ไทยเข้าสู่ฤดูฝุ่น เตือนกทม.วันที่ 5-12 ม.ค.นี้รับมือ PM2.5

05 ม.ค. 2567 | 08:42 น.

กรมควบคุมมลพิษ ประกาศไทยเข้าสู่ฤดูฝุ่น พร้อมเตือน คนกรุงเทพ-ปริมณฑล เตรียมรับมือ PM2.5 วันที่ 5-12 มกราคมนี้

สถานการณ์ฝุ่น PM2.5 แนวโน้มพุ่ง ล่าสุด ร้อยเอก รชฏ พิสิษฐบรรณกร ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และนางสาวปรีญาพร สุวรรณเกษ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ได้ออกมาประกาศว่า ไทยเข้าสู่ฤดูฝุ่น พร้อมคุมเข้มทุกหน่วยงาน เพื่อควบคุมต้นตอ


นางสาวปรีญาพร สุวรรณเกษ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ(คพ.) กล่าวว่า สถานการณ์คุณภาพอากาศของประเทศไทย ขณะนี้กำลังเข้าสู่ฤดูฝุ่น ซึ่งมีผลมาจากความกดอากาศสูง อัตราการระบายฝุ่นต่ำ ลมสงบทำให้เกิดการสะสมของฝุ่น สถานการณ์วันที่ 5 มกราคม 2567 พื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง ไปจนถึง เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ในขณะที่ภาคเหนือ ภาคอีสานโดยรวมอยู่ในเกณฑ์ที่ดี

 

สำหรับแนวโน้มสถานการณ์ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคเหนือตอนล่าง ต้องเฝ้าระวังในช่วงระหว่างวันที่ 5-12 มกราคม 2567 เนื่องจากอัตราการระบายอากาศในพื้นที่ที่ค่อนข้างต่ำ ซึ่งแหล่งกำเนิดหลักที่มีผลต่อสถานการณ์ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ได้แก่ การจราจรในพื้นที่ และแหล่งกำเนิดจากนอกพื้นที่ ได้แก่ ฝุ่นจากการเผาในที่โล่งในจังหวัดปริมณฑลและโดยรอบ 

ไทยเข้าสู่ฤดูฝุ่น เตือนกทม.วันที่ 5-12 ม.ค.นี้รับมือ PM2.5

สถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5

 

นางสาวปรีญาพร กล่าวเพิ่มเติมว่า การควบคุมแหล่งกำเนิด ต้องกวดขันดูแลการตรวจวัดควันดำจากรถยนต์ดีเซล ฝุ่นจากเขตก่อสร้าง และการระบายอากาศเสียจากโรงงานอุตสาหกรรม รวมทั้ง อิทธิพลจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้การเผาในที่โล่งจากพื้นที่ต้นลม ส่งผลให้สถานการณ์ในพื้นที่ท้ายลมทวีความรุนแรงได้ยิ่งขึ้น

 

โดยระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2566 ถึง 3 มกราคม 2567 พบจุดความร้อนสะสมในประเทศไทยทั้งสิ้น 1,207 จุด คิดเป็นสัดส่วนในพื้นที่นาข้าว 38% พื้นที่ไร่อ้อย 13% พื้นที่ไร่ข้าวโพด 6% พื้นที่ป่า 11% พื้นที่เกษตรอื่นๆ 17% และพื้นที่อื่น 17% ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องควบคุมจัดการ

 

นอกจากนี้ คพ. ในฐานะศูนย์สื่อสารการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ ได้มีการซักซ้อมแนวปฏิบัติงานในระดับพื้นที่ 76 จังหวัด ถึงแนวปฏิบัติการด้านสื่อสารเพื่อให้ข้อมูลแก่ประชาชนผ่านช่องทางต่างๆและการประสานงานกับ ศูนย์ปฏิบัติการระดับจังหวัด หน่วยงานกำกับดูแลแหล่งกำเนิดในการกำกับดูแลกวดขันและเฝ้าระวังการเผาในที่โล่ง 

 

ทั้งนี้ เนื่องจากสถานการณ์ฝุ่นละอองมีค่าเกินมาตรฐานในหลายพื้นที่ ดังนั้น ในช่วงสถานการณ์ที่ค่าฝุ่นละอองมีค่าสูงนั้น ประชาชนควรฝ้าระวังสุขภาพ ลดเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง ถ้ามีอาการทางสุขภาพ ควรปรึกษาแพทย์ตามแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข โดยประชาชนสามารถติดตามสถานการณ์ จากแอปพลิเคชัน Air4thai และแฟนเพจศูนย์สื่อสารการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ เพื่อใช้ประกอบการดูแลตอนเอง และวางแผนการดำรงชีวิตโดยเฉพาะกิจกรรมกลางแจ้งต่อไป 

นางสาวปรีญาพร สุวรรณเกษ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ(คพ.)

ร้อยเอก รชฏ พิสิษฐบรรณกร กล่าวว่า ได้เร่งรัด กำชับ เน้นย้ำให้หน่วยงานดำเนินมาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ปี 2567 อย่างต่อเนื่อง โดยกำหนดพื้นที่มุ่งเป้า 11 ป่าอนุรักษ์ 10 ป่าสงวน พื้นที่เกษตรเผาไหม้ซ้ำซาก และการควบคุมฝุ่นละอองในเขตเมือง ซึ่งเป็นการควบคุมที่ต้นตอของฝุ่น และในต้นปีนี้รัฐบาล ได้ปรับกลยุทธ์การสื่อสารด้วยการให้ข้อมูลที่ชัดเจน ตรงประเด็น

 

"ได้จัดตั้งศูนย์สื่อสารการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ เพื่อสื่อสาร แจ้งเตือนสถานการณ์ฝุ่น และแนะนำการปฏิบัติตนให้แก่พี่น้องประชาชน ชี้เป้าต้นตอหรือแหล่งกำเนิดฝุ่นของพื้นที่ เช่น การเผาในพื้นที่ป่า นาข้าว อ้อย ข้าวโพด ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะถูกส่งให้กับศูนย์ปฏิบัติการระดับจังหวัด หน่วยงานที่กำกับดูแลแหล่งกำเนิด เพื่อการระงับ ยับยั้งต้นตอ แหล่งที่ก่อให้เกิดฝุ่น"

ร้อยเอก รชฏ พิสิษฐบรรณกร ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม -น.ส.ปรีญาพร สุวรรณเกษ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ