"กฟผ."รุกใช้มินิบัส EV แทนดีเซลรับนโยบายความเป็นกลางทางคาร์บอน

11 ส.ค. 2566 | 01:13 น.

"กฟผ."รุกใช้มินิบัส EV แทนดีเซลรับนโยบายความเป็นกลางทางคาร์บอน มุ่ง ลดปัญหามลภาวะและการจราจร เผยกฟผ. แม่เมาะ มีจำนวนมากที่สุดถึง 28 คัน ร่วมขับเคลื่อนลำปางให้เป็นเมืองเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ

นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า กฟผ. มีนโยบายในการสนับสนุนการนำรถมินิบัสไฟฟ้า (EV) มาใช้ในพื้นที่ของ กฟผ. โดยเริ่มที่ กฟผ. สำนักงานใหญ่ ศูนย์การเรียนรู้ และที่ กฟผ. แม่เมาะ ซึ่งมีจำนวนมากที่สุดถึง 28 คัน ดำเนินการ โดย บริษัท อินโนพาวเวอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ กฟผ. ช่วยส่งเสริมนโยบายความเป็นกลางทางคาร์บอนของประเทศ 

และสนับสนุนแนวทางการพัฒนาพื้นที่อำเภอแม่เมาะและจังหวัดลำปางสู่การเป็นเมืองเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ ให้แม่เมาะและจังหวัดลำปางเป็นเมืองน่าอยู่สำหรับทุกคน โดยหันมาใช้รถบัสไฟฟ้าแทนรถบัสดีเซลแบบเดิม ซึ่งจะช่วยลดปัญหามลภาวะและฝุ่นละอองขนาดเล็กที่เกิดจากไอเสียของยานยนต์ และช่วยเพิ่มความคล่องตัวบนท้องถนนด้วยรถที่ขนาดเล็กลง 

สำหรับค่าเชื้อเพลิงเมื่อเทียบกับการใช้น้ำมันแล้ว รถมินิบัสไฟฟ้าจะใช้พลังงานเฉลี่ย 0.6 กิโลวัตต์ชั่วโมงต่อ 1 กิโลเมตร หรือคิดเป็นค่าไฟประมาณ 2.90 บาทต่อกิโลเมตร ในขณะที่รถน้ำมันจะมีค่าใช้จ่ายเชื้อเพลิงประมาณ 8 บาทต่อกิโลเมตร 

นอกจากนี้ ที่ผ่านมา กฟผ. ยังมีการรณรงค์ใช้รถไฟฟ้าในองค์กร เช่น มีการปรับรถประจำตำแหน่งผู้บริหารเป็นรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด และในอนาคตจะมีการปรับเปลี่ยนรถสำหรับใช้ในหน่วยงานต่าง ๆ เป็นรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย

กฟผ.รุกใช้มินิบัส EV แทนดีเซลรับนโยบายความเป็นกลางทางคาร์บอน ทั้งนี้ กฟผ. มุ่งมั่นสนับสนุนและขับเคลื่อนโครงสร้างพื้นฐานรองรับการใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV Ecosystem) ในระดับประเทศ ผ่านการดำเนินงานและการร่วมเป็นพันธมิตรกับองค์กรเครือข่ายต่าง ๆ อาทิ การติดตั้งสถานีชาร์จ EleX by EGAT ทั่วประเทศไทย ภายในสิ้นปี 2566 ตั้งเป้าหมายขยายสถานีและสถานีพันธมิตรในเครือข่าย จำนวนรวม 180 สถานี การพัฒนาแอปพลิเคชัน  EleXA สำหรับผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้า และพัฒนาระบบบริหารจัดการสถานีอัดประจุไฟฟ้า BackEN EV สำหรับองค์กร และภาคธุรกิจ

รวมถึงร่วมขับเคลื่อนและรณรงค์การใช้งานในแคมเปญระดับประเทศ เพื่อให้ประเทศพร้อมสูงสุดในการเปลี่ยนผ่านสู่การใช้ยานยนต์ไฟฟ้า สร้างระบบการเดินทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ปูทางสู่เป้าหมายร่วมตามนโยบายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในอนาคต

นายศิริวัฒน์ บุปผาเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง กล่าวว่า จังหวัดลำปางได้ร่วมมือกับ กฟผ. แม่เมาะ หน่วยงานภาครัฐและเอกชน ชุมชนแม่เมาะ พัฒนาอำเภอแม่เมาะให้เป็นเมืองน่าอยู่ (Mae Moh Smart City) โดยขับเคลื่อนการพัฒนาพื้นที่แม่เมาะ เพื่อมุ่งสู่เมืองเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำของจังหวัดลำปาง สอดรับกับนโยบาย Carbon Neutrality ซึ่งประเทศไทยมีเป้าหมายที่จะบรรลุ Net Zero Emission ภายในปี ค.ศ. 2065