“เดมเลอร์” เปิดตัวรถบรรทุกไฟฟ้า “ฟูโซ่ อีแคนเทอร์”

เราได้เห็น “รถอีวี” หรือ “Electric Vehicle” ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าล้วน ๆ กันมามากแล้ว โดยส่วนใหญ่จะเป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคลและจักรยานยนต์ ไม่ค่อยได้เห็นรถอีวีที่เป็นพาหนะขนาดใหญ่กันมากนัก ที่พอจะมีอยู่บ้างก็มักจะเป็นรถโดยสารหรือรถบัสขนาดเล็กสำหรับขนส่งผู้คนในระยะทางที่ไม่ไกลมาก

อย่างไรก็ตาม ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา (14 ก.ย.) “เดมเลอร์ ทรัคส์ (Daimler Trucks)” บริษัทผู้ผลิตรถบรรทุกในเครือ เดมเลอร์ เอจี (Daimler AG) ได้เปิดตัวรถบรรทุกเล็กรุ่นใหม่ เข้ามาเติมเต็มพื้นที่ว่างในตลาดยานยนต์อีวีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพราะรถใหม่ที่เปิดตัวนี้ เป็น “อีวี 100%” หรือที่เรียกว่า “all-electric truck” น้ำหนักบรรทุกสูงสุดที่ 3.6 ตัน ใช้สำหรับวิ่งขนส่ง-กระจายสินค้าในเขตชุมชนเมืองได้สบาย ๆ โดยไม่ต้องพ่นไอเสียออกมาสร้างมลพิษทางอากาศให้กับวิถีชีวิตคนเมือง




“เดมเลอร์” ประเดิมเปิดตัวรถบรรทุกพลังงานไฟฟ้า รุ่น “ฟูโซ่ อีแคนเทอร์ (Fuso e-Canter)” ในแมนฮัตตัน ซึ่งเป็นย่านจอแจพลุกพล่านของมหานครนิวยอร์ก เพื่อบอกให้โลกรู้ว่า นี่คือ “รถบรรทุกยุคใหม่” ที่ไม่น่ารังเกียจอีกต่อไป เพราะนอกจากเสียงที่เงียบแล้ว มันยังไม่พ่นควันพิษให้เสียบรรยากาศอีกด้วย

“ฟูโซ่ อีแคนเทอร์” ผลิตโดย มิตซูบิชิ ฟูโซ่ ทรัค แอนด์ บัส คอร์ปอเรชั่น (MFTBC) ซึ่งปัจจุบันเป็นบริษัทลูกของ “เดมเลอร์ เอจี” รถรุ่นนี้เป็น “รถบรรทุกไฟฟ้ารุ่นแรก” ที่บริษัทผลิตออกมาจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ เมื่อชาร์จไฟฟ้าเต็ม จะสามารถวิ่งได้ระยะทางประมาณ 130 กิโลเมตร ด้วยสมรรถนะระดับนี้และน้ำหนักบรรทุก 3.6 ตัน จึงเหมาะกับการขนส่ง-กระจายสินค้าในระยะรัศมีสั้น ๆ โดยเฉพาะในเขตชุมชนเมือง




หนึ่งในลูกค้ากลุ่มแรก ๆ ของ “ฟูเซอร์ อีแคนเทอร์” คือ บริษัทขนส่งพัสดุ “ยูไนเต็ด พาร์เซิล เซอร์วิส” หรือ “ยูพีเอส” นอกจากนี้ ยังมีองค์กรภาครัฐของเทศบาลนครนิวยอร์กซิตี้ ที่เช่าซื้อรถรุ่นนี้ไปใช้ เพื่อสอดคล้องกับเป้าหมายการลดมลพิษทางอากาศตามพันธกิจที่รัฐบาลท้องถิ่นประกาศเอาไว้

ผู้บริหารของ มิตซูบิชิ ฟูโซ่ เปิดเผยว่า แม้จะมีบริษัทคู่แข่งที่กำลังพัฒนารถบรรทุกพลังงานไฟฟ้าอยู่มากมายหลายรายในขณะนี้ ซึ่งรวมถึงรถบรรทุกไฟฟ้าที่ขับเคลื่อนโดยอัตโนมัติไร้คนขับของ บริษัท เทสลา แต่กล่าวได้ว่า “ฟูโซ่ อีแคนเทอร์” เป็นรถบรรทุกไฟฟ้ารุ่นแรกที่มีการผลิตออกมาในเชิงพาณิชย์ โดยภายในระยะ 2 ปีนับจากนี้ บริษัทจะผลิตออกมาสู่ตลาดจำนวน 500 คัน และตั้งเป้าเพิ่มยอดผลิตเป็น 10,000 คัน ภายในปี 2562 นอกจากตลาดในสหรัฐอเมริกาแล้ว บริษัทยังมีลูกค้าสำหรับรถบรรทุกรุ่นนี้ในโปรตุเกสและญี่ปุ่นด้วย

อีกประเด็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับการเปิดตัวรถบรรทุกรุ่นนี้ คือ บริษัทมีบริการให้เช่าแก่ลูกค้าด้วย โดยภายใต้สัญญาเช่า 2 ปี ลูกค้าจะได้อัตราเช่าที่เดือนละประมาณ 1,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ เพราะยานยนต์ไฟฟ้านั้น มี “แบตเตอรี่” เป็น “หัวใจสำคัญ” การซ่อมบำรุงชิ้นส่วนอื่น ๆ มีน้อย แต่การดูแลแบตเตอรี่เป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจ นอกจากนี้ เมื่อราคาแบตเตอรี่ปรับลดลงมา ผู้เช่าก็จะได้รับการอัปเกรดแบตเตอรี่ให้โดยอัตโนมัติ โดยสนนราคาของ “ฟูโซ่ อีแคนเทอร์” อาจจะแพงกว่ารถบรรทุกเครื่องยนต์ดีเซล แต่ผู้ผลิตมั่นใจว่า ลูกค้าจะสามารถคืนทุนภายในเวลา 2 ปีครึ่ง ถึง 3 ปี เพราะค่าดูแลรักษา, ซ่อมบำรุง และค่าเชื้อเพลิง (ซึ่งกรณีของ ‘แคนเทอร์’ คือ ไฟฟ้า) ถูกกว่ารถบรรทุกที่ใช้เครื่องยนต์และเชื้อเพลิงฟอสซิลเป็นอย่างมาก

หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,298 วันที่ 21-23 ก.ย. 2560