ปั้นสตาร์ตอัพเทียบ‘ฟุกุโอกะ’ ‘ดีอี’ดึง15ประเทศร่วม‘ดิจิทัลไทยแลนด์บิ๊กแบง 2017’

16 ก.ย. 2560 | 13:18 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

ดีอีประกาศความพร้อมจัดงาน “ดิจิทัลไทยแลนด์บิ๊กแบง 2017” ภายใต้คอนเซ็ปต์ “โลกเปิด เราปรับ ประเทศเปลี่ยน” เผยมีกลุ่มสตาร์ตอัพ 15 ประเทศทั่วโลกร่วมงาน ขณะที่ “ทปอ.” จับมือพันธมิตรเตรียมยกระดับเมืองอัจฉริยะต้นแบบ “บางแสน” และ “หาดใหญ่” สู่เมืองในฝันกลุ่มสตาร์ตอัพ เทียบชั้น “ฟุกุโอกะ”

ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอี เปิดเผยว่า ในวันที่ 21-24 กันยายนนี้ กระทรวงได้จัดงาน Digital Thailand Big Bang 2017 งานมหกรรมการแสดงนิทรรศการนานาชาติเทคโนโลยีดิจิตอลที่ใหญ่ที่สุดแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายใต้แนวคิด Digital Transformation Thailand โลกเปิด เราปรับ ประเทศเปลี่ยน

ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ เหตุผลที่จัดงานครั้งนี้ เนื่องจากกระแสของดิจิตอลและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่รวดเร็วนั้น ทำให้ไม่สามารถที่จะอยู่นิ่งได้ จึงต้องมีการปรับตัวเพื่อให้ประเทศไทยเข้าสู่ช่วงเปลี่ยนผ่านด้านดิจิตอล โดยจะเริ่มตั้งแต่ปีนี้และปีหน้าหลังจากนั้นสังคมไทยก็จะเริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิตต่างๆ ด้านดิจิตอล

สำหรับขั้นตอนในการที่จะทำให้สังคมเปลี่ยนผ่านสู่การเป็นสังคมดิจิตอลนั้นเรียกย่อๆ ว่า SIGMA หรือผลรวมของ 5 ด้านเพื่อการบูรณาการประเทศ ซึ่งประกอบด้วย 1. S- Security คือ ไซเบอร์ ซิเคียวริตี ที่จะช่วยปกป้องคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โครงสร้างพื้นฐาน ข้อมูลด้านการเงินและธนาคารต่างๆ 2.I-Infrastructure หรือโครงสร้างพื้นฐานของประเทศที่ช่วยลดความเหลื่อมลํ้า ซึ่งก็คือโครงการเน็ตประชารัฐ 3.G-Government ในรูปแบบดิจิตอลก็คือ e-government ที่จะอำนวยความสะดวกให้กับการทำงานหรือธุรกิจแก่ประชาชนให้สามารถเชื่อมโยงกับภาครัฐได้ง่ายยิ่งขึ้น 4.M-Manpower คือ กำลังคนที่เป็นส่วนสำคัญ โดยทางกระทรวงได้ทำงานร่วมกับทั้งสถานศึกษา ภาครัฐและเอกชนในการพัฒนาบุคลากรไทย 5. A-Application คือ การทำธุรกิจต่างๆ ในสังคมไทยนั้นเปลี่ยนไป ด้วยการนำแอพพลิเคชันต่างๆ เข้ามาช่วยในการทำงาน เพื่อพัฒนาธุรกิจให้มีประสิทธิภาพรวมถึงการสร้างธุรกิจใหม่ให้เกิดขึ้น

MP20-3296-1 สำหรับการนำเทคโนโลยีดิจิตอลเข้ามามีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคม ได้แก่ โครงการ “เน็ตประชา รัฐ” หรืออินเตอร์เน็ตความเร็วสูงให้ครอบคลุมทุกหมู่บ้านในประเทศไทย ซึ่งจะครอบคลุมพื้นที่ 24,700 หมู่บ้านทั่วประเทศภายในปี 2560 ประกอบกับการสร้างเมืองอัจฉริยะ หรือสมาร์ท ซิตี (SMART CITY) โดย 77 จังหวัดในประเทศไทยจะกลายเป็น SMART CITY ภายในระยะเวลา 20 ปี

ด้าน ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิตอล (ดีป้า) กล่าวว่า การจัดงานดังกล่าวจะช่วยสร้างขีดความสามารถทางการแข่งขันของไทยและกระตุ้นให้เกิดความสนใจที่จะนำไปสู่การลงทุนด้านดิจิทัลของบริษัทชั้นนำด้านเทคโนโลยีดิจิตอลทั้งในและต่างประเทศ

นอกจากนี้ Global Entrepreneurship Network (GEN) องค์กรไม่แสวงหากำไรที่ทำหน้าที่สร้างเครือข่ายของสตาร์ตอัพใน 165 ประเทศทั่วโลกซึ่งมีนายโจนาธาน ออร์ทแมนส์ (Jonathan Ortmans) ประธานและผู้ร่วมก่อตั้งได้ตอบรับมาร่วมงานและได้ควงสตาร์อัพมากกว่า 15 ประเทศทั่วโลกร่วมแสดงออกบูธ สำหรับงานดังกล่าวจะจัดขึ้นในวันที่ 21-24 กันยายน 2560 นี้ ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-2 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี บนพื้นที่กว่า 4 หมื่นตารางเมตร
แบนเนอร์ชั่วโมงฐานเศรษฐกิจ01-3-1
ขณะที่รศ.ดร.สมฤกษ์ จันทรอัมพร ประธานกรรมการวิจัยและนวัตกรรม ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) เปิดเผยว่า โครงการ Smart City Innovation Hubs ภายใต้ โครงการ Innovation Hubs เพื่อสร้างเศรษฐกิจฐานรากนวัตกรรมของประเทศตามนโยบายประ เทศไทย 4.0 เกิดขึ้นภายใต้แนวคิดความร่วมมือของสถาบันการศึกษาในที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ที่จะส่งเสริมและกระตุ้นให้นำงานวิจัยและพัฒนาด้านเมืองอัจฉริยะออกมาเป็นผู้ประกอบการใหม่ทางด้านเมืองอัจฉริยะ ซึ่งจะทำงานใกล้ชิดกับSmart City Innovation Hubs ตามภูมิภาคต่างๆ ในการคัดสรรนวัตกรรมด้านเมืองอัจฉริยะ สนับสนุนให้ผู้ประกอบการใหม่ มีความเข้มแข็งและเพิ่มอัตราประสบความสำเร็จในธุรกิจ โดยมีระยะเวลาดำเนินโครงการ 5 ปี เริ่มตั้ง แต่ปี 2560-2564 โดยมีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เป็นผู้ดำเนินโครงการ

ทั้งนี้ โครงการได้ร่วมมือกับ “บางแสน” จ.ชลบุรี และ “หาด ใหญ่” จ.สงขลา เป็นเมืองต้นแบบเมืองอัจฉริยะ เนื่องจากเป็นเมืองที่มีการเจริญเติบโต ประกอบกับโครงการมีเครือข่ายนักวิจัยในพื้นที่ สามารถสร้างเป็นเมืองต้นแบบทางนวัตกรรมได้ โดยบางแสนและหาดใหญ่จะกลายเป็นเมืองในฝันของ Star up ที่จะเป็นเมืองไฮเทคโดยอัตโนมัติ เหมือนกับเมืองฟุกุโอกะของประเทศญี่ปุ่น หรือบางเมืองในต่างประเทศที่สตาร์ตอัพเข้ามา

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,296 วันที่ 14 - 16 กันยายน พ.ศ. 2560
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว-9-1