zero-carbon

“ฮอนด้า” ลุยความเป็นกลางคาร์บอน ใช้พลังงานสะอาด 100%

ฮอนด้า ย้ำเป้าหมายขับเคลื่อนองค์กรสู่การปล่อยก๊าซคาร์บอนเป็นศูนย์ ภายในปี พ.ศ. 2593 ลุยพัฒนาเทคโยโลยีอีวี มีแผนผลิตรถยนต์ไฟฟ้ามากกว่า 2 ล้านคันต่อปี ตั้งเป้าใช้พลังงานสะอาด 100 % ภายในปี 2593 ติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปบนหลังคาโรงงาน ลดปล่อย CO2 ตั้งแต่ต้นทาง

บริษัท ฮอนด้า ได้ตระหนักถึงการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อจำกัดการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิเฉลี่ยทั่วโลก โดยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนจากกิจกรรมขององค์กรและตลอดวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ ภายใต้การดำเนินงาน Triple Action to ZERO ใน 3 ประการ ได้แก่ ความเป็นกลางของคาร์บอน พลังงานสะอาด และการหมุนเวียนทรัพยากร โดยมีเป้าหมายปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593

การขับเคลื่อนในการเดินทางสู่เป้าหมาย Carbon Neutrality ได้พัฒนาเทคโนโลยีลํ้าสมัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาใช้ในกระบวนการผลิต รวมถึงนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มาพร้อมเทคโนโลยีอันลํ้าสมัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อย่างเทคโนโลยีการขับเคลื่อน อี : เอชอีวี (e : HEV) ระบบฟูลไฮบริดประสิทธิภาพสูง เป็นต้น

ฮอนด้า ได้ตั้งเป้าหมายยอดขายทั่วโลกสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าที่ 15% สำหรับรถจักรยานยนต์ 30% สำหรับรถยนต์ และ 36% สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ใช้พลังงานภายในปี พ.ศ. 2573 และลดอัตราความเข้มข้นของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลง 34.0% สำหรับรถจักรยานยนต์ 27.2% สำหรับรถยนต์ และ 28.2% สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ใช้พลังงาน (เมื่อเทียบกับปีงบประมาณ 2563)

“ฮอนด้า” ลุยความเป็นกลางคาร์บอน ใช้พลังงานสะอาด 100%

ทั้งนี้ ฮอนด้ามีแผนผลิตรถยนต์ไฟฟ้ามากกว่า 2 ล้านคันต่อปีภายในปี ค.ศ. 2030 และตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนการขาย EV และ FCEV เป็น 100% ทั่วโลกภายในปี ค.ศ.2040 นอกจากนี้ ยังมีแผนให้บริการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า เช่น การชาร์จไฟที่บ้าน มี Honda SmartCharge™ ซึ่งเป็นบริการชาร์จ EV ที่มีให้บริการในอเมริกาเหนือ และฮอนด้ากำลังวางแผนที่จะเปิดตัวธุรกิจพลังงานที่ใช้ความสามารถในการจ่ายพลังงานของอีวี ในฝั่งของการชาร์จไฟในที่สาธารณะ โดยการร่วมมือกับผู้ให้บริการเครือข่ายการชาร์จที่สะดวกและเชื่อถือได้

ส่วนจักรยานยนต์ไฟฟ้า ตั้งเป้าเปิดตัวรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกรวม 10 รุ่น หรือมากกว่าภายในปี ค.ศ.2025 และตั้งเป้ายอดขายปี ค.ศ.2030 ไว้ที่ 3.5 ล้านคัน หรือเทียบเป็นสัดส่วน 15% ของยอดขายจักรยานยนต์ทั้งหมด

ขณะที่การใช้พลังงานสะอาด ฮอนด้า มีเป้าหมายใช้พลังงานปลอดคาร์บอน 100% ภายในปี 2593 ทั้งในระหว่างการใช้ผลิตภัณฑ์และในกิจกรรมขององค์กร โดยจะเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียนทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปี 2565 การดำเนินธุรกิจของฮอนด้าทั่วโลกใช้พลังงานหมุนเวียนราว 804 กิกะวัตต์-ชั่วโมงที่ได้มาจาก พลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานลม เป็นในส่วนของภูมิภาคเอเชีย & โอเชียเนีย ราว 107 กิกะวัตต์-ชั่วโมง ในปี 2566 ฮอนด้าทั่วโลก เพิ่มขึ้นมาที่ 1,498 กิกะวัตต์-ชั่วโมง ปัจจุบันสามารถผลิตพลังงานจากพลังงานหมุนเวียนได้แล้วกว่า 100 เมกะวัตต์

นอกจากนี้ ยังกำหนดเป้าหมายการใช้วัสดุที่ยั่งยืน 100% ภายในปี 2593 และส่งเสริมการวิจัยทางเทคโนโลยีเกี่ยวกับวัสดุที่สามารถนำมาใช้ใหม่ รีไซเคิล และชีวมวลของชิ้นส่วนและวัสดุทั้งหมดที่ประกอบขึ้นเป็นผลิตภัณฑ์ และยังตั้งเป้าหมายที่จะลดการผลิตของเสียโดย รวมถึงลดการใช้นํ้าในอุตสาหกรรมลงให้ได้ 14.5% เมื่อเทียบกับปริมาณของเสียและการใช้นํ้า ในธุรกิจตามปกติในทุกกิจกรรมขององค์กร ภายในปีงบประมาณ 2574

นายฮิเดโอะ คาวาซากะ ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า สำหรับฮอนด้าในไทย โรงงานผลิตรถยนต์ที่ จ.ปราจีนบุรี และพระนครศรีอยุธยา ทุกขั้นตอนได้เปลี่ยนทรัพยากรธรรรมชาติและนำเทคโนโลยีมาใช้ในกระบวนการผลิตเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด พร้อมกันนี้ ยังได้ติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปที่โรงงานฮอนด้าอยุธยา และปราจีนบุรีในเฟส 1 รวม 5 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นโรงงานฮอนด้าอยุธยา ติดตั้ง 2.5 เมกะวัตต์ และโรงงานฮอนด้าปราจีนบุรี ติดตั้ง 2.5 เมกะวัตต์ เพื่อนำกระแสไฟฟ้าที่ได้จากพลังงานสะอาดไปใช้ในกระบวนการผลิต รวมถึงใช้เป็นไฟส่องสว่างในช่วงกลางคืนแทนการใช้พลังงานไฟฟ้า สามารถลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 7,862 ตันต่อปี หรือเทียบเท่าการปลูกต้นไม้ถึง 875,539 หรือคิดเป็นการปลูกต้นไม้มากกว่า 8,800 ไร่ (ข้อมูลอ้างอิงปี พ.ศ. 2564)

ส่วนในปี 2566 ได้ติดตั้งในเฟส 2 ครอบคลุมการใช้ไฟฟ้าทั้ง 2 โรงงาน แบ่งเป็นโรงงานฮอนด้าอยุธยา ติดตั้ง 8.6 เมกะวัตต์ และโรงงานฮอนด้าปราจีนบุรี ติดตั้ง 3.8 เมกะวัตต์ รวมการติดตั้งทั้ง 2 เฟส กว่า 17 เมกะวัตต์

สำหรับการใช้นํ้าในอุตสาหกรรม ฮอนด้าได้จัดทำระบบบำบัดนํ้าเสียที่ทันสมัยทั้ง 2 โรงงาน ที่ปราจีนบุรี และอยุธยา เพื่อปรับเปลี่ยนนํ้าเก่าให้มีคุณภาพพร้อมที่จะหมุนเวียนกลับมาใช้ใหม่เพื่อประโยชน์สูงสุด อาทิ การนำนํ้าที่บำบัดได้คุณภาพแล้วมาใช้รดนํ้าต้นไม้ในโรงงาน และอีกส่วนหนึ่งนำไปผลิตนํ้า RO (RO recycle water) เพื่อใช้ในกระบวนการหล่อเย็นเครื่องจักร (Cooling Tower)

นอกจากนี้ ยังมีการนำพลังงานนํ้ามาช่วยในการขับเคลื่อนระบบสายพานลำเลียงชิ้นส่วน (Water Conveyor) ในสายการผลิตช่วยลดแรงงานคนในการขับเคลื่อนเครื่องจักร โดยนํ้าที่ถูกปล่อยจากโรงงานฮอนด้าจะเป็นนํ้าดีที่ผ่านการบำบัดแล้วไม่ส่งผลกระทบต่อชุมชน