พวกเขาถอยห่างจากการชำระเงินด้วยระบบดิจิทัล

“การพาณิชย์ออนไลน์มีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้น โดยคาดว่าจะมีอัตราส่วน 1 ใน 4 ของการทำธุรกรรมทั้งหมดภายในปี 2568 และมาสเตอร์การ์ดได้เดินหน้าพัฒนานวัตกรรมอย่างรวดเร็วเพื่อก้าวข้ามอุปสรรคต่างๆ และสร้างประสบการณ์การทำธุรกรรมที่ราบรื่นและสมบูรณ์แบบให้กับลูกค้า ผ่านกรอบการทำงานที่เรียกว่า “Digital Security Framework” บนพื้นฐานของความปลอดภัยและความสามารถในการขยายการเติบโตของธุรกิจ”

ไอลีน ชูว กล่าวต่อไปว่า “กรอบการทำงานดังกล่าวประกอบด้วยเสาหลัก 4 ด้าน คือ การยืนยันตัวตน (authentication) การถอดรหัสโทเค็น (tokenization) การปรับปรุงข้อมูลต่อเนื่อง (continuity) และการใช้ข้อมูลอัจฉริยะ (intelligence) เพื่อขจัดอุปสรรคในกระบวนการทำธุรกรรมชำระเงิน”

เทคโนโลยี “authentication” คือการยืนยันความประสงค์ที่แท้จริงของลูกค้าในการชำระเงิน “tokenization” ช่วยป้องกันความเสี่ยงการรั่วไหลของข้อมูลที่บันทึกในร้านค้า “continuity” สร้างความมั่นใจว่าข้อมูลบัตรของลูกค้าที่ถูกบันทึกไว้ในร้านค้ามีการอัพเดตโดยอัตโนมัติเพื่อป้องกันการปฏิเสธบัตรที่หมดอายุหรือการเปลี่ยนบัตร และ “intelligence” ช่วยให้ร้านค้าใช้ข้อมูลได้แบบเรียลไทม์เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจอนุมัติที่มีประสิทธิภาพ การทำงานร่วมกันเหล่านี้ช่วยตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าและมอบประสบการณ์การทำธุรกรรมออนไลน์ที่น่าพอใจ ขจัดอุปสรรคในแต่ละขั้นตอนของวงจรการชำระเงิน

เทคโนโลยีดังกล่าวเกิดขึ้นได้ด้วย EMV 3D-Secure 2.0 (3DS2.0) มาตรฐานการยืนยันตัวตนสำหรับการทำธุรกรรมดิจิทัลทุกรูปแบบที่เชื่อมต่อทุกขั้นตอน เริ่มตั้งแต่เมื่อผู้ใช้ลงทะเบียนเข้าบัญชีใช้งานไปจนถึงเมื่อซื้อสินค้า และตั้งแต่ผู้ใช้ยืนยันตัวตนไปจนถึงเมื่อการยืนยันดังกล่าวกลายเป็นการทำธุรกรรมสมบูรณ์ ซึ่งไม่เพียงทำให้ผู้ออกบัตรและร้านค้ามีมาตรฐานการทำงานร่วมกันในระดับโลก แต่ยังช่วยให้ผู้ออกบัตรและร้านค้าสามารถยืนยันตัวตนของผู้บริโภคได้อย่างปลอดภัยและไร้อุปสรรค โดยไม่จำเป็นต้องใช้ชุดรหัสผ่านครั้งเดียว (OTP) หรือรหัสผ่านสำหรับการทำธุรกรรมที่มีมูลค่าน้อย

อีกหนึ่งนวัตกรรมสำคัญในกรอบการทำงานของมาสเตอร์การ์ด คือ “เทคโนโลยีการยืนยันตัวตนทางอ้อม”  ซึ่งใช้ข้อมูลทางชีวภาพและข้อมูลเชิงพฤติกรรมการใช้งานในอุปกรณ์เพื่อแยกผู้ใช้ตัวจริงออกจากผู้ฉ้อโกง เทคโนโลยีนี้จะตรวจวัดผู้ใช้จากรูปแบบการพิมพ์ในสมาร์ทโฟน และแรงกดลงบนหน้าจอระบบสัมผัส รวมถึงสัญญาณอื่นๆ ที่ตรวจจับกิจกรรมที่น่าสงสัยและสามารถระบุตัวตนของผู้ใช้ได้อย่างถูกต้อง

กรอบการทำงานดังกล่าวปูทางให้มาสเตอร์การ์ดสามารถเปลี่ยนแปลงอุปกรณ์ทุกรูปแบบให้เป็นอุปกรณ์เคลื่อนที่ที่ปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นการชำระเงินโดยใช้มาสเตอร์การ์ดผ่านการจองแอปแท็กซี่ การชำระด้วยอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แบบสวมใส่ (wearable) ในร้านค้า หรือแม้แต่การทำให้รถยนต์สามารถชำระเงินได้ทุกครั้งที่เติมน้ำมันในปั๊มน้ำมัน

การเข้าครอบครองกิจการไบรท์เทอเรียน (Brighterion) นูดาต้า (Nudata) และอีโธคา (Ethoca) ของมาสเตอร์การ์ดยังแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะรักษาความปลอดภัยในการทำธุรกรรมของผู้บริโภค

ความร่วมมือด้านอีคอมเมิร์ซกับแบรนด์ต่างๆ เป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องของมาสเตอร์การ์ดในการขับเคลื่อนนวัตกรรมและการเติบโตในตลาดการพาณิชย์ออนไลน์ เมื่อไม่นานนี้ มาสเตอร์การ์ด ประกาศเป็นหุ้นส่วนกับไอทีเอ็มเอ็กซ์ (National Interbank Transaction Management and Exchange) เพื่อขยายบริการรองรับบัตรเดบิต การเป็นหุ้นส่วนดังกล่าวทำให้บริการเครือข่ายชำระเงิน (Payment Gateway Services) ของมาสเตอร์การ์ดเป็นรายแรกและรายเดียวในเครือข่ายการชำระเงินระดับโลกที่เชื่อมต่อโดยตรงกับไอทีเอ็มเอ็กซ์ ความก้าวหน้าดังกล่าวช่วยให้การชำระเงินดิจิทัลในประเทศไทยมีความล้ำสมัย และขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็นสังคมไร้เงินสดที่ทำให้ทุกคนในสังคมได้รับประโยชน์อย่างทั่วถึง สอดคล้องกับวิสัยทัศน์นโยบาย “ไทยแลนด์ 4.0” ของรัฐบาล และ “แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ” (National e-Payments Master Plan)