‘คาไวอิ’ จับมือเทสลา ปั้นเกาะพลังงานสะอาด

24 มี.ค. 2560 | 13:00 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

ชื่อของ เทสลา (Tesla) ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า แบตเตอรี่ และอุปกรณ์กักเก็บกระแสไฟฟ้าสำหรับครัวเรือน เป็นที่รู้จักมากขึ้นเมื่อบริษัทแสดงความสนใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทย ปัจจุบัน เทสลา ซึ่งเป็นบริษัทอเมริกัน มีโครงการลงทุนขนาดใหญ่กำลังเป็นที่จับตาบนเกาะคาไวอิ (Kauai) หนึ่งในเกาะใหญ่ของหมู่เกาะฮาวาย โครงการดังกล่าวหากก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดดำเนินการตามเป้าหมาย ก็จะสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ป้อนความต้องการใช้ไฟฟ้าของทั้งเกาะได้ตลอด 24 ชั่วโมง

MP31-3246-2 อีลอน มัสค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเทสลา ให้นิยามว่า งานของเทสลาคือการผลิตกระแสไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์และกักเก็บไฟฟ้านั้นไว้ใช้ในยามที่ต้องการ เป้าหมายในระยะยาวนั้น เขาหวังว่าบริษัทจะเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนผ่านที่สำคัญนั่นคือ การให้โลกเปลี่ยนไปใช้พลังงานหมุนเวียนที่ไม่มีวันหมด ซึ่งหลักๆก็คือพลังงานจากแสงแดด เพราะเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและดูจะเป็นพลังงานที่ไม่มีวันหมด จึงให้ความมั่นคงด้านพลังงานอย่างยั่งยืนมากกว่าพลังงานจากถ่านหินและปิโตรเลียม

สำหรับโครงการบนเกาะคาไวอินั้น เป็นโครงการโซลาร์ฟาร์มขนาดใหญ่ ประกอบด้วยแผงโซลาร์เซลล์จำนวน 54,978 แผง กำลังผลิตกระแสไฟฟ้า 13 เมกะวัตต์ นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์กักเก็บพลังงานไฟฟ้า "พาวเวอร์แพ็ค" จำนวน 272 ชุด เอาไว้ใช้ในการบริหารจัดการและจ่ายกระแสไฟ

MP31-3246-3 โครงการนี้ เทสลาเป็นคู่สัญญากับสหกรณ์การไฟฟ้าแห่งเกาะคาไวอิ (เคไอยูซี) โดยเทสลาเป็นผู้ผลิตไฟฟ้าจำหน่ายให้แก่เคไอยูซี ระยะสัญญา 20 ปี โดยเคไอยูซีตกลงรับซื้อไฟฟ้าในราคา 13.9 เซ็นต์ต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง (ต่อหน่วย) เดวิด บิสเซิล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเคไอยูซีกล่าวว่า นี่คือโครงการผลิตและกักเก็บพลังงานไฟฟ้าไว้ใช้ ซึ่งขนาดความสามารถในการกักเก็บไฟฟ้าของโครงการนี้นับว่าใหญ่ที่สุดในโลก เชื่อว่าโครงการนี้จะช่วยลดการใช้เชื้อเพลิงจากปิโตรเลียมแลถ่านหินได้ถึง 1.6 ล้านแกลลอนต่อปีเลยทีเดียว

ภายในปี 2045 หรือในอีก 28 ปีข้างหน้า มลรัฐฮาวายของสหรัฐอเมริกา มีเป้าหมายปรับเปลี่ยนมาใช้พลังงานหมุนเวียน หรือพลังงานสะอาด 100% เต็ม โครงการบนเกาะคาไวอิจึงถือเป็นอีกก้าวสำคัญที่มุ่งหน้าไปสู่เป้าหมายดังกล่าว

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,246 วันที่ 23 - 25 มีนาคม พ.ศ. 2560