ทุนไทย-ข้ามชาติรุกโลจิสติกส์เขย่า!ไปรษณีย์ไทย

13 มี.ค. 2560 | 11:00 น.
เป็นเพราะธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ (การซื้อ-ขายสินค้าผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์) ในปีที่ผ่านมามีมูลค่าสูงถึง 2.52 ล้านล้านบาท ทำให้ธุรกิจโลจิสติกส์ ขยายตัวเพิ่มขึ้นตามลำดับ ส่งผลให้บรรดากลุ่มทุนไทย และ กลุ่มทุนข้ามชาติ เข้ามาปักธงหวังเปิดศึกกับเจ้าตลาดกับ “ไปรษณีย์ไทย”

 เอสซีจี เปิดศึก

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจน ขณะนี้ คือ เอสซีจี ซึ่งได้ร่วมลงทุนกับบริษัท ยามาโตะ เอเชีย จำกัด จัดตั้งบริษัท เอสซีจี ยามาโตะเอ็กซ์เพรส จำกัด ให้บริการธุรกิจขนส่งภายใต้ชื่อเอสซีจี เอ็กซ์เพรส (ดูตารางประกอบ) โดยเป้าหมายแรก ส่งพัสดุย่อยในเขตกรุงเทพมหานคร และ ปริมณฑล ก่อนขยายไปยังตลาดต่างจังหวัดอย่างเต็มตัว

ไม่เพียงเท่านี้ เอสซีจี เอ็กซ์เพรส เตรียมเปิดสาขาย่อยให้ครบ 100 แห่ง โดยใช้งบประมาณทั้งสิ้น 633 ล้านบาทในรูปแบบศูนย์บริการเอสซีจี เอ็กซ์เพรส (Service Point) และตัวแทนรับพัสดุเอสซีจี เอ็กซ์เพรส (Service Agent) เป็นต้น

สำหรับรูปแบบบริการมีด้วยกัน 4 รูปแบบคือ 1.บริการขนส่งพัสดุย่อยแบบเร่งด่วนถึงบ้าน หรือ ทัค-คิว-บิง (TA-Q-BIN) จัดส่งถึงปลายทางในวันถัดไป อัตราค่าบริการขนส่งขนาดกล่องไซซ์ 40 เริ่มต้นที่ 40 บาท ไซซ์ใหญ่สุด 160 คิดราคา 270 บาท , 2. บริการส่งเอกสารหรือพัสดุภัณฑ์ด่วนระหว่างบริษัทถึงบริษัท (DOCUMENT TA-Q-BIN), 3.บริการเก็บเงินปลายทาง (TA-Q-BIN COLLECT) และ 4.บริการขนส่งพัสดุแบบควบคุมอุณหภูมิ (COOL-TA-QBIN)

“เพราะแนวโน้มและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปส่งผลให้ธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ เติบโตส่งผลให้ธุรกิจบริการส่งด่วนในประเทศเติบโตตามไปด้วย จึงเป็นโอกาสทางธุรกิจ เอสซีจี จึงได้ร่วมทุนกับกลุ่มยามาโตะ เอเชีย ซึ่งให้บริการขนส่งภายใต้ชื่อ “แมวดำ" มาก่อนมาบริหารจัดการร่วมกันภายใต้แนวคิด “Deliver Your Happiness” นั่นคือคำให้สัมภาษณ์ของ นิธิ ภัทรโชค ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่-ตลาดในประเทศ ธุรกิจ เอสซีจี ซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง

 ใช้“แอพ” สร้างรายได้

ไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงไป นอกจากการทำธุรกิจบนโลกออนไลน์แล้วยังมีธุรกิจที่ทำผ่านแอพพลิเคชัน จากเดิมการรับ-ส่งสินค้าเป็นแบบดิสตริบิวเตอร์รับส่งภายใน 1-2 วัน ปัจจุบันรูปแบบสินค้าออนดีมานด์ กำลังเข้ามามีบทบาท โดยใช้ “แอพพลิเคชัน” เป็นตัวต่อยอดธุรกิจ

ไม่ว่าจะเป็น “แกร็บ”(Grab) และ สกู๊ตตาร์ ใช้อาวุธของแอพพลิเคชัน สร้างธุรกิจจนได้รับความนิยมในปัจจุบัน ขณะที่ “สกู๊ตตาร์” เป็นแมสปัจจุบันมีผู้ดาวน์โหลดไปใช้งานแล้วกว่าหมื่นราย

“สกู๊ตตาร์ เป็นแอพพลิเคชันเมสเซนเจอร์ออนไลน์ ผู้ใช้สามารถสั่งสินค้าผ่านแอพพลิเคชัน ซึ่งมีเมสเซนเจอร์ ที่ให้บริการกว่า 1,000 คัน เพื่อทำหน้าที่รับส่ง-เอกสารให้กับลูกค้า”

นอกจากแกร็บ และ สกู๊ตตาร์ แล้วปัจจุบัน “ลาล่ามูฟ” ให้บริการผ่านแอพ รับ-ส่งสินค้าเช่นเดียวกัน โดยมีรถให้บริการ 3 รูปแบบ คือ มอเตอร์ไซค์ รถกระบะ และรถยนต์ 5 ประตู ค่าบริการของมอเตอร์ไซค์ราคาเริ่มต้น 48 บาท จากนั้นคิดค่าบริการตามระยะทางที่กิโลเมตรละ 7.2 บาท ไม่จำกัดจำนวนชิ้น แต่จำกัดเรื่องขนาด และน้ำหนัก สามารถส่งสินค้าถึงมือผู้รับได้ภายใน 1 ชั่วโมง

ปัจจุบัน ลาล่ามูฟ ให้บริการในประเทศฮ่องกง-ฟิลิปปินส์ และ สิงคโปร์ เป็นต้น รูปแบบบริการแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มลูกค้าธุรกิจ SMEs หรือขายของออนไลน์ มีสัดส่วน 60% และลูกค้าทั่วไปที่ใช้บริการรับส่งสินค้า หรือฝากซื้อของ สัดส่วน 40%สามารถขนส่งสินค้าขนาดไม่เกิน 20 กก.ด้วยรถมอเตอร์ไซค์ ขนส่งสินค้าขนาดไม่เกิน 100 กก.ได้ด้วยรถ 5 ประตู หรือขนาดไม่เกิน 1,000 กก.ด้วยรถกระบะ ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ให้คุณสามารถใช้บริการขนส่งตอนไหนก็ได้ตามความต้องการ มีประกันสินค้าระหว่างขนส่งสูงสุด 7,000 บาท

 ปณทชู “ว+1”

สำหรับ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด หรือ ปณท แม้จะมีจำนวนสาขา 1,300 แห่งทั่วประเทศ แต่ในเมื่อมีคู่แข่งทั้งในไทย และต่างประเทศ เข้ามาบุกตลาด ปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้ประกอบการเหล่านี้ต้องเข้ามาแย่งส่วนแบ่งการตลาด

แม้ ปณทพยายามปรับรูปแบบทั้งเทคโนโลยี และ รูปแบบการส่งอีเอ็มเอสแบบว+1 (ส่งวันนี้ไม่ว่าจะกี่โมงปลายทางได้รับของในวันรุ่งขึ้น) รวมไปถึงการเปิดแอพพลิเคชัน ภายใต้ชื่อ Prompt Post เป็นแอพพลิเคชันฝากส่ง-ล่วงหน้า และ Messenger Post ลูกค้าสามารถเรียกใช้บริการรับของฝากและส่งล่วงหน้า เพื่อเชื่อมผู้ประกอบการทางด้านอี-คอมเมิร์ซ ที่จำหน่ายสินค้าผ่านไอจี และเฟซบุ๊ก โดยจะนำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาใช้บริการเพิ่มมากขึ้น และบริการกล่องพร้อมส่ง ราคาเริ่มต้นใบละ 40 บาท บวกเพิ่มปริมาณน้ำหนัก เป็นต้น

“มีคู่แข่งเข้ามาในตลาดเราอย่าไปกลัว เราแข่งด้วยบริการ แม้คู่แข่งจะรุกหนักตลาดกรุงเทพฯ แต่ไปรษณีย์ไทยมีศูนย์บริการทั่วประเทศกว่า 1,300 แห่ง” เป็นคำสัมภาษณ์ของ นางสมร เทิดธรรมพิบูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ ของ ปณท

แม้ ปณทจะปรับตัวเพื่อรับกับการแข่งขันกับผู้ประกอบการรายใหม่ จากเดิมที่เป็นยักษ์โลจิสติกส์ ผูกขาดแต่เพียงรายเดียว เมื่ออุตสาหกรรมถึงจุดเปลี่ยนเข้าสู่สังคมดิจิตอล เพราะฉะนั้น ปณทต้องพลิกตำราทุกรูปแบบเพี่อรักษาความเป็นผู้นำในโลจิสติกส์

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,243 วันที่ 12 - 15 มีนาคม พ.ศ. 2560