อาร์ทีบีฯกางแผนครึ่งปีหลัง เสริมทัพหูฟัง True Wireless พรีเมี่ยม

12 ก.ย. 2565 | 10:06 น.

อาร์ทีบีฯ ส่งหูฟัง True Wireless ระดับพรีเมี่ยมรุ่นใหม่ “Jabra Elite 5” ลุยตลาดครึ่งปีหลัง โดดเด่นด้วยระบบตัดเสียงรบกวนแบบ Hybrid ANC พร้อมตอบสนองทุกจังหวะชีวิตของคนยุคดิจิทัล

นายบรรพต วัฒนสมบัติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาร์ทีบี เทคโนโลยี จำกัด เปิดเผยว่า การนำเสนอนวัตกรรมหูฟังที่มีคุณภาพและทันสมัยหลากหลายแบรนด์ให้กับผู้บริโภคทุกกลุ่ม ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญที่อาร์ทีบีฯยึดมั่นมาโดยตลอด ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยผลักดันให้กลุ่มธุรกิจหูฟังของอาร์ทีบีฯสามารถเติบโตอย่างแข็งแกร่ง แม้ในช่วงสองปีที่ผ่านมาจะต้องเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจก็ตาม โดยคาดว่าสิ้นปีนี้ยอดขายน่าจะแตะ 1 พันล้านบาท โดยเติบโตขึ้นเฉลี่ยปีละ 40% จากปี 2563

อาร์ทีบีฯกางแผนครึ่งปีหลัง เสริมทัพหูฟัง True Wireless พรีเมี่ยม

สำหรับภาพรวมตลาดหูฟังในปี 2564 และต้นปี 2565 ถือเป็นการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของหูฟังไร้สาย True Wireless ซึ่งมีแบรนด์ต่างๆนำเสนอสินค้าในกลุ่มนี้มากมาย โดบ Jabra เล็งเห็นว่า ปัจจุบันผู้บริโภคมีแนวโน้มค่าเฉลี่ยในการครอบครองหูฟัง จากปี 2560 ค่าเฉลี่ยต่อคนอยู่ที่ 1-2 เครื่อง ปัจจุบันเป็นคนละประมาณ 2-3 เครื่อง เพื่อตอบโจทย์การใช้งานในรูปแบบที่แตกต่างกันไป

อย่างไรก็ตามสำหรับหูฟังไร้สาย True Wireless ยังมีช่องว่างสำหรับหูฟังที่มีฟังก์ชั่นครบครัน พร้อมรองรับความต้องการผู้บริโภคที่มีต้องมีกิจกรรมที่ต้องทำหลากหลาย สามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตแบบพื้นฐานได้อย่างครบถ้วน ดังนั้น เพื่อเป็นการตอบรับความต้องการของตลาด อาร์ทีบีฯ จึงได้เปิดตัวนวัตกรรมหูฟังไร้สาย True Wireless จากแบรนด์ Jabra (จาบร้า) อย่าง “Jabra Elite 5” เข้ามาเสริมทัพตลาดในช่วงครึ่งปีหลังเพื่อเจาะกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่

อาร์ทีบีฯกางแผนครึ่งปีหลัง เสริมทัพหูฟัง True Wireless พรีเมี่ยม

ในขณะที่แผนการทำตลาดหูฟังครึ่งปีหลังของอาร์ทีบีฯ จะผนึกกำลังกับพาร์ทเนอร์ เพื่อบุกตลาดออฟไลน์และออนไลน์อย่างเต็มรูปแบบ โดยเน้นการทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์สำคัญๆ ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ของคู่ค้าให้ครอบคลุมทุกแพลตฟอร์ม เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่เป็นเป้าหมายในวงกว้าง เพราะในช่วงที่ผ่านมาผู้บริโภคเข้ามาใช้บริการช่องทางออนไลน์มากขึ้น และคู่ค้าของอาร์ทีบีฯ ก็มีนโยบายที่จะทำให้การขายออนไลน์เติบโตอย่างยั่งยืน

นางสาววิมลมาลย์  วัฒนสมบัติ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท อาร์ทีบี เทคโนโลยี จำกัด กล่าวว่าในปี 2565 นี้ “Jabra” (จาบร้า) มีการปรับภาพลักษณ์ของแบรนด์ใหม่ให้เชื่อมโยงกับผู้บริโภครุ่นใหม่มากขึ้น ภายใต้คอนเซ็ปต์ Technology for Life’s New Rhythm เพราะในช่วงสองปีที่ผ่านมาไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคเปลี่ยนไป เนื่องจากมีเทคโนโลยีเข้ามาเกี่ยวข้องมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการทำงานทางไกล ประชุมออนไลน์ การรับชมมีเดีย และความบันเทิงต่างๆ หรือแม้แต่การออกกำลังกาย

 

ดังนั้น Jabra จึงพยายามทำให้แบรนด์สามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนในยุคดิจิทัลไลฟ์ได้อย่างแท้จริง โดย Jabra Elite 5 ถือเป็นจุดเริ่มต้นของคอนเซ็ปต์ดังกล่าวเป็นอย่างดี เพราะหูฟังรุ่นนี้มาพร้อมฟังก์ชันที่ครบครัน ตอบโจทย์เทรนด์การใช้ชีวิตของคนในยุคดิจิทัลอย่างสมบูรณ์แบบ

 

สำหรับหูฟัง Jabra Elite 5 ถือเป็นรุ่น Flagship ของปี 2565 เพราะเป็นหูฟังไร้สายTrue Wireless ระดับพรีเมียมที่มาพร้อมเทคโนโลยีที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ สามารถใช้งานได้หลากหลาย อาทิ การทำงาน การออกกำลังกาย หรือการรับชมความบันเทิง ดังนั้น Jabra Elite 5 จึงเน้นการสวมใส่ที่สบาย โดดเด่นด้วยระบบตัดเสียงรบกวนแบบ Hybrid ANC ทั้ง Feed Forward และ Feed Backward

 

มาพร้อมไมโครโฟน 6 ตัว ที่สามารถตัดเสียงรบกวนได้ทั้งภายในและภายนอก รวมถึงช่วยให้ผู้ใช้มีสมาธิในขณะทำงานเป็นอย่างดี พร้อมให้คุณดื่มด่ำกับเพลงโปรดและการรับชมภาพยนตร์ในเวลาพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ ยังมีไดร์เวอร์ลำโพงขนาด 6 มม. ที่รองรับ Codec aptX, AAC และ SBC ช่วยให้คอเพลงเต็มอิ่มไปกับเสียงเพลงในทุกสถานการณ์

 

ในขณะเดียวกันยังมาพร้อมฟังก์ชัน HearThrough ที่สามารถปรับระดับได้ ทำให้ได้ยินเสียงต่างๆ รอบตัวอย่างชัดเจน ยิ่งไปกว่านั้นตัวหูฟังได้รับการออกแบบมาให้มีขนาดกะทัดรัด รับกับใบหู ทำให้ไม่รู้สึกอึดอัดจากการใส่หูฟังแบบ in-ear ทั้งยังมาพร้อมมาตรฐาน IP55 จึงสามารถทนต่อละอองน้ำและฝุ่นได้ รวมถึงสามารถใส่ออกกำลังกายทั่วไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งเสียงต่างๆ ได้ด้วยตัวเองผ่านแอปพลิเคชัน Jabra Sound+ บนมือถือได้อีกด้วย ในขณะที่ระบบ Hand-Free Voice Assistant ทำให้สามารถสั่งงานด้วยเสียงได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว

 

ที่สำคัญมาพร้อม Bluetooth Multipoint ช่วยให้หูฟังใช้งานได้ 2 อุปกรณ์พร้อมกัน ทำให้สามารถสลับทำงานทั้งฟังเพลงหรือคุยโทรศัพท์ได้อย่างง่ายดาย อีกทั้ง Google Fast Pair และ Microsoft Swift Pair ที่อยู่ในหูฟังช่วยให้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ผ่านบลูทูธได้อย่างรวดเร็ว มาพร้อมแบตเตอรี่ที่รองรับการใช้งานได้ยาวนานต่อเนื่อง 7 ชั่วโมง เมื่อเปิด ANC และสามารถใช้งานได้นานถึง 28 ชั่วโมงเมื่อใช้ร่วมกับตลับชาร์จ

 

พร้อมรองรับการชาร์จเร็ว โดยชาร์จเพียงแค่ 10 นาที สามารถฟังเพลงได้นานถึง 60 นาทีเลยทีเดียว มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Titanium Black และ Gold Beige พร้อมวางจำหน่ายในราคา 5,290 บาท ทั้งนี้ สำหรับลูกค้าที่ซื้อ Jabra Elite 5 200 ท่านแรก รับฟรีเคสหูฟัง DIY ที่มีให้เลือก 3 แบบ เพื่อให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งาน โดยส่งหลักฐานการซื้อได้ที่ไลน์ @GadgetByRTB หรือรับฟรีทันทีเมื่อซื้อหูฟัง Jabra Elite 5 ที่ Digital Lab สยามดิสคัฟเวอรีเท่านั้น